สภาเยอรมนีรับรองนายโอลาฟ โชลซ์ ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนใหม่ สิ้นสุดยุครัฐบาลอนุรักษนิยมของนางอังเกลา แมร์เคิล ซึ่งครองอำนาจยาวนานถึง 16 ปี นับตั้งแต่ปี 2548 รัฐบาลผสมชุดใหม่ที่ได้รับสมญานามหมาดๆจากสื่อเยอรมันว่า “รัฐบาลสัญญาณจราจร” (Traffic Light)เพราะสีประจำพรรคทั้ง3 มีสีเหลือง เขียว แดง เป็นที่จับตาว่าจะปรับเปลี่ยนบทบาททางยุทธศาสตร์ ของเยอรมนีจากแนวของนางแมร์เคิลไปอยู่ในจุดไหน ท่ามกลางปัญหาพลังงาน เศรษฐกิจ และความมั่นคงระหว่างสหรัฐ-จีน-รัสเซีย

เมื่อวันที่ 8 ธ.ค. 2564 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า นายโอลาฟ โชลซ์ (Olaf Scholz) หัวหน้าพรรคสังคมนิยมประชาธิปไตย (Social Democrats : SPD) ได้สาบานตนเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของเยอรมนีต่อจากนางแองเกลา แมร์เคิล (Angela Merkel) ภายหลังสมาชิกรัฐสภาเยอรมนี (Bundestag) ลงมติเลือกนายโชลซ์ ซึ่งเป็นอดีต รัฐมนตรีว่าการ กระทรวงการคลัง ในรัฐบาลของนาง แมร์เคิล ให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ด้วยคะแนนเสียง 395 ต่อ 306 ทั้งนี้ นาย มีกำหนดเข้ารับการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการจากประธานาธิบดีแฟรงค์ วอลเตอร์ สเตนเมียร์(Frank-Walter Steinmeier) ของเยอรมนี ในเวลา 15.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งช้ากว่าไทย 6 ชั่วโมง ในโอกาสดังกล่าวนับเป็นการสิ้นสุดวาระการดำรงตำแหน่งที่ยาวนานถึง 16 ปี ของนางอังเกลา แมร์เคิลด้วย
นายกรัฐมนตรีเยอรมนีกลางซ้ายคนใหม่ โอลาฟ โชลซ์ เข้าดำรงตำแหน่งเป็นผู้นำคนที่ 9 หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นการเปิดศักราชใหม่ให้เมืองเบียร์ เกิดขึ้นในวันที่เยอรมนีมียอดเสียชีวิตจากโควิด-19 สูงสุดนับตั้งแต่กุมภาพันธ์ 2564
วิสัยทัศน์และสไตล์การทำงานของผู้นำเยอรมนีคนใหม่นั้นพบว่ามีความคล้ายกับของแมร์เคิล แม้ว่าทั้งสองคนจะมาจากต่างพรรค โชลซ์เปิดเผยว่าเป้าหมายหลักสำหรับรัฐบาลเยอรมนีชุดใหม่อยู่ที่การแก้ปัญหาการเปลี่ยนแปลงทางสภาพอากาศโลกด้วยการขยายการใช้พลังงานหมุนเวียนและนำเยอรมนีออกไปจากการใช้พลังงานถ่านหินนับตั้งแต่ปี 2038 เป็นต้นไป แต่ตั้งเป้าหวังว่าจะสามารถทำให้สำเร็จได้ภายในปี 2030
นอกจากนี้ รัฐบาลชุดโชลซ์ต้องการปรับปรุงเยอรมนีประเทศที่มีประชากรอาศัยทั้งหมด 83 ล้านคนให้มีความทันสมัยมากขึ้น รวมไปถึงปรับปรุงระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตและระบบโทรศัพท์มือถือที่ถูกขึ้นชื่อล้าหลังเป็นอย่างมากให้มีความก้าวหน้า
ที่สำคัญในสมัยรัฐบาลพรรคโซเชียล เดโมแครตส์ครองอำนาจจะเป็นครั้งแรกที่เยอรมนีอนุญาตให้มีการจำหน่ายกัญชาเพื่อสันทนาการอย่างถูกกฎหมาย และยังผ่อนคลายมาตรการที่จะทำให้เส้นทางการขอสัญชาติเยอรมันง่ายมากขึ้น ขณะเดียวกัน จะเพิ่มความพยายามในการเนรเทศผู้ลี้ภัยที่ไม่ได้รับอนุญาตให้พำนักในประเทศต่อไป
รัฐบาลเยอรมนีชุดใหม่ยังวางแผนที่จะเพิ่มอัตรารายได้ขั้นต่ำในประเทศพร้อมไปกับเพิ่มการสร้างอพาร์ตเมนต์หลายพันแห่งเพื่อต่อสู้กับการขึ้นราคาค่าเช่าที่พุ่งสูง
โชลซ์ส่งสัญญาณนโยบายการต่างประเทศโดยชี้ว่า เยอรมนีในยุคของเขาจะสนับสนุนความแข็งแกร่งของสหภาพยุโรปและจะยังให้การสนับสนุนต่อพันธมิตรข้ามแอตแลนติก (trans-Atlantic alliance) ต่อไป โดยการเยือนต่างประเทศครั้งแรกในฐานะนายกรัฐมนตรีเยอรมนีจะเกิดขึ้นในวันศุกร์ (10) เพื่อจะไปเยือนฝรั่งเศสพบกับผู้นำฝรั่งเศส ประธานาธิบดี เอ็มมานุแอล มาครง ถือเป็นประเพณีปฏิบัติของผู้นำเยอรมนีที่เข้ารับตำแหน่งใหม่ และในวันเดียวกันนั้น โชลซ์มีกำหนดจะเดินทางไปเยือนกรุงบรัสเซลส์เพื่อพบกับผู้นำสหภาพยุโรป และผู้นำนาโต
ผู้นำหลายประเทศแสดงความยินดีต่อนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของเยอรมนีและชื่นชมนางแมร์เคิล เช่นประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศส ที่รับปากว่าฝรั่งเศสและเยอรมนีจะเขียนบทใหม่ร่วมกัน ส่วนอัวร์ซูลา ฟอน แอร์ ไลเอิน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป กล่าวว่ากำลังรอคอยการร่วมมือกันเพื่อยุโรปที่แข็งแกร่ง
นางเออร์ซูลา ฟอน เดอร์ เลเยน ประธานสหภาพยุโรปหรืออียู กล่าวว่า ตั้งตารอทำงานร่วมกันเพื่อยุโรปที่เข้มแข็ง
ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซีย บอกว่าต้องการมีความสัมพันธ์ที่สร้างสรรค์กับรัฐบาลชุดใหม่ของเยอรมนี และขอบคุณนางแมร์เคิลสำหรับความร่วมมือตลอด 16 ปี ส่วนประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน กล่าวว่าพร้อมจะทำงานกับชอลซ์เพื่อ “ส่งเสริมความสัมพันธ์ทวิภาคีสู่ระดับใหม่”