พระ 3 นิ้วลี้ภัย อยู่ยากในต่างแดน จากเคยถูกใช้ให้ล้างส้วม วันนี้ได้เงินเดือนน้อยนิด แถมอีก 3 ปี ต้องหาประเทศอยู่ใหม่!

4485

หลังจากเมื่อวันที่ 30 ม.ค.64 พระปัญญา สีสัน หนึ่งในแกนนำพระแครอท ที่ขึ้นเวทีปราศรัยร่วมกับม็อบคณะราษฎร ขณะนี้ได้หลบหนีคดี พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ อยู่ในค่ายลี้ภัยทางยุโรป ได้โพสต์ข้อความว่า สุขภัณฑ์นั่งยองแบบใช้ฟรัชวาล์วชนิดไร้คอห่าน ปุ่มฟรัชเรียบหรูน่าใช้ ขอบกระเบื้องเป็นแสตนเลสอย่างหนา หากมองอย่างถี่ถ้วนก็จะเห็นว่า ในห้องน้ำนี้ไม่มี แปรงล้างทำความสะอาดสุขภัณฑ์ ไม่มี ช่องใส่กระดาษชำระ ไม่มี ถังน้ำ/สายฉีดชำระ ไม่มี ถังขยะ (เศษบุหรี่ที่พื้น)

ที่ค่ายจัดคนทำความสะอาดวันละ 2 รอบ แต่ละรอบห่างกัน 12 ชม. แม้โดยส่วนมาก ทุกคนจะขับถ่ายทุกวัน แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนจะขับถ่ายลงท่อได้อย่างแม่นยำ บางคนก็รีบจัด ลืมกดฟรัช และบางครั้งของขับถ่ายซึ่งมีน้ำมากเมื่อถูกแรงขับจากกำลังภายในก็แตกกระจาย กระสานซ่านเซ็นติดเกรอะกรังตามฝาผนัง ทำให้สะท้อนถึงชะตากรรมที่ยากลำบากในต่างแดน

ทั้งนี้มีรายงานจากเว็บไซต์ BBC ระบุว่า “พระปัญญาได้สถานะผู้ลี้ภัยมาตั้งแต่กลางเดือน มี.ค. 2564 ซึ่งในกรณีของเขา ทางการเยอรมนีอนุญาตให้พำนักอยู่ในประเทศได้ 3 ปี พร้อมกับให้ค่าใช้จ่ายรายเดือน 446 ยูโร (ประมาณ 16,700 บาท) ไม่รวมค่าเช่าอีก 260 ยูโร (ประมาณ 9,700 บาท) นอกจากนี้ยังออกเงินค่าประกันสุขภาพและค่าเรียนภาษาเยอรมันให้ด้วย”

นอกจากนี้พระปัญญาเล่าถึงตอนอยู่ในค่ายลี้ภัย ว่าต้องทำงานหนักแลกข้าว 3 มื้อ ชีวิตนับตั้งแต่ก้าวออกจากแผ่นดินไทย บาตรที่นำติดตัวมาด้วย ใช้งานนับครั้งได้ เพราะอาหารไม่ต้องบิณฑบาต แต่ต้องต่อแถวรอรับอาหารเหมือนกับคนอื่น ๆ ในค่ายผู้ลี้ภัย ซึ่งบางครั้งก็มีวิวาทะกันบ้างเวลาถูกแซงคิว โดยเฉพาะในช่วงที่สภาพอากาศหนาวเย็น แต่ก็มีญาติโยมที่เดินทางนำอาหารมาใส่บาตรถึงหน้าค่ายผู้ลี้ภัย 4-5 ครั้ง ส่วนสถานะใหม่ที่ได้มาแล้วอย่างแน่นอนคือ ผู้ลี้ภัยการเมืองในเยอรมนี แต่สถานะความเป็นภิกษุก็ยังสมบรูณ์ แม้จะไม่มีสังกัด หรือวัดอยู่ ก่อนหน้านี้ได้รับเงินค่าใช้จ่ายรายจากรัฐบาลเดือนประมาณ 300 ยูโรเศษ (ประมาณ 11,200 บาท) เพิ่มขึ้นมากกว่าเท่าตัวจากตอนที่อยู่ในค่ายแรกรับซึ่งได้ที่ 116 ยูโรต่อเดือน (ประมาณ 4,350 บาท)


อย่างไรก็ตามได้มีกลุ่ม 3 นิ้วที่ติดตามชีวิตลี้ภัยของพระปัญญา มองว่าพระนั้นโชคดี ที่ยังได้เงิน และได้ลี้ภัย ไม่ต้องรับผิดมาตรา 112 แต่เงินที่ได้นั้น ก็ไม่ได้มีมูลค่าสูง เทียบเท่าเงินเดือนของเด็กจบใหม่ในไทยด้วยซ้ำ แถมห้องที่รัฐบาลจ่ายค่าเช่าให้ หากถามคนที่อยู่ต่างแดน จะรู้ว่าเงินเท่านั้น อยู่ได้เพียงห้องเล็ก ๆ หรือบ้านหลังเล็กที่แคบมาก ๆ นอกจากนี้เมื่อได้รับสิทธิประโยชน์นาน 3 ปี เมื่อถึงเวลานั้นก็อาจจะต้องหาประเทศลี้ภัยใหม่ หรือกว่าจะยื่นขอวีซ่าต่ออายุไปเรื่อย ๆ ก็คงต้องดิ้นรนอีกไม่น้อยเลย พร้อมทั้งยังมีคอมเม้นต์ถามพระปัญญาด้วยว่า ในเมื่อมีสถานะลี้ภัยขนาดนี้แล้ว สึกออกจากพระจะดีกว่าหรือไม่ จะได้ไม่ต้องเกี่ยวข้องกับศาสนา หรือห่มผ้าเหลืองให้ดูไม่ดีออกต่อไป จนทำให้มีความเห็นแย้งเชิงจับพิรุธด้วยว่า พระ 3 นิ้วรูปนี้ อาจจะอาศัยสมณะของสงฆ์ ไว้หาอาหารหรือปัจจัยดำรงชีพในต่างแดนเพิ่มก็เป็นไปได้เช่นกัน