ฮุนเซนตีแสกหน้าเมกา!?สั่งทำลายอาวุธที่ได้จากสหรัฐฯ ตอบโต้คว่ำบาตรห้ามส่งอาวุธให้กัมพูชา

1427

นายกฯ ฮุน เซน ตอบโต้สหรัฐที่ประกาศคว่ำบาตรเพิ่มเติมโดยสั่งห้ามส่งออกอาวุธทุกชนิดให้กัมพูชา ด้วยการปรามาสคุณภาพของอาวุธและยุทโธปกรณ์ของสหรัฐ ว่าประเทศไหนเอาไปใช้ก็มีแต่แพ้สงคราม  เขาได้สั่งให้ทุกหน่วยของกองทัพทบทวนบัญชีอาวุธและสิ่งของทางทหารที่กัมพูชามีอยู่ทันที ให้เอาไปทำลาย หรือเก็บไว้ห้ามใช้อีกต่อไป เป็นเวลาเดียวกับที่นักการทูตสหรัฐฯ เยือนกรุงพนมเปญเพื่อหารือเกี่ยวกับประเด็นทวิภาคีและระดับภูมิภาคกับเอ็นจีโอและกลุ่มเคลื่อนไหวประชาสังคมในกัมพูชา ท่าทีของทางการกัมพูชา เรียกว่าสหรัฐฯแรงมาก็แรงกลับไป ตามสไตล์นายกฯฮุนเซน

เมื่อวันที่ 10 ธ.ค.2564 สำนักข่าวเอเอฟพีรายงาน ว่า นายกรัฐมนตรีฮุน เซน แห่งกัมพูชา สั่งการให้กองทัพกัมพูชาทำลายอาวุธที่ได้รับจากสหรัฐฯ หรือนำไปเก็บไว้ในคลังเก็บอาวุธห้ามนำออกมาใช้ เพื่อตอบโต้สหรัฐฯ ที่ประกาศมาตรการห้ามส่งออกอาวุธให้กัมพูชาเมื่อวันที่ 8 ธ.ค.ที่ผ่านมา อ้างเหตุผลว่า กัมพูชาละเมิดสิทธิมนุษยชน มีปัญหาคอร์รัปชัน และมีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดระหว่างกัมพูชากับจีน 

โดย นายกรัฐมนตรีกัมพูชาระบุว่า ท่าทีของสหรัฐฯ เป็นการส่งสัญญาณเตือนรัฐบาลกัมพูชาในอนาคตว่า หากต้องการให้อุตสาหกรรมป้องกันประเทศของกัมพูชาเป็นอิสระ ก็ไม่ควรใช้อาวุธของสหรัฐฯ อีกประการหนึ่ง สหรัฐฯ คว่ำบาตร เจ้าหน้าที่ทหารระดับสูงของกัมพูชา 2 นาย เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2564  เพื่อคัดค้านการพัฒนาท่าเรือรีม จังหวัดพระสีหนุ ซึ่งสหรัฐฯ วิตกว่า จีนจะเข้าไปใช้ประโยชน์ทางทหาร

เมื่อวันพุธที่ผ่านมา กระทรวงการต่างประเทศและกระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐประกาศใช้มาตรการห้ามค้าอาวุธต่อกัมพูชา เพื่อจำกัดกองทัพและหน่วยข่าวกรองของกัมพูชาไม่ให้เข้าถึงสิ่งของและบริการทางทหารของสหรัฐ คำแถลงอ้างความวิตกกังวลด้านสิทธิมนุษยชนและการคอร์รัปชันในกัมพูชา รวมถึงกิจกรรมของจีนในประเทศนี้

ผู้นำกัมพูชาได้โพสต์ลงเฟซบุ๊กเมื่อวันศุกร์ว่า “กัมพูชาต้องเรียกเก็บอาวุธและสิ่งของทางทหารของสหรัฐทั้งหมดที่มี เอาไปเก็บในโกดังหรือทำลายทิ้งซะ” 

เขากล่าวอีกว่า การห้ามอาวุธของสหรัฐเป็นข้อความเตือนถึงชาวกัมพูชารุ่นต่อไปที่จะนำพารัฐบาลว่า ถ้าหากพวกเขาต้องการภาคการป้องกันประเทศที่เป็นอิสระ ก็อย่าได้ใช้อาวุธของสหรัฐ ฮุน เซน อ้างด้วยว่ามีหลายประเทศใช้อาวุธของสหรัฐแล้วแพ้สงคราม ตัวอย่างเช่นอัฟกานิสถาน

ความเห็นของฮุน เซน มีขึ้นในขณะที่ดีเร็ก ชอลเลต์ นักการทูตสหรัฐฯ(U.S. diplomat Derek Chollet) เยือนกัมพูชาเพื่อพูดคุยกับตัวแทนรัฐบาล กลุ่มประชาสังคม และนักข่าวเกี่ยวกับสิทธิมนุษยชน วิกฤตการเมืองในเมียนมาร์ และแผนของกัมพูชาในการดำรงตำแหน่งประธานสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในปี 2565 ชอลเลต์ ซึ่งเป็นที่ปรึกษาของกระทรวงการต่างประเทศกล่าวว่าสิทธิมนุษยชนเป็นจุดสนใจหลักของการอภิปราย

ชอลเลต์ เขียนในบัญชีทวิตเตอร์ของเขาเมื่อวันศุกร์ว่า “วันนี้ เนื่องในวันสิทธิมนุษยชน ฉันรู้สึกเป็นเกียรติที่ได้พบกับสมาชิกของภาคประชาสังคมกัมพูชาเพื่อรับฟังความคิดเห็นของพวกเขาเกี่ยวกับสิทธิมนุษยชน สิ่งแวดล้อม สภาพแรงงาน และเสรีภาพของสื่อ” 

ในแถลงการณ์เมื่อวันศุกร์ ฟิล โรเบิร์ตสัน รองผู้อำนวยการภูมิภาคเอเชียของฮิวแมนไรท์วอทช์ในนิวยอร์ก (Phil Robertson, the deputy Asia director for New York-based Human Rights Watch) เรียกร้องให้สหรัฐฯ กดดันฮุนเซนให้ “ยุติการปราบปรามที่ขยายตัวอย่างรวดเร็วต่อฝ่ายตรงข้ามทางการเมืองของเขา ซึ่งส่งผลให้มีการจับกุมอย่างกว้างขวาง การพิจารณาคดีในวงกว้าง และ การแสวงหาผู้ลี้ภัยที่ได้รับการยอมรับในต่างประเทศอย่างก้าวร้าว” “การจู่โจมในด้านบรรทัดฐานประชาธิปไตย เสรีภาพของสื่อ และสิทธิมนุษยชนในกัมพูชาไม่สามารถเพิกเฉยได้เพราะฮุนเซนเป็นประธานอาเซียน”

จับตาดูท่าทีนายกรัฐมนตรีฮุน เซนต่อกลุ่มองค์กรที่บ่อนเซาะกัมพูชา ตามวาระวอชิงตันจอมแทกแซงว่า จะมีมาตรการอะไรออกมาตอบโต้ ไม่นานจะได้เห็น!!