มีรายงานจากศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ระบุว่าพนักงานอัยการสำนักงานคดีอาญา 5 ได้เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายอานนท์ นำภา อายุ 37 ปี , นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ เพนกวิน อายุ 23 ปี และนายชินวัตร จันทร์กระจ่าง หรือ ไบรท์ แกนนำกลุ่มราษฎร เป็นจำเลยที่ 1 – 3 ตามลำดับ
ในความผิด ฐานหมิ่นประมาทแสดงความอาฆาตมาดร้ายสถาบัน , ร่วมกันชุมนุมโดยไม่ได้รับอนุญาตและกระทำการอันเป็นการกีดขวางรบกวนสถานที่ทำการราชการ , ร่วมกันกระทำการอันฝ่าฝืนมาตรฐานการป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19 , ร่วมกันฝ่าฝืนประกาศด้านการควบคุมมโรค , ร่วมกันใช้เครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาต ฯลฯ
โดยอัยการโจทก์ระบุฟ้องความผิดสรุปว่า เมื่อวันที่ 21 ธ.ค.63 จำเลยทั้งสามกับพวกที่แยกดำเนินคดีต่างหาก ได้บังอาจร่วมกันกระทำความผิดต่อกฎหมายหลายบทหลายกรรมต่างกัน กล่าวคือ ขณะที่จำเลยทั้งสามกับพวกเดินทางมาที่ สน.บางเขน เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา กรณีการร่วมชุมนุมที่บริเวณหน้ากรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ (ร.อ.) แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน จำเลยทั้งสามกับพวกได้บังอาจร่วมกันเป็นผู้จัดการชุมนุมสาธารณะ โดยมีผู้ร่วมชุมนุมประมาณ 150 คน พร้อมจัดกิจกรรม แสดงดนตรี กางเต็นท์ ดัดแปลงรถ จยย. (ซาเล้ง) 2 คัน ใช้เป็นเวทีปราศรัย ติดเครื่องขยายเสียง ตั้งขบวนคล้ายลักษณะแห่ขันหมาก จากหน้าหมู่บ้านอัมรินทร์ ก่อนเคลื่อนขบวนไปหน้า สน.บางเขน โดยไม่จัดให้มีการตรวจวัดอุณหภูมิ เว้นระยะห่าง และกล่าวปราศรัยโจมตีคัดค้านการทำงานของรัฐบาล กับแสดงความคิดเห็นพาดพิงถึงสถาบันเบื้องสูง
ต่อมาวันที่ 16 ก.ค.64 พวกจำเลย ได้เข้ารับทราบข้อกล่าวหา พร้อมให้การปฏิเสธ การกระทำของจำเลยเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 , พ.ร.บ.โรคติดต่อ , พ.ร.ก.บริหาราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินฯ และกฎหมายอื่น ๆ ทั้งนี้ ท้ายคำฟ้องพนักงานอัยการขอให้นับโทษจำเลยทั้งสามต่อจากโทษคดีอื่น รวมทั้งคัดค้านการปล่อยชั่วคราว เนื่องจากคดีมีอัตราโทษสูง เกรงว่าจะไปกระทำผิดซ้ำอีก ศาลประทับฟ้องคดีไว้พิจารณาหมายเลขดำ ที่ อ.3124/2564 และนัดสอบคำให้การจำเลยวันที่ 15 ธ.ค.เวลา 09.00 น.
