หลังจากที่รัฐสภา มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร โดยวันนี้มีนายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาฯ คนที่สอง ทำหน้าที่ประธานที่ประชุม ซึ่งที่ประชุมได้พิจารณาร่างพ.ร.บ.ยกเลิกประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติและคำสั่งหัวหน้ารักษาความสงบแห่งชาติ พ.ศ…. ที่ขัดต่อหลักสิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตย พ.ศ….. ที่ภาคประชาชนเข้าชื่อเสนอ
โดยที่ประชุมได้ลงมติไม่รับหลักการร่าง พ.ร.บ. ดังกล่าว ด้วยมติ 234 เสียง ต่อเสียงเห็นชอบ 162 เสียง ทั้งนี้มีงดออก 3 เสียง
นอกจากนี้ได้ที่ประชุมได้ลงมติ ร่าง พ.ร.บ.ยกเลิกประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติและคำสั่งหัวหน้ารักษาความสงบแห่งชาติ พ.ศ…. ที่ ส.ส.พรรคก้าวไกลเป็นผู้เสนอ ซึ่งที่ประชุมมีมติไม่เห็นด้วย 229 เสียง ต่อเสียงเห็นชอบ 157 เสียง งดออก 4 เสียง
ต่อมาผู้สื่อข่าวรายงานว่า ร่างพ.ร.บ.ทั้ง 2 ฉบับ ที่ประชุมสภาฯ ได้อภิปรายในเนื้อหาเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยส.ส.ที่อภิปรายส่วนใหญ่ไม่มีใครคัดค้านต่อการปลดล็อคคำสั่งคสช.ที่มีผลกระทบ
ทำให้ล่าสุดในทวิตเตอร์ของพรรคก้าวไกล ได้ออกมาทวีตข้อความ รายงานผลการนับคะแนนว่ามติถูกปัดตก ทำให้มีกองเชียร์ก้าวไกลแสดงความไม่พอใจอย่างงมาก นอกจากนี้ในทวิตเตอร์ของนายรังสิมันต์ โรม ยังได้ทวีตข้อความไว้ระหว่างโหวตมติ โดยระบุว่า “จับตาการลงมติร่าง พรบ. ยกเลิกประกาศ-คำสั่ง คสช. ที่ ปชช. เข้าชื่อเสนอมาถึง 13,409 คน ซึ่งในการอภิปรายเมื่อสัปดาห์ก่อน สส ฝ่ายรัฐบาลอภิปรายแค่คนเดียว โดยไม่ได้คัดค้านด้วย พูดง่าย ๆ คือไม่มีใครไม่เห็นด้วย มาลองดูกันว่า ส.ส. รัฐบาลจะโหวตด้วยสามัญสำนึก หรือจะมีธงมาแต่แรกแล้วว่าจะคว่ำกันแน่”
อย่างไรก็ตามได้มีคอมเม้นต์แสดงความคิดเห็นถึงพรรคก้าวไกลว่า หากถามว่าทำไมในสภาส.ส.ฝ่ายรัฐบาลถึงไม่รับหลักการ ให้ดูที่จำนวนส.ส.ฝ่ายค้านดีกว่า ว่าไปไหนหมด ทำไมถึงไม่ลงคะแนนให้ ทั้งที่ก็มีจำนวนไม่น้อย
นอกจากนี้นายยิ่งชีพ อัชฌานนท์ ผู้จัดการโครงการอินเตอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน (ไอลอว์) ได้แถลงด้วยว่า วันนี้อาจจะเป็นอีกวันหนึ่งที่รู้สึกผิดหวัง เสียใจ และโกรธ ที่สภาฯหรือผู้มีอำนาจในการออกกฎหมายปัดตก ไม่แม้แต่จะรับสิ่งที่ประชาชนจะช่วยกันผลักดันเข้าชื่อ รณรงค์ และทำกิจกรรมต่าง ๆ หลายครั้ง เพื่อนำรายชื่อมาเสนอสภาฯจนสำเร็จ หากประชาชนรู้สึกเศร้า เสียใจ และโกรธ เรายังมีอำนาจการลงโทษผู้แทนราษฎรในการเลือกตั้งครั้งต่อไป ขอให้จดจำว่าใครที่ลงมติไม่รับหลักการโดยไม่มีเหตุผล ต้องไม่เลือกคนเหล่านั้นกลับมาอีก