เปิดหนังสือ “ถาวร”ถึงประชาธิปัตย์ ให้ลบชื่อออกจากสมาชิกพรรค จบแล้ว53ปี

1623

จากที่ ถาวร เสนเนียม อดีตส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวเปิดใจหลังจากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้พ้นจากส.ส. ทำให้พ้นจากการเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ไปด้วยนั้น

ทั้งนี้นายถาวร ได้เดินทางมายังพรรคประชาธิปัตย์ สักการะพระแม่ธรณีบีบมวยผม เพื่ออำลา และได้เข้าพบนายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ ในฐานะแกนนำพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งนายชวนก็ได้ขอบคุณการทำหน้าที่ในช่วงที่ผ่านมา โดยให้กำลังใจ พร้อมระบุว่ากรณีที่เกิดขึ้นเหมือนพระอาทิตย์ตกเดี๋ยวพรุ่งนี้ก็ขึ้นใหม่ ขอให้ทำหน้าที่ของการเป็นนักการเมืองต่อไป ทั้งนี้ คำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญที่ระบุว่าผู้ที่เป็นส.ส.ต้องได้รับความไว้วางใจ มัวหมองไม่ได้ จึงถือว่าส.ส.ทั้ง 5 คน ขาดจากความเป็นส.ส.

“ดังนั้น ขอฝากไปยังเพื่อนในพรรคประชาธิปัตย์ว่า ผมต้องขอโทษพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะที่รวมจิตวิญญาณของบรรพบุรุษ และผมเสียดายที่ไม่ได้ทำหน้าที่ในสภาต่อไป” นายถาวร กล่าว

นอกจากนี้ นายถาวร ยังกล่าวด้วยว่า ยืนยันจะทำหน้าที่เป็นนักการเมืองต่อไป ส่วนจะอยู่ในบทบาทใดขอตั้งหลักก่อน อย่างไรก็ตามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้ทำให้ท้อใจ แต่กลับทำให้ฮึกเหิมมากกว่าเดิมเมื่อถามถึงกรณีการเลือกตั้งซ่อมจังหวัดสงขลา เขต 6 นายถาวร กล่าวว่า ตนได้ขาดจากการเป็นสมาชิกพรรค จึงขอวางตัวนิ่งเฉย

ล่าสุดวันที่ 7 มกราคม 2565 เฟซบุ๊ก ถาวร เสนเนียม ได้โพสต์ภาพพร้อมข้อความเปิดเผยถึงความคืบหน้าในการเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ โดยข้อความมีเนื้อหาจากนายถาวร ที่ระบุว่า

“ผมได้ทำหนังสือถึงพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อให้ถอนชื่อหรือลบชื่อออกจากสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ เนื่องจาก ศาลรัฐธรรมนูญได้วินิจฉัยให้พ้นจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรตามรัฐธรรมนูญมาตรา 101 (6) ประกอบมาตรา 98 (6)

ความเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ของกระผม จึงพ้นไปด้วย ตามข้อบังคับพรรคประชาธิปัตย์ พ.ศ. 2561 ข้อ 9 (7) ข้อ 15 (2) ประกอบกับเมื่อคราวประชุมใหญ่ตามข้อบังคับพรรคฯ ข้อ 81 ว่าด้วยองค์ประชุมของที่ประชุมใหญ่ เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2564 ก็ไม่ปรากฏรายชื่อข้าพเจ้า ในฐานะสมาชิกพรรคที่เป็นอดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และในฐานะสมาชิกที่เป็นอดีตรัฐมนตรี แสดงให้เห็นว่าพรรคประชาธิปัตย์ ได้พิจารณาดำเนินการเอาชื่อของข้าพเจ้าออกจากการเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์แล้ว

กระผมจึงขอให้พรรคประชาธิปัตย์ แจ้งการพ้นจากสมาชิกภาพของสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ไปยัง กกต. เพื่อให้ถอนชื่อหรือลบชื่อของข้าพเจ้าออกจากการเป็นสมาชิกภาพของพรรคประชาธิปัตย์ด้วย

กระผมเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ตั้งแต่วันที่ 20 กันยายน 2511 สมัยที่ยังเรียนอยู่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ นับถึงปัจจุบันเป็นเวลา 53 ปีเศษ”