จากที่วันนี้ 11 ธันวาคม 2564 นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม หัวหน้าพรรคไทยภักดี โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก ถึงท่านนายกรัฐมนตรี เนื่องด้วยกรณีสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กับเรื่องราวการลดโทษนั้น
โดยหมอวรงค์ ได้โพสต์ เนื้อหาระบุว่า ท่านนายกฯน่าจะทราบ ความตื่นตัวของสังคมไทย ในการต่อต้านการทุจริต โดยเฉพะในช่วงการรณรงค์รับร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ การปราบโกงเป็นจุดขายหนึ่งของการรณรงค์
แม้แต่ตัวท่านนายกฯเอง ที่ยังดำรงตำแหน่งนายกฯได้ ก็เพราะประชาชนเชื่อว่าท่าน ซื่อสัตย์สุจริต แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือ จุดโหว่ที่กรมราชทัณฑ์ ภายใต้การบริหารของรัฐมนตรีสมศักดิ์ เทพสุทิน
ได้สร้างความอยุติธรรม ที่สังคมไทยรับไม่ได้ นั่นคือการลดโทษให้พวกโกงชาติ ที่ประชาชนออกมาขับไล่ ชนิดลดแลกแจกแถม โดยนำพวกโกงชาติมาพิจารณาอยู่ในกลุ่มเดียวกับ ความผิดของนักโทษที่เป็นประชาชนทั่วไป
การกระทำของนายสมศักดิ์ เทพสุทิน จะยิ่งทำให้กระบวนการทุจริต ที่เกิดจากฝ่ายการเมืองเฟื่องฟู และไม่มีการยำเกรง เพราะมีช่องทางออก ช่วยเหลือกันได้ และไม่ต้องแคร์ คำพิพากษาของศาล และนี่คือความอยุติธรรม ต่อประชาชนผู้เสียภาษี
ผมเป็นห่วงว่า ถ้าท่านไม่ตัดสินใจทำอะไรสักอย่าง จะทำให้ศรัทธาของประชาชนต่อท่าน และรัฐบาลซ้ำเติมหนักขึ้นไปอีก โดยเฉพาะในช่วงที่ประเทศมีวิกฤติทางการเมือง จากขบวนการล้มล้าง
สิ่งที่ดีที่สุด ประชาชนต้องการให้นายสมศักดิ์ เทพสุทิน ออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และมีการปรับระเบียบของราชทัณฑ์ให้ชัดเจน ในกรณีของการขออภัยโทษ ต้องยกเว้นนักการเมืองโกงชาติและพวก ต้องไม่ได้รับสิทธิ์นี้ เหมือนนักโทษทั่วไป
ท่านคงต้องรีบดำเนินการ ก่อนที่ศรัทธาของประชาชนต่อท่านนายก จะหมดไป #หมอวรงค์ #พรรคไทยภักดี #ปราบโกง
ขณะวันเดียวกันนี้ เฟซบุ๊ก บิ้กแดงแฟนเพจ ได้ออกมาโพสต์ข้อความ พร้อมแบนเนอร์ โดยยกคำพูดช่วงหนึ่งของอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ว่า
“ถ้ากฎหมายไม่เป็นกฎหมาย และใช้ช่องโหว่มาเป็นโอกาส ให้คนที่ทำผิดคิดชั่ว คนเหล่านั้นก็จะไม่มีความเกรงกลัวในการทำผิด และโกงชาติโกงแผ่นดิน”
นอกจากนี้เฟซบุ๊ก บิ้กแดงแฟนเพจ ยังระบุเนื้อหาต่อเนื่องกันอีกว่า
และนอกจากนั้น…ยังจะเป็นตัวอย่างให้กับคนชั่วที่มันกำลังคิดที่จะกระทำความชั่ว โกงชาติสูบเลือดแผ่นดินกันอีก
นักการเมืองที่โกงชาติโกงแผ่นดิน ทำให้ประเทศชาติเสียหายอย่างรุนแรง พี่น้องประชาชนเดือดร้อนแสนสาหัส
สมควรที่จะได้รับโทษที่หนักกว่าประชาชนทั่วไปเป็นหลายเท่านัก และสมควรที่จะถูกจองจำจนกว่าจะสิ้นชีวิตอยู่ในคุก
เพราะได้บังอาจใช้อำนาจหน้าที่ๆมีอยู่ไปในทางที่มิชอบ คดโกงยักยอกทรัพย์ของแผ่นดินเอาไปเป็นของตนเองและพวกพ้อง!!
อย่างไรก็ตามทีมข่าวเดอะทรูธ ได้ตรวจสอบถึงแบนเนอร์ที่ระบุเป็นคำพูดของอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ซึ่งก็พบว่าอยู่ในเนื้อหาข่าวของวันที่ 28 มกราคม 2558 โดย พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมและหัวหน้าฝ่ายกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม คสช. ในขณะนั้น ได้กล่าวถึงกรณีที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ออกแถลงการณ์ไม่ได้รับความเป็นธรรมจากคดีรับจำนำข้าว
ทั้งนี้พล.อ.ไพบูลย์ กล่าวว่า ผู้ที่คิดว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมก็ต้องไปต่อสู้ การต่อสู้ยังมีอีกหลายชั้นในเรื่องของคดี ตนพูดมาหลายครั้งไม่ว่า สนช.จะออกผลลัพธ์มาอย่างไร รัฐบาลซึ่งก็คือ คสช.ที่อยู่ในเนื้อเดียวกัน ย่อมได้รับผลกระทบทั้ง 2 ด้าน อย่างที่นายกฯบอกให้เป็นไปตามกฎเกณฑ์ไม่ชี้นำ พูดอย่างนี้คงยากที่คนจะเชื่อ เพราะคนเชื่อว่า สนช.คือฝ่าย คสช.ตั้งขึ้นมา สังคมต้องวิเคราะห์ให้ดี เราจะอยู่กันอย่างไร ต้องดูว่าสิ่งที่ผู้ได้รับผลกระทบอ้างว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมถูกหรือไม่
สิ่งที่เขาทำก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐตามที่ถูกกล่าวหาหรือไม่ คิดว่าสังคมตอบได้ ส่วน ป.ป.ช.และ สนช.เลือกปฏิบัติหรือไม่ ตนไปตอบแทนไม่ได้ และที่พูดว่าจะไม่เกิดความปรองดองนั้น ตนว่า คนละประเด็นกัน เหมือนที่นายกฯพูด คนทำผิดก็ต้องว่าไปตามผิด ใครจะช่วยได้ ถ้าเกรงว่าจะไม่ปรองดองแล้วยกโทษคดีทางอาญา แล้วกฎหมายจะมีไว้ทำไม ในขณะที่เรากำลังพูดว่าการบังคับใช้กฎหมายบ้านเราไม่ได้ผล เหลื่อมล้ำไม่เท่าเทียม ลงโทษแค่ปลาซิวปลาสร้อย นี้คือปัญหาที่มันเกิดขึ้น”