จากม.ขอนแก่น ถึง “สภามช.”! อ้างความเท่าเทียม ไม่รับเสด็จฯกรมสมเด็จพระเทพฯ พิธีพระราชทานปริญญาบัตร!
จากกรณีที่เมื่อวานนี้ (11 มกราคม 2565) ทางเพจ งานนโยบาย สโมสรนักศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ CMU Student Union’s Policy Team ได้โพสต์ข้อความถึงกรณี พิธีพระราชทานปริญญาบัตร ของมหาวิทยาลัย โดยระบุข้อความว่า งานนโยบาย สโมสรนักศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ขอแสดงจุดยืน “ไม่ส่งตัวแทน และไม่ให้การสนับสนุนทุกวิถีทางในการรับเสด็จ” ในงานพิธีพระราชทานปริญญาบัตรทุกครั้งที่เกิดขึ้นในวาระการดำเนินงานของพวกเรา
พร้อมทั้งเสนอให้สมาชิกสโมสรนักศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และสโมสรนักศึกษาคณะและวิทยาลัยต่าง ๆ ปฏิเสธการส่งตัวแทนรับเสด็จ ด้วยเหตุผลทั้งสิ้น 2 ประการ ได้แก่
1. เป็นการสนับสนุนระบบศักดินา
2. เป็นรูปแบบหนึ่งของการกดขี่ให้คนไม่เท่ากัน
พิธีการรับเสด็จในการเข้ารับพระราชทานปริญญาบัตรนั้นจำเป็นต้องอาศัยคนจำนวนหนึ่งเพื่อไปแสดงออกถึงความรักและเคารพไม่ว่าจะด้วยวิธีการสมัครใจหรือวิธีการบังคับโดยทางอ้อมผ่านปัจจัยอื่น ๆ ที่อาจทำให้ผู้ที่ต้องไปยากที่จะปฏิเสธ การรับเสด็จเป็นการกระทำระหว่างกลุ่มคนสองกลุ่มที่ไม่เท่าเทียมกัน กลุ่มหนึ่งนั้นคือผู้ที่ถูกทำให้อยู่สูงกว่าในขณะที่อีกกลุ่มถูกทำให้ต่ำกว่า ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้วมนุษย์เราต่างเกิดมาอย่างเท่าเทียมด้วยเลือดเนื้อเชื้อไขเผ่าพันธุ์เดียวกัน เราต่างเป็น homo sapiens sapiens เหมือนกันทุกคนตามธรรมชาติ
ด้วยเหตุความเป็นจริงอันแท้นี้ทำให้ไม่มีเหตุผลอื่นใดที่จะใช้ลดทอนคุณค่าของมนุษย์พวกเดียวกันได้อีกแล้ว ขนบธรรมเนียม จารีต ประเพณีโบราณเหล่านี้จึงเป็นหนทางเดียวที่ใช้กดขี่เพื่อนมนุษย์ด้วยกัน การเข้ารับเสด็จจึงเป็นวิธีการหนึ่งของประเพณีโบราณดังกล่าวที่สร้างความเหลื่อมล้ำต่ำสูงให้กลายเป็นเรื่องปกติ ผ่านการหลอกลวงและกล่อมเกลาให้เห็นว่าเป็นเรื่องดีงาม ในขณะที่ปัจจุบันโลกได้เข้าสู่ยุคสมัยใหม่ ความเท่าเทียมและสิทธิมนุษยชนตลอดจนศักดิศรีของความเป็นมนุษย์ได้ถูกเชิดชูเหนือสิ่งอื่นใด ดังนั้นการเข้ารับเสด็จจึงเป็นการกระทำที่สืบทอดสิ่งตกค้างจากยุคโบราณที่จะดึงมนุษย์หวนกลับสู่ยุคมืด
การแสดงออกถึงความเท่าเทียมสามารถกระทำได้หลากหลายรูปแบบและมีหลากหลายวิธีที่เราจะยับยั้งหรือยุติความผิดพลาดที่มีมาแต่อดีต หนึ่งในวิถีทางที่เป็นการแสดงออกได้อย่างชัดเจนคือการปฏิเสธเข้ารับเสด็จและยึดมั่นในความเป็นมนุษย์ที่เท่ากัน มีเกียรติ ศักดิศรีและพึงได้รับการปฏิบัติอย่างเสมอถ้วนหน้ากัน
งานนโยบาย สโมสรนักศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ 11 มกราคม 2565 #CMUCallOut #CMUSUPolicyTeam
#งานนโยบายสโมสรนักศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่
ในขณะที่ทางเพจ นักเรียนดี ก็ได้โพสต์ข้อความว่า ตอนนี้เริ่มมีกระแสแบนการรับปริญญาบัตรจากพระบรมวงศานุวงค์ หากคุณเป็นอธิการบดีมหาวิทยาลัยหรือเป็นผู้มีอำนาจในการจัดเรื่องนี้ จะแก้ปัญหานี้ กันอย่างไรบ้างครับ?
ย้อนไปเมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2564 มีรายงานว่า ได้เกิดเหตุอันน่าสลดใจที่พี่น้องคนไทยผู้รักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ได้เห็นแล้วไม่สามารถทำใจได้ โดยเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 16.00 น. ณ บริเวณด้านหน้าอาคารศูนย์ศึกษาและประสานงานด้านสิทธิมนุษยชน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งตั้งอยู่ภายในอาณาบริเวณคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น (มข.) มีนักศึกษากลุ่มหนึ่งนำป้ายที่เขียนข้อความว่า ยกเลิก ม.112 และป้ายข้อความ ปล่อยเพื่อนเรา มาชูพร้อมกับยกมือชูสามนิ้ว
หลังจากนั้นนักศึกษากลุ่มนี้ได้นำชุดครุยที่ใช้สวมใส่เข้ารับพระราชทานปริญญาบัตรมาจุดไฟเผา โดยนักศึกษากลุ่มนี้เป็นนักศึกษาคณะนิติศาสตร์ ม.ขอนแก่นทั้งหมด เป็นกลุ่มที่เข้าร่วมเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาล ต่อต้านสถาบันพระมหากษัตริย์มาโดยตลอด
สำหรับภาพการทำกิจกรรมเผาชุดครุยรับพระราชทานปริญญาบัตรในครั้งนี้ได้มีการ Live เผยแพร่ในเพจขอนแก่นพอกันทีด้วย ขณะที่เว็บไซต์เดอะอีสานเรคคอร์ดภายใต้การกำกับดูแลของนายเดวิด สเตร็คฟัสส์ ฝรั่งชาวอเมริกันที่เข้ามาเคลื่อนไหวต่อต้านล้มล้างสถาบันกษัตริย์ของไทยมานานกว่า 20-30 ปีเองก็เกาะติดนำเสนอข่าวกิจกรรมครั้งนี้อย่างใกล้ชิดตั้งแต่ขั้นตอนนัดหมายรวมตัว
โดยแกนนำกลุ่มราษฎรขอนแก่น จัดกิจกรรมคัดค้านการรับปริญญา ณ บริเวณลานหน้าคณะนิติศาสตร์ ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรประจำปี 2564 โดยปีนี้มีผู้ได้รับอนุมัติปริญญาในระดับต่างๆ เข้ารับพระราชทานปริญญาบัตร จำนวน 7,894 คน โดยมีผู้ไม่เข้าร่วมพิธีรับพระราชทานปริญญาบัตรจำนวนกว่า 30% ของทั้งหมด กลุ่มราษฎรขอนแก่น ได้นำป้ายผ้ายกเลิกมาตรา 112 และปล่อยเพื่อนเรามาร่วมแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ ระหว่างพิธีพระราชทานปริญญาบัตรประจำปี 2564 ณ ลานหอสมุดคณะนิติศาสตร์
จากนั้นมีตัวแทนบัณฑิตร่วมการปราศรัยเกี่ยวกับเขตพระราชฐานส่วนพระองค์ หลังมีการเคลื่อนไหวยกเลิกการเข้ารับปริญญาบัตรของนักศึกษาตั้งแต่ช่วงปีที่ผ่านมา ส่งผลให้มีการขยายเขตพระราชฐานออกนอกเขตศูนย์ประชุมอเนกประสงค์กาญจนาภิเษกไปจนถึงตึกอธิการบดีฯ รวมทั้งปราศรัยเรียกร้องให้ปล่อยตัวแกนนำนักศึกษาและประชาชนที่ถูกขังอยู่ภายในเรือนจำด้วย