เกิดกระแสข่าวฮือฮาที่ก่อความวิตกในสังคมสหรัฐขึ้น เมื่อนิตยสารและสำนักข่าวชื่อดังเผยแพร่บทความและการให้สัมภาษณ์นักวิเคราะห์ค่ายไมโครซอฟท์ว่า กลุ่มสนับสนุนทรัมป์ 20-30 ล้านคนเตรียมจับอาวุธโค่นล้มปธน.โจ ไบเดน ผลตอบรับจากผู้สื่อข่าวค่ายอื่นๆมองว่า เป็นกลยุทธ์กำจัดอดีตปธน.ทรัมป์มากกว่า เพราะเขาเริ่มเปิดตัวหนุน นักการเมืองริพับลิกันในเทศกาลเลือกตั้งกลางปีที่จะมาถึง ทั้งเริ่มแย้มว่ามีโอกาสจะกลับมาลงแข่งอีกในการเลือกตั้ง 2024 อาจเพราะกระแสความนิยมไบเดนและรองปธน.ตกต่ำลงอย่างไม่คาดคิดในช่วงเวลาระยะสั้นๆ
WATCH: The Donald Trump coup in 2024? @jheil lays out the extraordinary realities of the mass movement in America.
"This is 30 million people right now who are ready to take up arms" to restoring Donald Trump in office. "That's not hyperbolic at all. Those are all facts." pic.twitter.com/Qc4kZRXnVs
— Meet the Press (@MeetThePress) December 12, 2021
วันที่ 12 ธ.ค. 2564 สำนักข่าวเอ็มเอสเอ็นบีซีและนิตยสาร ดิแอ็ตแลนติกรายงานว่า จอห์น ไฮล์มันน์ (John Heilemann)นักวิเคราะห์กิจการระดับชาติของ MSNBC ซึ่งเป็นค่ายในสังกัดไมโครซอฟท์ ทำให้ชาวอเมริกันจำนวนมากตกใจโดยอ้างว่ามีประชาชน 20 ถึง 30 ล้านคนพร้อมที่จะ “จับอาวุธ” เพื่อถอดประธานาธิบดีโจ ไบเดนออกจากตำแหน่ง
ในงานแถลงข่าว ‘Meet the Press’ ของวันอาทิตย์ที่ 12 ธ.ค.ที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวชัค ทอดด์ (Chuck Todd) สัมภาษณ์ไฮล์มันน์เกี่ยวกับบทความล่าสุดในนิตยสารดิแอตแลนติกที่ระบุว่า”การทำรัฐประหารของโดนัลด์ ทรัมป์ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว” ซึ่งเนื้อหาเหล่านี้ ไฮล์มันน์เห็นด้วยอย่างยิ่ง เขากล่าวว่า
“มีงานวิจัยชิ้นที่แสดงให้เห็นว่าคนอเมริกันประมาณ 8% และอาจมากถึง 12% ที่เชื่อเต็มที่ว่าโจ ไบเดนทำผิดกฎหมาย โกงเลือกตั้ง และความรุนแรงเป็นเครื่องมือที่เหมาะสมในการเอาเขาออกจากตำแหน่งและฟื้นฟูสิทธิ์ของโดนัลด์ ทรัมป์” เขากล่าวว่านี่เป็นตัวแทนความคิดของผู้คนระหว่าง 20 ถึง 30 ล้านคน
เขาอ้างว่า “นั่นหมายถึงอเมริกัน 20 ถึง 30 ล้านคนเหล่านี้พร้อมที่จะจับอาวุธ” ผู้สนับสนุนทรัมป์เหล่านี้เป็นตัวแทนของ”ขบวนการมวลชนเพื่อสนับสนุนความรุนแรงทางการเมือง”
ในบทความของนิตยสารดิแอตแลนติก โดยบาร์ตัน เกลแมน (Barton Gellman) มีการโต้แย้งว่า“การทำรัฐประหารของทรัมป์อาจจะพึ่งพาการโค่นล้มทางการเมืองมากกว่าใช้ความรุนแรง”และการจลาจลใน Capitol ในวันที่ 6 มกราคม เป็นกลยุทธิ์ของอดีตประธานาธิบดี เกลแมนอ้างว่าทรัมป์จะใช้กลยุทธ์ทางการเมืองวางผู้สนับสนุนที่เหมาะสม ให้อยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้องทั้งในระดับประเทศและระดับท้องถิ่น อาจนำไปสู่การเลือกตั้งประธานาธิบดีในปี 2024 ที่จะไม่ได้มาจากการลงคะแนนเสียง
‘คำทำนาย’ ของเกลแมน ได้เผชิญกับการตรวจสอบอย่างละเอียดจากผู้คนที่มองว่าเป็นการเข้าข้างเดโมแครตและรัฐบาลไบเดนที่เกินความจริง และคำประกาศของ เฮลล์แมนว่าหลายสิบล้านคนกำลังรอเพื่อ”จับอาวุธ” นั้นได้รับการตอบรับด้วยการวิพากษ์วิจารณ์จากสื่อด้วยกันว่าการออกอากาศของ MSNBCและ นิตยสารที่ตีพิมพ์ดังกล่าวขาดความรับผิดชอบ
สื่อท้องถิ่นอเมริกาแนววิเคราะห์(Citygist) มองว่า อาจมีคนคิดว่าการควบคุมตำแหน่งประธานาธิบดี วุฒิสภา และสภาได้เบ็ดเสร็จจะทำให้ฝ่ายหนุนเดโมแครตมีความสุข แต่บทความที่ตีพิมพ์ในวันจันทร์ที่The Atlanticและขยายต่อในวันอาทิตย์ใน MSNBC แสดงให้เห็นว่า แม้จะประสบความสำเร็จในการเลือกตั้งทั้งหมด แต่เดโมแครตยังหวาดกลัว เกลียดชัง และหวาดระแวงมากกว่าที่เคย
นับตั้งแต่โจ ไบเดนเข้ารับตำแหน่ง ทีมบริหารของเดโมแครตก็ทำงานอย่างขยันขันแข็งเพื่อทำลายล้างและทำลายการต่อต้านวาระของเขาทั้งหมด และเพื่อตอกย้ำภาพโดนัลด์ ทรัมป์และผู้สนับสนุนของเขาในฐานะศัตรูของประชาธิปไตย เสรีภาพ และทุกสิ่งที่ดีสำหรับชาวอเมริกัน อย่างแรกคือวันที่ 6 มกราคม “การจลาจล” ไม่มีใครถูกสังหารยกเว้นผู้สนับสนุนทรัมป์และทรัมป์เองที่เรียกร้องให้ประท้วงอย่างสันติ แต่ในการโฆษณาชวนเชื่ออย่างเป็นระบบ สิ่งนี้ได้กลายเป็นภัยคุกคามที่ร้ายแรงกว่าสิ่งใดๆ ให้คำจำกัดความภัยคุกคามว่าก่อการร้ายในประเทศ
จากนั้น มีการทำลายล้างอย่างต่อเนื่องต่อผู้สนับสนุนทรัมป์ในฐานะไวท์ซุปเปอร์มาซิสต์หรือ “ผู้มีอำนาจสูงสุดผิวขาว” และการยืนกรานซ้ำแล้วซ้ำเล่าของทีมงานไบเดน ว่า เป็นภัยคุกคามที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่ประเทศกำลังเผชิญอยู่ในทุกวันนี้ และตอนนี้ก็มาถึงคิวนิตยสารและสำนักข่าวMSNBCที่แสดงภาพผู้สนับสนุนของทรัมป์พร้อมที่จะทำลายสังคมเสรีประชาธิปไตยของอเมริกา สิ่งนี้เต็มไปด้วยความเท็จ และการโฆษณาชวนเชื่อ
ตอนนี้มีพรรครีพับลิกันหลายคนที่เชื่อว่าพรรคเดโมแครตกำลังวางแผนที่จะทำอย่างนั้น พวกฝ่ายซ้ายใหม่ในพรรคเดโมแครตกล่าวหาว่า พรรคอนุรักษ์นิยมจะทำลายประชาธิปไตยและผู้นำของความพยายามที่ชั่วร้ายนี้คือ โดนัลด์ ทรัมป์ เกลแมนกล่าวถึงศจ.ริดชาร์ด เฮเซน (Richard L. Hasen) ศาสตราจารย์ด้านกฎหมายและรัฐศาสตร์ที่ยูซีเออร์วีน (UC Irvine) ว่า “ภาวะฉุกเฉินด้านประชาธิปไตยได้มาถึงแล้ว เราเผชิญกับความเสี่ยงร้ายแรงของระบอบประชาธิปไตยอเมริกาที่เราทราบดีว่าจะสิ้นสุดลงในปี 2024”