ช่อ แกว่งปากแซะนายกฯ ติดโพลที่สุดแห่งปี!? เจอชาวเน็ตฟาดกลับ สงสัยตัวเองก่อน ไร้ผลงานทั้งปี ยังได้อันดับ 2!
จากกรณีเมื่อวันที่ 31 ธันวาคมที่ผ่านมา สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ได้สำรวจความคิดเห็นของประชาชน เรื่อง “ที่สุดแห่งปี” โดยครอบคลุมทั้งด้านการเมือง เศรษฐกิจ สังคม ฯลฯ ขั้นตอนแรกได้สำรวจด้วยคำถามปลายเปิดให้ประชาชนเสนอบุคคลที่ตนเองชื่นชอบ จากนั้นจึงนำคำตอบที่มีคะแนนสูงมาสร้างเป็นแบบสอบถาม “ที่สุดแห่งปี 2564” ให้ประชาชนได้ตอบแสดงความเห็นและสรุปเป็นฐานข้อมูล
ในปี 2564 นี้ได้สำรวจความคิดเห็นจากประชาชนทุกสาขาอาชีพ ทั่วประเทศ จำนวน 9,777 คน (สำรวจทางออนไลน์) ระหว่างวันที่ 27-30 ธันวาคม 2564 โดย นักการเมืองที่สุดชายแห่งปี 2564 ได้แก่
อันดับ 1 พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ 39.90 %
อันดับ 2 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา 32.39 %
อันดับ 3 ชลน่าน ศรีแก้ว 27.71 %
และนักการเมืองหญิงที่สุดแห่งปี 2564 ได้แก่
อันดับ 1 คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ 38.74%
อันดับ 2 พรรณิการ์ วานิช 33.89 %
อันดับ 3 จิราพร สินธุไพร 27.37 %
ล่าสุดทางด้าน น.ส.พรรณิการ์ วานิช กรรมการบริหารคณะก้าวหน้า ได้โพสต์ข้อความบนทวิตเตอร์ ถึงกรณีผลโพลดังกล่าวว่า จากสวนดุสิตโพล เมื่อดูฝั่งชาย ที่สุดอันดับสองเป็นพลเอกประยุทธ์ เลยเริ่มไม่แน่ใจว่าที่สุดนี่ อะไร “ที่สุด”
อย่างไรก็ตาม ก็ได้มีชาวเน็ตเข้ามาแสดงความคิดเห็นถึงกรณีดังกล่าวเป็นจำนวนมาก อาทิเช่น สองปีที่ผ่านมาคุณฉ้อ ไม่ได้มีผลงานอะไรเลยนะคะ น่าจะสงสัยในตัวเองมากกว่า ได้ติดโพลมายังไง คือ ที่สุด55555555555 , พูดไม่ดีก้อกระทบอีก 2 คนอ่อ , งง ????? , ผมก็สงสัยฝั่งหญิงนี่ที่สุดของอะไร คุณช่อได้ที่ 2 เหมือนกันเลย
ทั้งนี้ หลายคนได้ตั้งข้อสังเกตอีกว่า ผลงานของช่อ พรรณิการ์ตลอด 1 ปีที่ผ่านมานั้น มีอะไรบ้าง ในขณะที่พลเอกประยุทธ์ มีผลงานในการจัดการปัญหาต่างๆ อาทิเช่น การจัดการปัญหาโควิด รัฐบาลสามารถจัดหาวัคซีนได้ตามเป้าหมาย และฉีดวัคซีนฟรีให้ประชาชนได้มากกว่า 100 ล้านโดส เร็วกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ มีส่วนสำคัญทำให้ไทยสามารถควบคุมการแพร่ระบาด ลดยอดผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตลงได้ จนสามารถเปิดประเทศ เปิดกิจการและกิจกรรมต่างๆ ให้พี่น้องประชาชนได้กลับไปทำงาน เปิดร้านค้าและธุรกิจต่างๆ ได้บนมาตรการความปลอดภัย
ทั้งยังมี โครงการคนละครึ่ง ที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจและรักษากำลังซื้อในประเทศได้อย่างต่อเนื่อง พี่น้องประชาชนได้ประโยชน์จริง ทั้งผู้ซื้อและผู้ขายรายย่อย เฉพาะเฟส 3มียอดการใช้จ่ายสะสมกว่า 2 แสนล้านบาท และพร้อมขยายผลเฟส 4 ในช่วงเดือน มี.ค.- เม.ย.65 และท่ามกลางวิกฤตเศรษฐกิจจากโควิด รัฐบาลได้ออกโครงการค้ำประกันสินเชื่อ ที่สามารถช่วยพี่น้อง SMEs กระดูกสันหลังของเศรษฐกิจไทย ให้เข้าถึงแหล่งทุนได้ถึง 2.4 แสนล้านบาท นอกจากจะรักษาระดับการจ้างงานแล้ว ยังสร้างการจ้างงานใหม่ได้มากกว่า 2.65 ล้านตำแหน่ง และยังช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรในโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว สามารถช่วยเหลือชาวนาไทยได้ 4.7 ล้านครัวเรือน เป็นเงินมากกว่า 8 หมื่นล้านบาท
ในขณะที่ทางด้านของนายพิธา ในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร เมื่อวันที่ 15 ธ.ค. 2564 ได้ลงมติไม่รับหลักการร่างพ.ร.บ.ยกเลิกประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติและคำสั่งหัวหน้ารักษาความสงบแห่งชาติ พ.ศ…. ที่ขัดต่อหลักสิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตย พ.ศ….. ทั้งสองฉบับที่เสนอโดยนายจอน อึ๊งภากรณ์ กับประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง จำนวน 12,609 คน และอีกฉบับเสนอโดยพรรคก้าวไกล โดยผลปรากฎว่าร่างทั้ง 2 ไม่ผ่านการโหวต ถูกปัดตกจนทำให้พรรคก้าวไกลออกมาแถลงว่าผิดหวังและไม่พอใจอย่างมาก
ซึ่งในการลงมติในครั้งนี้ นายพิธาไม่ได้มาลงมติ เนื่องจากติดภารกิจสำคัญของครอบครัวที่ต่างจังหวัดไม่สามารถเลื่อนได้ และยังมีอีกหลายครั้งที่นายพิธา ไม่ได้เข้าร่วมประชุม เช่น
26 พ.ค.25 63 อ้างป่วย ไม่มาโหวตพิจารณากู้เงินฉุกเฉินก้อนใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ไทย
20 ก.พ.2564 อ้างเครื่องเสีย กดผิดงดออกเสียงไว้ใจธรรมนัส
9 มิ.ย.25 64 อ้างเจออุบัติเหตุแอดมิทกลางดึกไม่เข้าประชุม กมธ.งบประมาณ- พ.ร.ก.กู้ 5 แสนล้าน
15 ธ.ค.2564 อ้างมีธุระด่วนกับญาติไม่มาสภาโหวตคว่ำคำสั่ง คสช.ญัตติที่ก้าวไกลเสนอ
