สมศักดิ์หนักแล้ว!หมอเหรียญบุกยื่นหนังสือด่วนถึงนายกเอง ส่อโดนม.112ด้วย?

1704

จากที่กระแสสังคมส่งเสียงถึงนายกรัฐมนตรี ถึงการลดโทษผู้ต้องหากลุ่มคดีทุจริตจำนำข้าวที่มีการพิจารณาลดโทษให้เป็นอย่างมาก ซึ่งอาจผิดหลักเกณฑ์ที่ถูกต้อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาจเป็นการระคายเคืองต่อสถาบันเบื้องสูงนั้น

ล่าสุดวันนี้ 16 ธันวาคม 2564  พลตรี เหรียญทอง แน่นหนา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ ในฐานะหัวหน้าคณะประชาชน ได้ออกมาแจ้งความคืบหน้าในการดำเนินการถึงเรื่องดังกล่าวผ่านการโพสต์เฟซบุ๊กว่า

เวลา 10.00 น. ผมจะนำสารถึง ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี ที่สำนักนายกรัฐมนตรีด้วยตนเอง ทั้งนี้เพื่อจะเริ่ม ‘ปฏิบัติการตรวจสอบโดยคณะทำงานประชาชน’ต่อกระบวนการอันไม่ชอบด้วยกฎหมายในการขอพระราชทานอภัยโทษแก่นักโทษโกงชาติ

ดังหนังสือถึง ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี ตามที่แนบ ทั้งนี้เพื่อขอให้ ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี สนับสนุน ‘คณะทำงานประชาชน’ ในการเรียกข้อมูลข่าวสารของราชการที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการพิจารณาและดำเนินการขอพระราชทานอภัยโทษแก่นักโทษโกงชาติ (ดังหนังสือจริงตามภาพที่แนบ)

เรื่อง ขอข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการขอพระราชทานอภัยโทษระหว่างปี พ.ศ.2563-2564

กราบเรียน ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี

อ้างถึง พระราชบัญญัติ ข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ.2540

เนื่องจากการขอพระราชทานอภัยโทษเนื่องในวันมหามงคลระหว่างปี พ.ศ.2563 – 2564 ที่ผ่านมาได้มีการอภัยโทษ ลดหย่อน ผ่อนโทษ แก่นักโทษร้ายแรงจากการทุจริตประพฤติมิชอบที่ทำลายหลักนิติธรรมซึ่งจะกลายเป็นบรรทัดฐานที่เป็นอันตรายต่อเศรษฐกิจและสังคมอันเป็นการบ่อนทำลายความมั่นคงของชาติอย่างร้ายแรงในอนาคต อีกทั้งการอภัยโทษที่เกิดขึ้นเป็นการกระทำไม่บังควรต่อพระราชอำนาจของพระมหากษัตริย์

จนทำให้สังคมโดยรวมเกิดความไม่สงบสุขเพราะมีความสงสัยในกระบวนการพิจารณาและดำเนินการของกระทรวงยุติธรรมและ/หรือส่วนราชการที่เกี่ยวข้องจนเป็นชนวนเหตุแห่งความไม่ศรัทธา ไม่เชื่อมั่นในการบริหารงานยุติธรรมโดยกระทรวงยุติธรรม ซึ่งถือเป็นหลักการสำคัญยิ่งในการธำรงรักษาไว้ซึ่งความสงบสุขเรียบร้อยแก่สังคมโดยรวมซึ่งถือเป็นความมั่นคงของชาติ

กระผมและคณะ ผู้ขอเรียกตนเองว่า ‘คณะประชาชน’ มีความประสงค์ขอรับการสนับสนุนจาก ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี ด้วยการอำนวยความสะดวกและสนับสนุนให้คณะทำงานประชาชนนี้ได้ใช้สิทธิตาม พระราชบัญญัติ ข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ.2540

ทั้งนี้เพื่อความโปร่งใสและให้ได้มาซึ่งข้อมูลข่าวสารของราชการที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการขอพระราชทานอภัยโทษระหว่างปี พ.ศ.2563-2564 โดยข้อมูลข่าวสารของราชการนี้จะเป็นพยานหลักฐานที่พิสูจน์ให้เห็นว่ากระบวนการขอพระราชทานอภัยโทษแก่นักโทษร้ายแรงจากการทุจริตประพฤติมิชอบที่ได้สร้างความเสียหายอย่างร้ายแรงต่อเศรษฐกิจและสังคมอย่างมหาศาลอันเป็นการบ่อนทำลายความมั่นคงของชาตินั้นมีการดำเนินการอย่างเชื่อถือได้หรือไม่ ถูกต้องตามระเบียบบริหารราชการแผ่นดินและชอบด้วยกฎหมายหรือไม่

การดำเนินการนี้จะนำมาซึ่งการฟื้นศรัทธาและความเชื่อมั่นในการบริหารงานยุติธรรมทั้งแก่รัฐบาลและกระทรวงยุติธรรมเองซึ่งจะนำมาซึ่งความสงบสุขเรียบร้อยภายในประเทศ

เนื่องจากรายละเอียดข้อมูลข่าวสารของราชการที่คณะทำงานประชาชนต้องการนั้นมีรายละเอียดมากมาย ดังนั้นคณะประชาชนจึงขอการสนับสนุนจาก ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี ด้วยการอนุมัติหลักการให้ส่วนราชการต่างๆสนับสนุนข้อมูลข่าวสารของราชการอย่างสะดวก ไม่สร้างอุปสรรคหรือขั้นตอนอันไม่สมควร เนื่องจากคณะทำงานประชาชนมุ่งหวังการตรวจสอบความถูกต้องในกระบวนการเท่านั้น จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณา ด้วยความเคารพอย่างสูงยิ่ง

อย่างไรก็ตามเมื่อข้อความของหมอเหรียญทอง เผยแพร่ออกไปก็มีคนเข้ามาร่วมแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก และมีบางข้อความที่น่าสนใจ เช่น

“อภัยโทษพิสดารคือละเมิดพระราชอำนาจทำระคายเคืองต่อเบื้องพระยุคลละบาท ผิด คดีหมิ่น (ม.112) และผิดฐานละเว้น (ม.157) โทษถึงขั้นประหารชีวิต …

แค่ ลาออกยังไม่เพียงพอกับโทษที่กระทำผิด เพราะ ผิดฐานเพ็ดทูลหลอกลวงเบื้องสูงว่านักโทษอุกฉกรรจ์คดีโกงชาติเป็นคนดีที่หนึ่งต้องลดโทษและพระราชทานอภัยโทษให้/โทษผิดมหันต์ต้องประหารสถานเดียว …

ไทยทั้งชาติ อยากเห็น คนเกี่ยวข้องกับการทุจริตลดโทษและอภัยโทษพิสดาร ถูก ประหารชีวิต โดยเฉพาะ สมศักดิ์ เทพสุทิน”