ทุกปีชาวอเมริกันทั่วประเทศร่วมฉลองวันประกาศอิสรภาพในวันพุธที่ 4 ก.ค. โดยปีนี้ถือเป็นการครบรอบปีที่ 244 ที่สหรัฐฯประกาศแยกตัวเป็นอิสระจากอาณานิคมอังกฤษ ผ่านคำประกาศอิสรภาพสหรัฐอเมริกา หรือ Declaration of Independence ที่ประกาศในวันที่ 4 กรกฎาคม คริสตศักราช 1776 ในปีนี้ ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ และภริยา นางเมลาเนีย ทรัมป์จัดงานฉลองยิ่งใหญ่ ทั้งแสงสีเสียงอลังการ ที่ทำเนียบขาว,วอชิงตันดี.ซี. เป็นเจ้าภาพปิคนิคให้กับครอบครัวของทหารอเมริกัน ขณะที่บริเวณรอบๆ คนอเมริกันต่างความคิดต่างพรรคพวก ทะเลาะกันชุลมุนวุ่นวาย
บริเวณสนามหญ้าด้านหน้าอาคารรัฐสภาสหรัฐฯ มีการแสดงคอนเสิร์ตซึ่งมีนักร้องเข้าร่วมมากมาย รวมทั้ง The Beach Boys, The Temptations และ the National Symphony Orchestra ก่อนที่จะมีการจุดดอกไม้ไฟ 10,000 ลูก เฉลิมฉลองในช่วงเวลาประมาณสามทุ่มตามเวลาในสหรัฐฯ
แต่ละรัฐก็จะมีการจัดงานฉลองที่ต่างกันไป รวมทั้งกฎหมายควบคุมการซื้อขายดอกไม้ไฟที่ไม่เหมือนกันด้วย กล่าวคือ บางรัฐอนุญาตให้ประชาชนสามารถซื้อดอกไม้ไฟบางประเภทไปจุดเล่นเองที่บ้านได้
เกิดเหตุการณ์ชุลมุนระหว่างการเผชิญหน้ากัน ของกลุ่มผู้ประท้วงเรียกร้องความเท่าเทียมคนผิวดำ หรือ Black Lives Matter กับกลุ่มผู้สนับสนุนปธน.ทรัมป์ ในระหว่างการจัดงานเฉลิมฉลอง
ความเคลื่อนไหวของปธน.ทรัมป์ ท่ามกลางสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในสหรัฐยังวิกฤติอย่างหนัก ล่าสุดเมื่อวันศุกร์ที่ 3 ก.ค.2563 มีผู้ติดเชื้อรายใหม่กว่า 57,000 คน เป็นการสร้างสถิติใหม่ติดต่อกันเป็นวันที่สาม ผู้ติดเชื้อรายใหม่ส่วนใหญ่อยู่ในรัฐต่างๆ ทางภาคใต้ และตะวันตก รัฐนอร์ทแคโรไลนา เซาท์แคโรไลนา เทนเนสซี อะแลสกา มิสซูรี ไอดาโอ และแอละบามา รายงานจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่รายวันสูงเป็นตัวเลขสถิติใหม่ รัฐเท็กซัส มีจำนวนผู้ป่วยโควิด-19 เข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลเป็นจำนวนสูงมากติดอันดับสถิติสูงสุดอีกครั้ง ในขณะที่มีแพทย์รายหนึ่งออกมาเรียกร้องให้ดำเนินมาตรการในการล็อกดาวน์อย่างเข้มงวดภายในรัฐเท็กซัสเพื่อควบคุมการระบาดของโควิด-19 ขณะที่เมืองไมอามี ที่มีจำนวนประชากรมากที่สุดของรัฐฟลอริดาประกาศห้ามออกนอกเคหะสถานในวันก่อนช่วงสุดสัปดาห์งานฉลองวันชาติสหรัฐ ในวันที่ 4 ก.ค. รัฐฟลอริดาทำลายสถิติผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รายวันสูงที่สุดกว่า 10,000 คนในวันพฤหัสบดีที่ 2 ก.ค. 2563 ตามเวลาท้องถิ่น ส่วนรัฐอาร์คันซอ ร่วมนโยบายประกาศบังคับให้สวมหน้ากากอนามัยในสถานที่สาธารณะ
………………………………………
Cr:nbcnews, cnnnews