การติดเชื้อ แพร่เชื้อได้อย่างรวดเร็วของเชื้อไวรัสกลายพันธุ์โอมิครอน ทำให้ประเทศร่ำรวยทั้งหลายพากัน เก็บกักวัคซีนเอาไว้สำหรับการกระตุ้น ขณะที่ประเทศยากจนหลายประเทศ ไม่ได้ฉีดแม้แต่แค่ “เข็มหนึ่ง” สะท้อน“ความไม่เท่าเทียมกัน” ใน “โลกแห่งทุนนิยม” ที่เปิดโอกาสให้บริษัทยายักษ์ใหญ่ร่ำรวยจนล้น แต่ประเทศยากจนถูกทอดทิ้งโดยที่องค์การอนามัยโลกก็ช่วยอะไรไม่ได้ ล่าสุด “บิล เกตส์” อภิมหาเศรษฐีได้ทำนายว่า การระบาดโควิด-19 จะสิ้นสุดภายในปลายปี 2022 แล้วกลายเป็นโรคประจำถิ่น แต่สหรัฐที่มีวัคซีนที่อ้างว่าดีที่สุดกลับยังคงรักษาแชมป์อันดับ1 ติดโควิดและเสียชีวิตมากที่สุดในโลก
วันที่ 23 ธ.ค.2564 จากวอชิงตัน สำนักข่าวซินหัวรายงานว่าเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา หนังสือพิมพ์ท้องถิ่นเมืองซานโฮเซ รัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐฯ แถลงถึงการอุบัติพร้อมกันของ “โรคระบาดซ้อนสาม” จากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ชนิดกลายพันธุ์ สายพันธ์ุเดลตา สายพันธุ์โอไมครอน และไข้หวัดใหญ่ อาจสร้างภาระหนักเกินกำลังที่ระบบสาธารณสุขของสหรัฐฯ จะรับมือได้ และก่อให้เกิดความทุกข์ทรมานและการเสียชีวิตมากมายนับไม่ถ้วน
บทความคิดเห็นพิเศษของหนังสือพิมพ์ฯ ระบุว่า “เราพบผู้ติดเชื้อไวรัสฯ สายพันธุ์เดลตาพุ่งสูง จากนั้นก็เผชิญการระบาดอันรวดเร็วของเชื้อไวรัสฯ สายพันธุ์โอไมครอน ในสัปดาห์ก่อนเหมือนกับทั่วโลก และยิ่งกว่านั้นคือเรากำลังเข้าสู่ฤดูไข้หวัดใหญ่”
ปัจจุบันสหรัฐฯ ซึ่งเป็นประเทศที่มีผู้ป่วยสะสมและผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 สูงสุดในโลกมาเป็นเวลานานนับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดในครั้งแรก จนถึงปัจจุบัน ตรวจพบผู้ป่วยมากกว่า 50 ล้านราย และผู้เสียชีวิตมากกว่า 800,000 รายแล้ว โดยสหรัฐฯ มีประชากรครองสัดส่วนราวร้อยละ 4 ของประชากรโลก แต่มีผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 คิดเป็นร้อยละ 15 ของยอดผู้ป่วยเสียชีวิตทั่วโลก
รายงานในหนังสือพิมพ์ท้องถิ่น ระบุว่า“นับเป็นโศกนาฏกรรมที่เราไม่สามารถรับมือได้ดีกว่านี้” “ตอนนี้เป็นเวลาที่เหมาะสมที่สุดในการทำสิ่งที่จำเป็นเพื่อบรรเทา ‘โรคระบาดซ้อนสาม’ ที่กำลังจะเกิดขึ้น และช่วยกันทำให้ปี 2022 เป็นปีที่เราหลุดพ้นจากวิกฤตโรคโควิด-19”
มหาเศรษฐีรายนี้กล่าวว่าเขายกเลิกแผนวันหยุดและเตรียมพร้อมสำหรับช่วงไม่กี่เดือนข้างหน้า เมื่อโอมิครอนระบาด และกล่าวว่าโรคระบาดอาจจะสิ้นสุดได้ในปลายปี 2022/2565 หากสหรัฐดำเนินการอย่างถูกต้อง เช่น การฉีดวัคซีนป้องกันให้ทั่วถึง สวมหน้ากาก และหลีกเลี่ยงการพบปะสังสรรค์ในร่มขนาดใหญ่
เขากล่าวว่า“สองสามเดือนนั้นอาจจะแย่ แต่ผมก็ยังเชื่อว่าถ้าเราทำตามขั้นตอนที่ถูกต้อง การระบาดใหญ่จะจบลงในปี 2022”
บิลล์ เกตส์มองว่าความเร็วในการตรวจหาสายพันธุ์ใหม่ รวมกับการพัฒนาวัคซีนและยาต้านไวรัส ทำให้เขาเชื่อว่า COVID-19 จะเป็นโรคประจำถิ่นในปี 2565
ดร.แอนโทนี เฟาซี(Dr. Anthony Fauci) ให้สัมภาษณ์กับ Good Morning America ว่าตัวแปรนี้แพร่กระจายรวดเร็วอย่างไม่เคยมีมาก่อน แต่เมื่อแพร่เร็วนั้นสามารถพลิกเป็นมีภูมิคุ้มกันต่อต้านไวรัสได้ในที่สุด เขากล่าวว่า “เมื่อคุณมีบางอย่างที่ขึ้นเร็วนี้ บ่อยครั้งคุณจะเห็นว่ามันกลับลงมาทันที สิ่งที่จะเกิดขึ้นก็คือเกือบทุกคนจะติดเชื้อ โดยเฉพาะผู้ที่ไม่ได้รับวัคซีน หรือแม้ผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนแล้วก็ตาม”
ยอดโควิดทั่วโลกในวันที่ 24 ธ.ค. 2564 สถิติจากเวิร์ลโดมิเตอร์ (Worldometer) ซึ่งเป็นเว็บไซต์รายงานข้อมูลล่าสุดโดยรวบรวมจากหน่วยงานด้านสาธารณสุขทั่วโลก รายงานจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ทั่วโลก อยู่ที่ 278,525,390 ราย เสียชีวิต 5,400,888 ราย
อันดับ 1 ยังเป็นสหรัฐอเมริกาติดโควิด 52,788,451 ราย ติดเชื้อเพิ่มวันละ 267,269 ราย เสียชีวิตทั้งสิ้น 834,455 ราย
สหรัฐพบเสียชีวิตจาก “โอมิครอน” รายแรกเป็นชาวเม็กซิโก ปัจจุบันเป็นสายพันธุ์หลักระบาดท้่วสหรัฐ 73% แซงหน้าเดลต้าไปเรียบร้อย
