จากที่วันนี้ 13 ธันวาคม 2564 เฟซบุ๊ก ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ได้เผยแพร่ข้อมูลที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง เกี่ยวกับการยื่นประกันตัวของผู้ชุมนุม ซึ่งมีเนื้อหาบางช่วงที่ถือว่า ควรต้องพิจารณาว่าเป็นไปอย่างถูกต้องหรือไม่ เมื่อศาลไม่ให้ประกันตัว???
วันที่ 9 ธันวาคม 2564 ทนายความได้ยื่นคำร้องขอประกันตัว ‘แซม ซาแมท’ ต่อศาลอาญา ในคดีซึ่งถูกกล่าวหาว่าราดน้ำมันวางเพลิงศาลพระภูมิของสน.ดินแดง ในกิจกรรมไว้อาลัย ‘วาฤทธิ์’ ในม็อบ29 ตุลา ทนายยังได้ยื่นคำร้องขอประกันตัว ‘ขจรศักดิ์’ (สงวนนามสกุล) และ ‘คเชนทร์’ (สงวนนามสกุล) ซึ่งถูกกล่าวหาว่าปาระเบิดป้อมจราจรตรงแยกพญาไท หลังการชุมนุมหน้า สน.พญาไท
นอกจากนี้ ทนายยังได้ยื่นขอประกัน ‘พรพจน์ แจ้งกระจ่าง’ ในคดีซึ่งถูกกล่าวว่าขว้างวัตถุคล้ายระเบิดลงบนพื้นถนนบริเวณใต้ทางด่วนดินแดง ซึ่งต่อมาศาลอาญามีคำสั่งไม่ให้ประกันตัวผู้ต้องหาทั้ง 4 ราย โดยระบุเหตุผลว่าไม่เหตุให้เปลี่ยนแปลงคำสั่ง
ทนายความได้ยื่นขอประกันตัวผู้ถูกคุมขังทั้ง 4 ราย ต่อศาลอาญา โดยยื่นเสนอหลักประกันของแต่ละรายเป็นเงินสด ดังนี้ แซม 75,000 บาท ขจรศักดิ์และคเชนทร์ 12,000 บาท และพรพจน์ 10,000 บาท สำหรับขจรศักดิ์และพรพจน์ ทนายได้ยื่นข้อเสนอให้ติดกำไล EM ด้วย
ทนายหวั่น ‘แซม’ ติดโควิดในเรือนจำครั้งที่ 3 ยังไม่เคยได้รับวัคซีนโควิดเพราะไร้สัญชาติ แซม ซาแมท อายุ 20 ปี ซึ่งทนายได้ระบุเหตุผลในคำร้องยื่นขอประกันเกี่ยวกับการที่แซมไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุวางเพลิงศาลพระภูมิของสน.ดินแดง แต่อย่างใด และแซมยังไม่ได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ใดๆ เนื่องจากมีสถานะเป็นผู้ไร้สัญชาติ ซึ่งอาจเสี่ยงต่อการติดเชื้อโควิดในเรือนจำเป็นครั้งที่ 3 ได้ อีกทั้งในขณะถูกตำรวจเข้าควบคุมตัวในคดีนี้ แซมได้ถูกตำรวจใช้กำลังประทุษร้ายและกระทืบหน้าอกจนได้รับบาดเจ็บ ส่งผลให้เกิดอาการผวาและเครียด จนเคยกินยาเกินขนาดและในอดีตมีประวัติในการกินยาฆ่าแมลงมาแล้ว
ขจรศักดิ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 18 ปี และคเชนทร์ (สงวนนามสกุล) อายุ 19 ปี ทนายได้ระบุเหตุผลในคำร้องยื่นขอประกันว่า ในชั้นจับกุมนั้นทั้งสองได้ให้การปฏิเสธและประสงค์ที่จะต่อสู้คดีจนถึงที่สุด ทั้งสองยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหาเท่านั้น และยังไม่ได้ถูกศาลตัดสินว่าได้กระทำความผิดจริง นอกจากนี้ทั้งสองยังไม่เคยได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ใดๆ มาก่อนเลย จึงอาจเสี่ยงต่อการติดเชื้อโควิดภายในเรือนจำที่มีผู้ต้องขังจำนวนมากและมีความแออัดสูงได้ ที่สำคัญนั้น ขจรศักดิ์ มีความจำเป็นต้องออกมาทำงานเพื่อหาเงินเลี้ยงดูลูกอายุ 6 เดือน และครอบครัว
ด้าน พรพจน์ แจ้งกระจ่าง อายุ 49 ปี ทนายได้ระบุเหตุผลในคำร้องยื่นขอประกันว่า หากพรพจน์ไม่ได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวจะทำให้ไม่อาจหาหลักฐานและปรึกษาทนายความเพื่อต่อสู้คดีได้อย่างเต็มที่ อีกทั้งพรพจน์ยังเป็นเสาหลักของครอบครัว ที่มีภาระหน้าที่ในการหารายได้เลี้ยงดูครอบครัว นอกจากนี้ยังต้องดูแลแม่ที่ป่วยเป็นโรคมะเร็งเต้านมอีกด้วย
ทั้งนี้ จากคำสั่งไม่ให้ประกันของศาลอาญา ทำให้ผู้ต้องหาทั้ง 4 ราย ถูกควบคุมตัวอยู่ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ต่อไป คเชนทร์และขจรศักดิ์ ซึ่งถูกคุมขังมาตั้งแต่วันที่ 8 ตุลาคม 2564 ขณะนี้ผ่านมาเป็นเวลา 63 วัน กรณีพรพจน์ ถูกขังตั้งแต่วันที่ 20 ตุลาคม 2564 อยู่ในเรือนจำรวม 51 วันแล้ว ส่วนแซม สาแมท ซึ่งถูกคุมขังมาตั้งแต่วันที่ 30 ตุลาคม 2564 ขณะนี้ผ่านมาเป็นเวลา 41 วันแล้ว
อย่างไรก็ตามทีมข่าวเดอะทรูธ ตรวจสอบถึง แซม สาแมท ก็พบความเคลื่อนไหวอื่นๆอีกว่า เมื่อวันที่ 6 กันยายน 2564 นายสมบัติ บุญงามอนงค์ นัดชุมนุมขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่แยกอโศกมนตรี นายแซม ผู้ต้องหาคดีการชุมนุมทางการเมืองที่ได้รับการประกันตัว ขึ้นเวทีปราศรัยบางช่วงว่า
“ผมติดโควิดในเรือนจำมาแล้ว 2 รอบ พ่อผมเป็นคนไทย ทำไมรัฐไทยให้สัญชาติไม่ได้ แต่ให้อยู่ในเรือนจำได้ สบู่ 7 ก้อน ใช้ 60 คน ยาสีฟัน 1 กระปุก ใช้ 60 คน ยุงกัด อาหารกินไม่ได้ ไม่มีรสชาติ หลายคนโดนกลั่นแกล้ง เรียกร้องไม่ได้ การออกมาพูดวันนี้ อาจโดนถอนประกัน แต่อยากบอกว่า จะสู้ แม้จะติดคุกอีกกี่ร้อยชาติ ก็ยืนยันว่า ต่อให้ตัวตายก็ขอไม่เป็นทาสเผด็จการ”
นอกจากนี้เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2564 ทวิตเตอร์ TLHR / ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน รายงานสถานการณ์การชุมนุมที่แยกดินแดงเมื่อวันที่ 29 ตุลาคม ที่ผ่านมาว่า แซม สาแมท ถูกแจ้งข้อหาวางเพลิง,ทำให้เสียทรัพย์ ฝากขังศาลอาญาเช้านี้ อีก 4 รายถูกตั้งข้อหา #พรกฉุกเฉิน #มั่วสุม ฝากขังศาลแขวงพระนครเหนือ โดย 3 ใน 5 รายถูกทำร้ายระหว่างถูกควบคุมตัว
สำหรับนายแซม สาแมท หรือ อาร์ท ชายไร้สัญชาติ โดยพบว่าเป็นบุคคล เชื้อชาติกัมพูชา มีภาพปรากฏในโลกโซเซียลไปร่วมชุมนุมที่หน้า สน.ดินแดง เมื่อวันที่ 29ต.ค. มีพฤติกรรมลบหลู่นำน้ำแดง และนำรองเท้าไปวางบนหลังคาศาลพระภูมิ และยังเป็นบุคคลเดียวกับที่เคยมีภาพปีนขึ้นไปยืนบนตู้คอนเทนเนอร์ทำท่าปัสสาวะใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจมาแล้ว