ดูเหมือนว่า สถานการณ์วิกฤตความตึงเครียดที่ชายแดนยูเครน-รัสเซียจะไม่ดีขึ้น เพราะการเจรจายกแรกที่เจนีวาก็ล้มเหลวเสียแล้ว เมื่อตัวแทนสหรัฐ ตีรวนรัสเซียต้องถอนทหารก่อน ขณะที่ฝ่ายรัสเซียยังยืนยันจุดยืนเดิมว่า นาโตต้องไม่เพิ่มสมาชิกและไม่ขยายกำลังทหารและนิวเคลียร์ในยุโรป พร้อมย้ำว่าจะไม่ถอนทหารออกจากชายแดนตราบใดที่สหรัฐ-นาโต-ยูเครนยังกร้าว ถ้าคุยไม้จบเกิดอะไรขึ้นสหรัฐจะต้องเป็นฝ่ายรับผิดชอบ เพราะรัสเซียมีสิทธิ์ปกป้องอธิปไตยของตนเอง
วันที่ 11 ม.ค.2565 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานผลการเจรจา กรณีวิกฤตยูเครนที่จัดขึ้น 3 ที่ 3 กลุ่ม ซึ่งการประชุมนัดแรกที่เจนีวาก็ล้มเหลวเพราะต่างฝ่ายต่างแข็งกร้าวในจุดยืนของตน
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ เวนดี้ เชอร์แมน และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย เซอร์เก ริบคอฟ พูดคุยเกือบแปดชั่วโมงเกี่ยวกับข้อเสนอที่เสนอโดยมอสโกสำหรับการรับประกันความปลอดภัยที่มีผลผูกพันทางกฎหมาย รวมถึงข้อเรียกร้องในการวางอาวุธและข้อจำกัดในการซ้อมรบทางทหาร อย่างไรก็ตาม เป้าหมายหลักประการหนึ่งสำหรับรัสเซียคือการทำให้วอชิงตันเห็นพ้องต้องกันว่า NATO จะไม่ขยายออกไปทางตะวันออก แต่ฝ่ายสหรัฐไม้ตอบรับ กลับเรียกร้องให้รัสเซียถอนทหารของตนออกจากชายแดนประเทศ ซึ่งแน่นอนรัสเซียไม่อาจทำตามได้
ในที่สุดสหรัฐได้ให้คำมั่นที่จะตอบกลับเป็นลายลักษณ์อักษรต่อการเจรจาเจนีวาในสัปดาห์หน้า
หลังจากการเจรจาในกรุงเจนีวาเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาริบคอฟ จะพบกับตัวแทนของ NATO ในวันพุธที่ 12 ม.ค. และกับ OSCE ในวันที่ 13 ม.ค. หลังจากนั้นมอสโกจะตัดสินใจว่าจะดำเนินการเจรจาต่อไปหรือไม่
ทางด้านสถานทูตรัสเซียออกมาแถลงตอบโต้สหรัฐที่เรียกร้องให้ถอนทหารก่อนในการประชุมที่เจนีวา โดยรัสเซียยืนยันจะดำเนินการฝึกซ้อมทางทหารต่อไปและย้ำว่ารัสเซียมีสิทธิ์ตัดสินใจด้วยตัวเองว่าจะส่งทหารไปที่ไหนในประเทศ
แถลงการณ์ระบุว่า“เราไม่เข้าใจตรรกะของรมว.ช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐที่ระบุว่ารัสเซียควร ‘ส่งกองทหารของตนกลับไปที่ค่ายทหารหรือรายงานสหรัฐฯว่ามีการฝึกอะไรบ้าง และมีวัตถุประสงค์อะไร ในขณะที่สหรัฐฯบ่ายเบี่ยงและไม่ตั้งใจจะหารือเกี่ยวกับระดับกำลังทหารของนาโตและสหรัฐในยุโรปกับเรา”
และย้ำว่า“สำหรับรัสเซียเรามีสิทธิ์ที่จะเลือกได้ว่าจะทำการฝึกทหารในดินแดนของเราที่ไหนและเมื่อใด เราจะดำเนินการต่อไปเพราะเป็นไปตามผลประโยชน์ด้านความมั่นคงของประเทศ”
สถานเอกอัครราชทูตรัสเซียยังปฏิเสธข้อกล่าวหาที่ทำเนียบข่าวปล่อยข่าวว่ามอสโกจะบิดเบือนและโกหกเกี่ยวกับการเจรจาในเจนีวา โดยโต้กลับว่าวิธีการดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงความเสื่อมโทรมของวัฒนธรรมการเจรจาการของสหรัฐเอง
“เราสังเกตเห็นคำแถลงของโฆษกทำเนียบขาวเจน ซากี(Jen Psaki) ระหว่างการบรรยายสรุปเมื่อวันที่ 10 มกราคม เกี่ยวกับการกล่าวหาว่ารัสเซียจะแพร่กระจายข้อมูลที่บิดเบือนผลการเจรจาระหว่างรัสเซียกับสหรัฐฯในเจนีวา เรื่องนี้เราขอปฏิเสธคำกล่าวร้ายดังกล่าว รัสเซียเสนอความเป็นจริงอย่างเต็มที่มาตั้งแต่แรกเริ่ม ประเทศของเราได้แสดงความโปร่งใสมาตลอดในการเจรจา”
เจน ซากี โฆษกทำเนียบขาวบอกกับนักข่าวเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาว่า สหรัฐฯ กำลังเตรียมพร้อม รับมือกับความเป็นไปได้ที่รัสเซียจะเผยแพร่ข้อมูลเท็จเกี่ยวกับพันธกรณีที่ไม่ได้เกิดขึ้นหลังจากการเจรจา
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศเซอร์เก ริบคอฟ(Sergey Ryabkov)ในฐานะผู้แทนรัสเซียในการเจรจาที่เจนีวาบ่นหนักว่า “เราเบื่อหน่ายกับการพูดคุยแบบหลวม ๆ การให้คำมั่นสัญญาอย่างไม่รับผิดชอบและการตีความอย่างผิด ๆเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้น”เขากล่าวถึงกรณีไม่กี่วันที่ผ่านมา แอนโทนี บลิงเคน รมว.ต่างประเทศสหรัฐฯแถลงกับสื่อว่า NATO และสหรัฐฯ ไม่เคยสัญญากับมอสโกว่า NATO จะไม่ขยายกำลังทหาร ไปทางทิศตะวันออก
ริบคอฟกล่าวว่า“ท่าทีของสหรัฐทำให้เราไม่ไว้ใจ ดังนั้นถ้าจะพูดกันตรงๆก็ต้องบอกว่า “พอได้แล้ว”
สถานการณ์ที่เกิดขึ้นส่อเค้าว่า การเจรจาเพื่อยุติวิกฤตยูเครน-รัสเซียคงยากที่จะเกิดขึ้นได้จริง แม้จะมีการเจรจาระหว่างเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัสเซีย-สหรัฐ-และนาโตในอีก 2 วันข้างหน้าก็ตาม เพราะเนื้อแท้สหรัฐไม่ได้ต้องการเจรจา การเข้าสู่โต๊ะเจรจาเป็นการยื้อเวลา ในขณะที่บลิงเคน,รมว.ต่างประเทศสหรัฐเดินสายล็อบบี้พันธมิตรตะวันตกให้ออกมาข่มขู่รัสเซียอย่างต่อเนื่อง งานนี้รัสเซียอาจไม่มีทางเลือกว่าจะกวาดสหรัฐและนาโต้ออกไปจากชายแดนรัสเซียได้อย่างไร เมื่อไหร่?ทำให้กลิ่นสงครามแนวรบยุโรปตะวันออกโชยมาอย่างไม่อาจละสายตาได้!!