ย้อนลึก นักกีฬาไทยไปแชมป์โลกสร้างชื่อปท.แต่ไร้ธงชาติบนยอดเสา! เกิดขึ้นหลายครั้ง 3เดือนแล้ว!
จากกรณีที่ “บาส-ปอป้อ” ทรัพย์สิรี แต้รันตชัย คู่ผสมมือ 1 ของโลกขวัญใจชาวไทย ได้รับเหรียญทองศึกแบดมินตันชิงแชมป์โลก ณ เมืองอูเอลบาร์ ประเทศสเปน เมื่อวันที่ 19 ธันวาคมที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามในช่วงพิธีรับเหรียญที่ต้องมีการเชิญธงชาติขึ้นสู่ยอดเสาทั้งผู้ที่ได้เหรียญทอง เหรียญเงิน และเหรียญทองแดง ปรากฎว่าไม่มีธงชาติไทยปรากฎอยู่บนยอดเสา โดยเป็นเพียงแต่สัญลักษณ์ของสมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทยฯ เท่านั้น
สาเหตุดังกล่าวเป็นเพราะว่าประเทศไทยโดนกำลังโดนแบนห้ามใช้ธงชาติไทยตามคำสั่งขององค์กรต่อต้านสารกระตุ้นโลก หรือ WADA เนื่องจากเหตุผลด้านกฎหมายของไทยที่ยังไม่สามารถรับรองกฎเกณฑ์ของทาง WADA ได้
แต่จะสามารถกลับมาใช้ธงชาติไทยในการแข่งขันมหกรรมกีฬาต่างๆ ได้ ก็ต่อเมื่อมีการแก้ไข พ.ร.บ.ควบคุมการใช้สารต้องห้ามของนักกีฬาเสียก่อน ที่สำคัญและต้องแก้ไขให้ได้ คือการปรับปรุงแก้ไขให้หน่วยงานที่ดำเนินการเกี่ยวกับการควบคุมการใช้สารต้องห้ามของประเทศไทย กลายเป็นหน่วยงานอิสระให้ได้
ในขณะทางด้าน นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม หัวหน้าพรรคไทยภักดี ได้โพสต์ข้อความถึงกรณีดังกล่าวว่า #พวกท่านมัวทำอะไรกันอยู่ หลังจากที่ นักกีฬาแบดมินตันคู่ผสมมือ 1 ของโลก ได้รับเหรียญทองศึกแบดมินตันชิงแชมป์โลก ณ เมืองอูเอลบาร์ ประเทศสเปน เมื่อวันที่ 19 ธันวาคมที่ผ่านมา แต่ในช่วงพิธีรับเหรียญที่ต้องมีการเชิญธงชาติขึ้นสู่ยอดเสา ปรากฎว่าไม่มีธงชาติไทยปรากฎอยู่บนยอดเสา มีแต่ชาติที่ได้รับเหรียญเงินและเหรียญทองแดง เนื่องจากไทยเราโดนแบนห้ามใช้ธงชาติไทยตามคำสั่งขององค์กรต่อต้านสารกระตุ้นโลก หรือ WADA จะต้องมีการแก้ไข พ.ร.บ.ควบคุมการใช้สารต้องห้ามของนักกีฬาเสียก่อน
โดยนายพาทิศ ศุภะพงษ์ เลขาธิการสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า เรื่องบทลงโทษของวาด้าที่จะมีผลต่อการแข่งขันเอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ นั้น ทาง สหพันธ์ฟุตบอลอาเซียน (เอเอฟเอฟ) ในฐานะฝ่ายจัดการแข่งขันจะเป็นผู้ประสานงานกับทางวาด้าถึงมาตรการต่างๆ แล้วนำมาแจ้งอีกครั้ง โดยมีทั้งทีมชาติไทยและอินโดนีเซีย ที่ถูกลงโทษจากวาด้าอยู่ ทางเอเอฟเอฟนั้นเห็นแนวทางจากเอเอฟซี ที่จัดการแข่งขันในช่วงที่ผ่านมาแล้ว ในเบื้องต้นคิดว่าน่าจะยึดตามแบบดังกล่าว คือไม่ให้ประดับธงชาติของไทยและอินโดนีเซียในสนามแข่งขัน แต่ยังสามารถเปิดเพลงชาติได้อยู่ อย่างไรก็ตาม จะต้องรอการยืนยันเรื่องนี้อย่างเป็นทางการอีกครั้งหนึ่ง
และต่อมาเมื่อวันที่ 9 ธันวาคมที่ผ่านมา การแข่งขันยกน้ำหนักชิงแชมป์โลก 2021 ที่ยูนูโซบอด สปอร์ต คอมเพล็กซ์กรุงทาชเคนต์ ประเทศอุซเบกิสถาน ปรากฏว่า นักยกน้ำหนักทีมชาติไทย โชว์ผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมด้วยการกวาดไปทั้งหมด 5 เหรียญทอง 2 เหรียญเงิน รับเหรียญรางวัลกลับไม่มีธงชาติไทยโบกสบัด หลังจากที่วงการกีฬาไทยถูกองค์การต่อต้านการใช้สารต้องห้ามโลก (WADA) แบนเป็นเวลา 1 ปีตั้งแต่วันที่ 8 ต.ค.2564 ที่ผ่านมา
โดยเรื่องนี้ นายก้องศักดิ์ ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ให้สัมภาษณ์รายการเจาะลึกทั่วไทย Inside Thailand ระบุว่า ได้ปฏิบัติตามกฎของ WADA ทุกอย่างแล้ว เพียงแต่แก้กฎหมายไม่ทัน ซึ่งได้เร่งด่วนในการแก้กฎหมายแล้ว ความคืบหน้าในการพิจารณาปรับปรุงแก้ไขพระราชบัญญัติควบคุมการใช้สารต้องห้ามทางการกีฬา พ.ศ. 2555 เพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล โดยขณะนี้ การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) อยู่ระหว่างการรับการประเมินผลการดำเนินการการต่อต้านการใช้สารต้องห้าม
ต่อมาเมื่อวันที่ 28 ต.ค.2564 ที่ผ่านมา การกีฬาแห่งประเทศไทย ได้อัพเดทความคืบหน้า ซึ่งทาง WADA ได้ชี้แจงการใช้ธงชาติไทยผ่าน AIBA โดยเนื้อหาระบุว่า ตามประกาศขององค์กรต่อต้านการใช้สารต้องห้ามโลก ไม่ให้การรับรองประเทศไทย เนื่องจากยังไม่ได้ปฏิบัติตามธรรมนูญขององค์กรต่อต้านการใช้สารต้องห้ามโลก ในด้านของการบังคับใช้กฎหมาย ซึ่งเป็นที่ทราบกันแล้วว่า อยู่ระหว่างการพิจารณาปรับปรุงแก้ไขพระราชบัญญัติควบคุมการใช้สารต้องห้ามทางการกีฬา พ.ศ. 2555 เพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล โดยสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สมาคมมวยสากลสมัครเล่นแห่งประเทศไทย ได้แจ้งว่า ในการส่งนักกีฬาเข้าร่วมการแข่งขันที่สาธารณรัฐเซอร์เบีย ขณะนี้ มีประเด็นเรื่องธงชาติไทย ในเครื่องแต่งกายของนักกีฬา ทำให้นักกีฬาไม่สามารถใส่เสื้อผ้าที่ติดธงชาติไทยได้ ในกรณีดังกล่าว ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการ กกท. ไม่ได้นิ่งนอนใจ และเร่งประสานงานไปทางวาดา และ ไอบา เพื่อให้เกิดความชัดเจน และไม่กระทบต่อการเป็นตัวแทนทีมชาติไทย
ผู้ว่า กกท. กล่าวว่า หลังจากการประสานงานโดยเร่งด่วน นับเป็นข่าวดีที่ ทั้งสองหน่วยงานได้หารือกันและชี้แจงผ่าน กกท. แล้วว่า สำหรับเครื่องแต่งกายของนักกีฬาสามารถติดธงชาติได้ ทั้งนี้ ไม่ได้จัดให้มีขบวนพาเหรดในการแข่งขัน จึงไม่มีการแสดงธงชาติ และยังไม่สามารถแสดงสัญลักษณ์ธงชาติบริเวณพื้นที่การแข่งขันได้ จากประกาศของวาดา ที่ทราบกันนั้น มาตรการและข้อกำจัดที่วาดามีต่อประเทศไทยนั้น อยู่ในระดับที่เบาและได้รับการลดหย่อนอย่างมากแล้ว ประเทศไทย ปฏิบัติตามธรรมนูญของ WADA อย่างเคร่งครัด ต่อเนื่องและผ่านการตรวจประเมินเป็นที่น่าพอใจมาโดยตลอด มีเพียงข้อกฎหมายเท่านั้น ที่ต้องปรับให้เป็นไปตามมาตรฐานที่วาดาให้การรับรองได้
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ประเด็นดังกล่าว ได้กลับมาเป็นกระแสอีกครั้ง ทำให้คนไทยเกิดการตั้งคำถามว่า เหตุในส.ส.ในสภา โดยเฉพาะฝ่ายค้าน ถึงไม่มีการผลักดันหรือเดินหน้าแก้ไขกฎหมายดังกล่าว กลับเงียบกริบถึงกรณีของธงชาติไทย ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องใหญ่ระดับประเทศ ที่ต้องรีบเร่งแก้ไขโดยเร็ว