นานาชาติสับเละ!!ประชุมสุดยอดปชต.ไบเดน ตีปี๊ปแบ่งขั้วเห็นแก่ตัว สร้างความแตกแยก

1750

ประธานาธิบดีโจ ไบเดน เปิดประชุมค่ายประชาธิปไตยในสายตาของสหรัฐเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ระบุประชาธิปไตยทั่วโลกกำลังเผชิญการท้าทายที่น่าตกใจ แต่นักวิเคราะห์ของนานาประเทศชี้ประชาธิปไตยในสหรัฐเลวร้ายกว่าอีกหลายประเทศ ทั้งชี้ว่าสหรัฐเป็นเผด็จการสวมเสื้อคลุมประชาธิปไตย และยังจัดประชุมแบบไม่เป็นประชาธิปไตย ประจานตัวเองแล้วยังไม่รู้ตัว

เมื่อวันที่ 9 ธ.ค. 2564 สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า ปธน.โจ ไบเดน แห่งสหรัฐ เปิดการประชุมสุดยอดเพื่อประชาธิปไตยที่สหรัฐเชิญผู้นำประเทศประชาธิปไตยมากกว่า 100 ประเทศเข้าร่วมประชุมทางไกลนาน 2 วัน วันที่ 9-10 ธ.ค.ที่ผ่านมา

ไบเดน ซึ่งเข้ารับตำแหน่งเมื่อเดือนมกราคมปีนี้ท่ามกลางวิกฤติการเมืองครั้งใหญ่ที่สุดของสหรัฐในรอบหลายทศวรรษ กล่าวเตือนว่า ระบอบประชาธิปไตยทั่วโลกกำลังเผชิญการท้าทายที่น่าตกใจ และประชาธิปไตยต้องการนักต่อสู้ยิ่งกว่าที่เคยเป็นมา เขาเรียกร้องให้ผู้นำต่างๆ ให้คำมั่นที่เป็นรูปธรรมระหว่างการประชุมครั้งนี้ โดยรัฐบาลของเขานำร่องด้วยการรับปากโครงการช่วยเหลือมูลค่า 424 ล้านดอลลาร์ เพื่อช่วยปกป้องเสรีภาพสื่อ, ต่อสู้กับการคอร์รัปชัน และสนับสนุนการเลือกตั้งเสรีทั่วโลก

ทำเนียบขาวคุยว่า การประชุมครั้งนี้ ซึ่งนอกจากผู้นำรัฐบาลยังมีเอ็นจีโอ, ธุรกิจเอกชน, องค์กรการกุศลและสมาชิกสภานิติบัญญัติเข้าร่วมด้วย เป็นการแสดงถึงความเป็นผู้นำของสหรัฐในการต่อสู้ที่ดำรงอยู่ ระหว่างระบอบประชาธิปไตย กับเผด็จการหรือระบอบอำนาจนิยมที่ทรงพลัง

มาดูกันว่านานาชาติตอบสนองต่อการประชุมครั้งนี้อย่างไรบ้าง

สำนักข่าวซินหัว รายงานจากกรุงอิสลามาบัด – ผู้เชี่ยวชาญชาวปากีสถานกล่าวว่า “การประชุมสุดยอดเพื่อประชาธิปไตย” ซึ่งนำโดยสหรัฐฯ เป็นเครื่องมือในการรักษาอำนาจและผลประโยชน์ของตัวเองภายใต้หน้ากากของระบอบประชาธิปไตย

ชาคีล อะฮ์หมัด ราเมย์(Shakeel Ahmad Ramay) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของเอเชีย สถาบันวิจัยและพัฒนาอารยธรรมเชิงนิเวศ กล่าวว่า สหรัฐฯ ได้ “คัดเลือกผู้เข้าร่วมที่เจาะจง” ในการประชุมสุดยอดครั้งนี้ตามมาตรฐานประชาธิปไตยของตัวเอง โดยไม่เคารพในระบอบประชาธิปไตยอื่น ๆ ของโลก ทำให้เกิดการแบ่งขั้วและการแบ่งแยกระหว่างชาติต่างๆ เขาสรุปว่า สหรัฐฯไม่อยู่ในฐานะที่จะกำหนดมาตรฐานหรือเรียกร้องให้ประเทศอื่นลอกเลียนแบบ จะมีแต่การเผชิญหน้าและบ่อนทำลายสันติภาพและเสถียรภาพของโลก

ด้านผู้เชี่ยวชาญฟิลิปปินส์ วิจารณ์ว่า’การประชุมสุดยอดประชาธิปไตย’ ของสหรัฐฯ เป็นไปเพื่อสร้างความแตกแยกชัดเจน

ออสติน อ่อง(Austin Ong) นักวิจัยของสถาบัน Integrated Development Studies Institute ในกรุงมะนิลา เผยแพร่บทวิจารณ์ในคอลัมน์ของเขาในสื่อ The Manila Times กล่าวว่า “การประชุมสุดยอด” ตั้งใจที่จะแสดงให้เห็นว่าวอชิงตันเป็นผู้สนับสนุนประชาธิปไตยอย่างแท้จริง ในขณะที่ความจริงเป็นสิ่งที่ตรงกันข้าม นั่นเท่ากับว่า สหรัฐฯ กำลังเยาะเย้ยระบอบประชาธิปไตย เขากล่าวเสริมว่า

“มันทำให้โลกมีขั้วมากกว่าที่จะประสานกัน แทนที่จะสร้างช่องทางเพิ่มเติมสำหรับ การรวมมือสร้างความสัมพันธ์ระหว่างประเทศอย่างสันติระหว่างชาติ มันทำให้ความแตกแยกรุนแรงขึ้น”อ“ในขณะที่นวัตกรรมของพวกเขาเป็นปัจจัยหนึ่งที่สำเร็จน่าชื่นชม  แต่ความมั่งคั่งของ ‘ประชาธิปไตย’ แบบเสรีนิยมตะวันตกส่วนใหญ่ถูกสร้างขึ้นโดยการทหารเข้ายึดครองดินแดนของชนเผ่าพื้นเมืองและทรัพยากรของชาติอื่น ๆทั้งในอดีตและปัจจุบัน” 

ในสหรัฐอเมริกาเอง อัตราการเกิดอาชญากรรม คนเร่ร่อน ความรุนแรงจากปืน ความรุนแรงทางเชื้อชาติ การปล้นสะดมตอนกลางวันแสกๆ การเมืองพรรคพวกเด่นชัดและเพิ่มมากขึ้น โดยรัฐบาลยังไม่มีนโยบายรูปธรรมในการแก้ไข

สำนักข่าวเดอะสเตรทไทมส์ รายงานว่า การที่สิงคโปร์ไม่ได้รับเชิญให้เข้าร่วมการประชุมสุดยอดประชาธิปไตย 110 ประเทศที่จัดโดยสหรัฐฯเนื่องจากพรรคเดโมแครตไม่เคยยอมรับสถานะของสิงคโปร์เป็นประชาธิปไตย ศาสตราจารย์ทอมมี โกะ(Tommy Koh) เอกอัครราชทูตใหญ่สิงคโปร์กล่าวเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 9 ธ.ค.

โกะกล่าวว่าไม่มีรูปแบบเดียวสำหรับประชาธิปไตย บางทีในสายตาของพรรคเดโมแครตของสหรัฐอเมริกา ระบอบประชาธิปไตยแบบสิงคโปร์ที่มีลักษณะเฉพาะมากมายอาจไม่ใช่ประชาธิปไตยที่แท้จริง

ประเด็นนี้แม้แต่นักวิเคราะห์ชาวอเมริกันก็ส่ายหน้า บรูซ เจนเทิลสัน อาจารย์รัฐศาสตร์มหาวิทยาลัยดุคสหรัฐอเมริกา กล่าวว่า การประชุมสุดยอดครั้งนี้ไม่ใช่ความคิดที่ดี เขากล่าวว่า”ปัญหาของอเมริกาที่นี่เลวร้ายว่าในประเทศประชาธิปไตยตะวันตกอื่นๆ มากนัก อาคารรัฐสภาของเราถูกโจมตี เป็นความพยายามก่อรัฐประหาร เราไม่เคยเห็นสิ่งนี้เกิดในปารีส หรือที่รัฐสภาเยอรมนี หรือที่สำนักงานใหญ่อียูในกรุงบรัสเซลส์” นักวิชาการผู้นี้กล่าวว่า “ถ้าเราต้องแข่งขัน เราต้องทำให้ดีที่สุด และนั่นขึ้นอยู่กับพวกเราคนอเมริกันในประเทศนี้ มากกว่าการรวบรวมผู้นำ 100 คนแล้วพูดว่า ‘พวกเราคือประชาธิปไตย’

รัฐบาลสหรัฐตั้งใจไม่เชิญรัสเซียและจีนที่ถูกระบุว่าเป็นตัวแทนรัฐเผด็จการ และทำให้รัสเซียและจีนตอบโต้อย่างรุนแรง อนาโตลี อันโตนอฟ เอกอัครราชทูตรัสเซีย และฉิน กัง เอกอัครราชทูตจีนประจำสหรัฐ กล่าวในถ้อยแถลงร่วมที่ประกาศเมื่อปลายเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมาว่า “ไม่มีประเทศใดมีสิทธิที่จะตัดสินภูมิทัศน์ทางการเมืองที่กว้างใหญ่และหลากหลายของโลกด้วยบรรทัดฐานอันเดียว”