Truthforyou

“ปิยบุตร” เดือดจัด เลือดขึ้นหน้า หมิ่นเหม่เหยียดหยาม คำวินิจฉัยศาลฯ!?

ดุดันเสียเหลือเกิน!? “ปิยบุตร” เดือดจัด เลือดขึ้นหน้า หมิ่นเหม่เหยียดหยาม คำวินิจฉัยศาลฯ พร้อมปลุกปั่น ไม่มีผลเด็ดขาด!?

สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 10 พ.ย.64 ที่ผ่านมา ศาลรัฐธรรมนูญ ได้วินิจฉัยให้การชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุมที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) ศูนย์รังสิต เมื่อวันที่ 10 ส.ค. 2563 ซึ่งมีนายอานนท์ นำภา นายภาณุพงศ์ จาดนอก และ น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล เป็นผู้ปราศรัย เป็นการกระทำที่เป็นการล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

นอกจากนี้ ตุลาการยังมีการระบุด้วยว่า การกระทำผู้ถูกร้องทั้ง 3 คน มีการตั้งเป็นกลุ่มเครือข่าย และยังมีส่วนในการจุดประกายให้เกิดความรุนแรงในบ้านเมือง ทำให้เกิดความแตกแยกในบ้างเมือง เป็นการทำลายหลักภราดรภาพ นำไปสู่การทำลายระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

“การออกมาเรียกร้องโจมตีในสาธารณะ โดยอ้างการใช้สิทธิเสรีตามรัฐธรรมนูญ นอกจากเป็นวิถีทีไม่ถูกต้อง ใช้ถ้อยคำหยาบคาย และยังไปละเมิดสิทธิเสรีภาพของประชาชนที่เห็นต่างได้ด้วย อันจะเป็นกรณีตัวอย่างให้คนอื่นทำตาม” ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญระบุ

หลังจากนั้นทางกลุ่มผู้สนับสนุนการชุมนุม ได้ออกมาต่อต้านคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ โดยอ้างคำว่า “ปฏิรูปไม่เท่ากับล้มล้าง” แต่ประชาชนทั่วไปต่างเห็นภาพบนเวที ในวันดังกล่าวแล้ว ก็เกิดความสงสัยว่าน่าจะเป็นการแก้ตัวได้ยาก เพราะบนเวทีเขียนชัดเจนว่า “เราไม่ต้องการปฏิรูปเราต้องการปฏิวัติ” ใช่หรือไม่

ถึงอย่างไรก็ตามล่าสุด ในวันที่ 20 ธ.ค.64 ทางด้านของ นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า ได้โพสต์ข้อความที่ค่อนข้างหมิ่นเหม่ดูหมิ่นคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญในประเด็นดังกล่าวอย่างรุนแรง ผ่านเฟสบุ๊คส่วนตัว โดยมีรายละเอียดว่า

คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่มีผลบังคับผูกพันทุกองค์กรนั้นต้องเป็นคำวินิจฉัยที่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญด้วย หากไม่เป็นคำวินิจฉัยที่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญแล้วนั้นย่อมไม่มีผลเป็นเด็ดขาดและไม่ผูกพันทุกองค์กร

เนื่องจากหากปล่อยให้คำวินิจฉัยที่ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญผูกพันทุกองค์กรจะหมายถึงว่า ศาลรัฐธรรมนูญสามารถวินิจฉัยเกินรัฐธรรมนูญก็ได้แล้วก็ไปผูกพันกับทุกองค์กร หากเป็นเช่นนี้ศาลรัฐธรรมนูญก็จะขยายขอบเขตอำนาจขึ้นไปมากขึ้นๆ จนกลายเป็นรัฐธรรมนูญเสียเอง และนานวันเข้าศาลรัฐธรรมนูญก็จะเป็นองค์กรที่อยู่เหนือรัฐธรรมนูญเสียเองและต่อไปก็จะผูกขาดการตีความรัฐธรรมนูญไว้แต่เพียงผู้เดียว เกิดวันดีคืนดี ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้ พระอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันตก ตกทางทิศตะวันออก เขียนให้หมูเป็นหมา ให้หมาเป็นไก่ หากเขียนคำวินิจฉัยที่ผิดธรรมชาติเช่นนี้ แล้วต้องผูกพันทุกองค์กรเช่นนั้นหรือ ?

ดังนั้น การจะผูกพันทุกองค์กรได้คำวินิจฉัยต้องชอบด้วยรัฐธรรมนูญเสียก่อน

ผมยืนยันว่าคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญที่ 19/2564 หรือที่เรียกกันว่าคดีล้มล้างการปกครองฯ มีปัญหาไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ ย่อมไม่มีผลบังคับผูกพันตามรัฐธรรมนูญ

พร้อมกับติดแฮชแท็ก ว่า #ปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ #ศาลรัฐธรรมนูญ #ล้มล้างการปกครอง #ปฏิรูปไม่เท่ากับล้มล้าง #ศาลรัฐธรรมนูญมีไว้ทำไม

Exit mobile version