หนาวยกพรรค! ป.ป.ช. เรียก “ศรีสุวรรณ” ให้ถ้อยคำเพิ่ม ปมร้องสอบ “ทักษิณวิดีโอคอล” ครอบงำเพื่อไทย

1805

หลังจากเป็นประเด็นให้มีการเรียกเรียนและยื่นต่อป.ป.ช. ให้สอบกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร ได้วีดีโอคอลกลางงานเลี้ยง สมาชิกพรรคเพื่อไทย ว่าเข้าข่ายครอบงำพรรคหรือไม่นั้น

ต่อมาเมื่อวันที่ 7 ธ.ค. 64 นายสนธิญา สวัสดี อดีตที่ปรึกษากรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร ได้เปิดเผยความคืบหน้าเรื่องนี้ ระบุว่ากกต. เรียกตนมาให้ถ้อยคำจากกรณีที่ยื่นเรื่องร้องต่อ กกต. ให้ยุบพรรคเพื่อไทย เนื่องจากนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี วิดีโอคอลงานเลี้ยงวันเกิดนายเกรียง กัลป์ตินันท์ สมาชิกพรรคเพื่อไทย อดีตสมาชิกบ้านเลขที่111 โดยคุยกับ สมาชิกพรรคผ่านวิดีโอคอลซึ่งอาจขัดและฝ่าฝืนต่อพ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง 2560 มาตรา 28, 29 และมาตรา 74 (1) เข้าข่ายครอบงำพรรคเพื่อไทยหรือไม่นั้น

“ผมกล่าวหาพรรคเพื่อไทย และอดีตนายกทักษิณ ว่ากระทำผิดต่อระบอบประชาธิปไตยและรัฐธรรมนูญ โดยอดีตนายกทักษิณ ได้ชี้นำครอบงำ ทำจริงและทำให้เห็น ซึ่ง จากคำพูดดังกล่าวของท่านกับสมาชิกพรรคว่า ไม่ต้องห่วงที่มีคนลาออกจากพรรคฯแม้รับเงินแล้วต้องกลับมา”

ล่าสุดทางด้านนายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เปิดเผยว่า ตนเองได้รับหนังสือจากสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ให้ไปให้ถ้อยคำในวันนี้ เรื่องที่สมาคมฯ ได้ร้องเรียนต่อ ป.ป.ช. เมื่อวันที่ 20 ต.ค.64 ที่ผ่านมา กรณีมีการเผยแพร่คลิปวิดีโอที่มีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนนตรี วิดีโอคอลเข้ามาพูดคุยกับ ส.ส. และผู้บริหารของพรรคเพื่อไทย กลางวงงานเลี้ยงวันคล้ายวันเกิดนักการเมืองดัง ในพื้นที่ย่านเหม่งจ๋าย เมื่อวันที่ 12 ต.ค. ที่ผ่านมา ว่ากระทำดังกล่าว เป็นการฝ่าฝืนกฎหมายหรือครอบงำหรือชี้นำพรรคการเมืองหรือไม่นั้น

กรณีดังกล่าวมีการจัดเลี้ยง ส.ส. และผู้ติดตามเป็นจำนวนมาก โดยมีการเสิร์ฟอาหารหวานคาว และที่สำคัญมีการเสิร์ฟไวน์หรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ในงานเลี้ยงดังกล่าวด้วย ซึ่งอาจถือได้ว่าเป็นการฝ่าฝืนข้อกำหนด ฉบับที่ 34 (ในขณะนั้น) ที่ออกตามความใน มาตรา 9 แห่ง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน 2548 ประกอบ มาตรา 34 (6) ของพ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ. 2558 ด้วย ซึ่งผู้ที่อยู่ในงานเลี้ยงดังกล่าวส่วนใหญ่เป็น “ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง” แต่กลับปรากฎว่าได้กระทำเสียเอง ซึ่งอาจเข้าข่ายการฝ่าฝืนมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง อันอาจเป็นความผิดตามกฎหมาย ซึ่งอยู่ในอำนาจของ ป.ป.ช. ที่จะทำการไต่สวน วินิจฉัย และเสนออัยการฟ้องต่อศาลเพื่อลงโทษให้พ้นจากตำแหน่งและตัดสิทธิการสมัครรับเลือกตั้งได้

ส่วนกรณีที่งานเลี้ยงดังกล่าวมี ส.ส. และผู้บริหารของพรรคเพื่อไทย เป็นจำนวนมาก แต่กลับปล่อยให้นายทักษิณวิดีโอคอลเข้ามาพูดคุยการเมืองด้วย อาจเป็นการฝ่าฝืน มาตรา 28 และ มาตรา 29 ของ พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง 2560 หรือไม่ เพราะกฎหมายดังกล่าวกำหนดว่า “ห้ามมิให้พรรคการเมืองยินยอมหรือกระทําการใดอันทําให้บุคคลอื่นซึ่งมิใช่ สมาชิกกระทําการอันเป็นการควบคุม ครอบงํา หรือชี้นํา กิจกรรมของพรรคการเมืองในลักษณะที่ทําให้ พรรคการเมืองหรือสมาชิกขาดความอิสระ ทั้งนี้ ไม่ว่าโดยทางตรงหรือโดยทางอ้อม” ซึ่งเรื่องดังกล่าว สมาคมฯ ได้ร้องเรียนกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ไว้แล้ว และคณะอนุกรรมการไต่สวนของ กกต. ได้เรียกไปไต่สวนแล้วเช่นกัน

“เรื่องที่เกิดขึ้น มีพยานหลักฐานเป็นวิดีโอคอล มีถ้อยคำผูกมัดชัดเจน พร้อมรูปถ่ายหน้าตาของ ส.ส. และผู้บริหารของพรรคเพื่อไทยกว่า 11 คน ซึ่งสมาคมฯ ได้มอบไว้ให้กับ ป.ป.ช. ทั้งหมด และน่าจะเป็นหลักฐานสำคัญที่ใช้เป็นหมัดน็อกพรรคการเมือง และหรือนักการเมืองที่ฝ่าฝืนกฎหมายได้ ซึ่งปีใหม่ 2565 น่าจะมีปรากฎการณ์ฟ้าผ่าแถว ๆ ถนนเพชรบุรีตัดใหม่อีกครั้งเป็นแน่แท้”