จากกรณีกลุ่มงานนโยบายสโมสรนักศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ไม่ส่งตัวแทนร่วมรับเสด็จฯกรมสมเด็จพระเทพฯพิธีพระราชทานปริญญาบัตร ทำให้เกิดคำถามมากมายว่าใครเป็นผู้ริเริ่ม และต้องการทำแบบนั้นไปเพื่ออะไรนั้น???
ต่อมา นายจอม เพชรประดับ สื่อมวลชนอิสระ ผู้ลี้ภัยหนีคดีความมั่นคงในประเทศสหรัฐอเมริกา ออกมาโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Jom Petchpradab ถึงการเคลื่อนไหวของกลุ่มนักศึกษาแนวร่วมไม่รับปริญญาว่า
“หยุดพิธีกรรมศักดินา -ไม่รับพระราชทานปริญญา กระแสคนรุ่นใหม่ เริ่มที่จะไม่ให้คุณค่าบัณฑิตเพราะใบปริญญาอีกต่อไป แต่จะให้คุณค่าในความรู้ ความสามารถที่สร้างประโยชน์ต่อสังคมได้จริง
นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของการพูดคุยอภิปรายในเรื่องนี้ ผู้ร่วมอภิปรายมีดังนี้ ธนาธร วิทยเบญจางค์ รองนายกสโมสรนักศึกษา มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ – นาวินธิติ จารุประทัย ทีมงานนโยบายสโมสรนักศึกษา มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ คุณตี๋ เจ้าของโรงแรม River Art Hotel เชียงใหม่”
ล่าสุดวันนี้ 14 มกราคม 2565 นายไพศาล พืชมงคล อดีตกรรมการผู้ช่วยรองนายกรัฐมนตรี(พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ) ออกมาให้ข้อมูลถึงเรื่องมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ที่มีกลุ่มนักศึกษาบางคน ออกมากระทำเรื่องดังกล่าวว่า
“ผมเคยถามนักศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ที่มาฝึกงานว่า เมื่อจบการศึกษาแล้วจะเข้ารับพระราชทานปริญญาบัตรหรือไม่ เพราะเห็นข่าวมีการอ้างชื่อองค์การนักศึกษาเชียงใหม่ ชวนไม่ให้ไปรับพระราชทานปริญญา!
เขาบอกว่าไม่มีใครสนใจ เพราะทุกคนต้องการให้พ่อแม่ดีอกดีใจ ที่ลูกจบปริญญา และถือว่าเป็นเกียรติสูงสุดของชีวิตที่ได้เข้าเฝ้ารับพระราชทาน
การหลอกนักศึกษาไม่ได้รับพระราชทานนั้น เป็นการกระทำที่ไม่รับผิดชอบ เพราะวันหนึ่งไปหางานทำไม่ได้ พวกที่ชักชวนก็ไม่ได้รับผิดชอบอะไร เหมือนพวกที่ถูกดำเนินคดี ครอบครัวทางบ้านเดือดร้อน คนพวกนี้ก็ไม่รับผิดชอบ”
ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 13 มกราคม 2565 นายไพศาล ก็ได้โพสต์ข้อความถึงกรณีดังกล่าว เกี่ยวกับผู้ที่อยู่เบื้องหลังชักชวนนักศึกษาว่า ไม่ต้องสนใจพวกอยู่ในเงามืดที่ชักชวนนักศึกษาไม่ให้รับพระราชทานปริญญา
1.ขณะนี้มีการอ้างชื่อองค์กรนักศึกษาแห่งมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ในทำนองเชิญชวนหรือไม่ให้นักศึกษาเข้ารับพระราชทานปริญญาบัตร ทำให้คนบางกลุ่มหลงกลตั้งเป็นประเด็นถกเถียง ซึ่งเป็นเรื่องเสียเวลาเปล่า
2.ผู้ที่ทำการรณรงค์เรื่องนี้ไม่เปิดเผยตัวตนเป็นวิญญาณเวตาล อยู่ในเงามืด แต่ชักชวนนักศึกษาให้ทำลายอนาคตตัวเอง สังเกตุดูได้จากผู้อ่านและผู้เข้าชมน้อยนิดมาก
3.การชักชวนดังกล่าวไม่มีทางประสบความสำเร็จ เพราะนักศึกษาเขาไม่ได้โง่ เขาเห็นว่าการเข้ารับพระราชทานปริญญาบัตร เป็นพิธีการที่เป็นศิริมงคลต่อตนและครอบครัว เป็นโอกาสที่จะทำให้พ่อแม่อิ่มใจที่เห็นความสำเร็จของลูก
ไม่เห็นหรือว่ามีผู้เข้ารับพระราชทานปริญญาล้นหลามทุกครั้งทั่วประเทศ
4.การชักชวนแบบนี้เป็นการหลอกนักศึกษาให้ทำลายอนาคตตัวเอง เพราะเมื่อจบการศึกษาแล้วไปสมัครงานและหากความปรากฎว่าเป็นผู้ต่อต้านการรับปริญญาใครเขาจะรับเข้าทำงาน
จึงไม่พึงสนใจถกเถียงเรื่องนี้กันอีก”