เจาะลึก “พปชร.ยุคตกต่ำ” แพ้แน่ ศึกแย่งพื้นที่ “ส.ส.หลักสี่” ขณะ “พรรคไทยภักดี” คือ ม้ามืดมาแรง

1933

คอยดูเลย ยับแน่นอน! เจาะลึก “พปชร.ยุคตกต่ำ” แพ้แน่ ศึกแย่งพื้นที่ “ส.ส.หลักสี่” ขณะ “พรรคไทยภักดี” ม้ามืดมาแรง คาดแซงทุกโค้ง!?

กำลังเป็นประเด็นที่น่าจับตามองเป็นอย่างมาก หลังจากที่ทางด้านของ ศาลรัฐธรรมนูญได้อ่านคำวินิจฉัยเมื่อวันที่ 22 ธ.ค.64 ว่า นายสิระ เจนจาคะ พ้นจากตำแหน่ง ส.ส. เนื่องจากขาดคุณสมบัติเพราะเคยถูกพิพากษาให้จำคุกมาก่อน และสั่งให้มีการจัดการเลือกตั้งซ่อม ภายใน 45 วัน

ซึ่งเป็นที่น่าจับตาว่าแต่ละพรรคได้เตรียมความพร้อมและเปิดชื่อผู้สมัครลงชิง ส.ส.เขตหลัก 4 แทนนายสิระ อย่างครึกครัก โดยมี พรรคเพื่อไทยจะส่งนายสุรชาติ เทียนทอง อดีต ส.ส.ในเขตนี้ลงแข่งขัน ขณะที่พรรคพลังประชารัฐ มีชื่อ นางสรัลรัศม์ เจนจาคะ ภรรยานายสิระ และทางด้าน พรรคประชาธิปัตย์ เตรียมส่ง พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ หรือผู้การแต้ม อีกคนที่น่าจับตามองก็คือ พรรคก้าวไกล นายกฤษณุชา สรรเสริญ จากอดีตพรรคอนาคตใหม่

ถึงอย่างไรก็ตามการเลือกตั้งซ่อมในครั้งนี้ พรรคพลังประชารัฐ ที่ส่ง นางสรัลรัศม์ เจนจาคะ ลงแข่งคงจะไม่ได้กินหมู เหมือนการเลือกตั้งเมื่อปี 62 อย่างแน่นอน เพราะถ้ามองตามหลักความเป็นจริงแล้ว เหตุผลสำคัญ และตัวแปรหลักที่ทำให้ นายสิระ ได้รับเลือกเป็น ส.ส.เขต 9 นั้น ส่วนหนึ่งมาจากการที่ นายสกลธี ภัททิยกุล จากพรรคประชาธิปัตย์ ยอมถอยให้ คะแนนจึงถูกเทไปที่ นายสิระ

เหตุใดถึงมองว่า นายสกลธี คือปัจจัยหลักที่ทำให้ทางด้านของ นายสิระ ได้เป็น ส.ส.เขต 9 ก็ต้องลองมองย้อนกลับไปดู การเลือกตั้ง ส.ส.กรุงเทพมหานคร เขตหลักสี่ ในปี 2554 ชัดเจนว่า นายสิระ ในนามพรรครักษ์สันติ ได้คะแนนเพียงแค่ 2,437 เสียง ในขณะที่ทางด้านของ นายสกลธี มาเป็นอันดับ 2 ได้คะแนน 25,704 เสียง

แต่พอมาใน ปี62 นายสกลธี ดำรงตำแหน่งรองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร จึงไม่ลงแข่ง ทำให้ฐานเสียงคะแนนที่ประชาชนเทให้ นายสกลธี ถูกโยกไปลงคะแนนให้กับทาง นายสิระ ในนามพรรคพลังประชารัฐ พุ่งขึ้นมาเป็นอันดับ 1 ทันที สูงถึง 34,907 คะแนน

ที่น่าสนใจเข้าไปใหญ่คือ ในวันที่ 22 ธ.ค.64 ทางด้านของ นายสกลธี ที่เรียกได้ว่าเป็นเจ้าถิ่นหลักสี่ในทางการเมือง ก็ได้ทำหนังสือลาออกจากพรรคพลังประชารัฐเป็นที่เรียบร้อย และที่น่าสนใจกว่าแค่การลาออกของ นายสกลธี ก็คือ พรรคไทยภักดี ก็ประกาศส่งผู้สมัครชิงเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เขต 9 ด้วยเช่นกันก็คือ นายพันธุ์เทพ ฉัตรนะรัชต์ นักธุรกิจหนุ่มไฟแรง ที่มีความสนิทสนม เป็นเพื่อนกันกับทางด้านของ นายสกลธี

อีกทั้งทางด้านของ พล.ต.นพ.เหรียญทอง แน่นหนา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ ซึ่งถือได้ว่าเป็นคนดีที่คอยช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในเขตหลักสี่มาอย่างยาวนาน ก็ประกาศลั่นว่า พร้อมให้ความสนับสนุน นายพันธุ์เทพ ในการสู้ศึกเพื่อหวังว่าจะสามารถปักธงแรกของพรรคไทยภักดีให้ได้

ทำให้หลายๆคนต่างหันมาจับตามอง พรรคไทยภักดี เพราะการผนึกกำลังของคนมากฝีมือเข้ามารวมตัวกัน การเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้ ม้ามืดอย่าง พรรคไทยภักดี ก็เรียกได้ว่าน่ากลัวไม่น้อย และอาจจะโค่นพรรคการเมืองใหญ่อย่าง พรรคพลังประชารัฐ หรือ พรรคเพื่อไทย ก็เป็นไปได้