สั่งจำคุก “แอมมี่” 2 เดือน รอลงอาญา คดีสาดสี ศาลเมตตา คุมประพฤติ ให้โอกาสกลับตัวเป็นคนดี!

1297

สั่งจำคุก “แอมมี่” 2 เดือน รอลงอาญา คดีสาดสี ศาลเมตตา คุมประพฤติ ให้โอกาสกลับตัวเป็นคนดี!

จากกรณีที่วันนี้ (8 ธันวาคม 2564) ที่ศาลแขวงดุสิต มีนัดฟังคำพิพากษาคดีของไชยอมร แก้ววิบูลย์พันธุ์ หรือ แอมมี่ เดอะ บอททอมบลูส์ ที่ถูกดำเนินคดีจากการสาดสีใส่ตำรวจที่ สน.สำราญราษฎร์ เมื่อวันที่ 28 ส.ค.2563 จนถูกดำเนินคดีในข้อหาทำร้ายร่างกายที่ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย ทำให้เสียทรัพย์ และข้อหาตาม พ.ร.บ.รักษาความสะอาดฯ

โดยทวิตเตอร์ TLHR / ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ได้โพสต์ข้อความถึงกรณีความคืบหน้าล่าสุดว่า ด่วน! เวลา 11.23 น. ศาลแขวงดุสิตพิพากษา #แอมมี่ ในคดี #สาดสี สน.สำราญราษฎร์ ระบุ จำเลยทำความผิดตามฟ้องจริง ทั้งมีการชำระค่าเสียหายแก่โจทก์ไปแล้ว และโจกท์ไม่ติดใจ ศาลจึงสั่งจำคุก 2 เดือน ปรับ 20,000 บาท ให้รอลงอาญา 1 ปี พร้อมให้คุมประพฤติ 1 ปี เพื่อให้โอกาสจำเลยกลับตัวเป็นคนดี

โดยเมื่อวันที่ 11 ต.ค. 64 นายไชยอมร แก้ววิบูลย์พันธุ์ พร้อมทนายความ เดินทางไปตามนัดพร้อมสอบคำให้การในคดีสาดสีใส่ตำรวจ ที่หน้าสน.สำราญราษฎร์ เมื่อวันที่ 28 ส.ค. 63 คดีนี้แอมมี่ถูกกล่าวหาใน 3 ข้อหา ได้แก่  “ทําร้ายร่างกายผู้อื่น โดยไม่ถึงกับเป็นอันตรายแก่ร่างกายและจิตใจ, ทำให้เสียทรัพย์ และข้อหาตาม พ.ร.บ.รักษาความสะอาดฯ

เวลา 11.00 น. นัดพร้อมเพื่อประชุมคดีวันนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ได้รับความเสียหายต่อเครื่องแบบ 9 นาย เดินทางมาศาล โดยมีตำรวจ 1 นาย ที่ไม่ได้เดินทางมา แต่มอบหมายให้ตำรวจอีกนายหนึ่ง ช่วยเจรจาแทนโดยผ่านทางโทรศัพท์มือถือ ผู้เสียหายทั้งสิบและจําเลยแถลงร่วมกันว่า จําเลยยอมชดใช้ค่าเสียหายให้แก่ผู้เสียหาย คนละ 5,000 บาท อันเป็นค่าเสียหายในส่วนของเครื่องแบบตํารวจ

ด้านจำเลยได้โอนเงินชาระค่าเสียหายให้แก่ผู้เสียหายทั้งหมด รวม 50,000 บาท จากกองทุนราษฎรประสงค์ ก่อนที่ผู้เสียหายแถลงไม่ติดใจเอาความในความผิดฐานทําให้เสียทรัพย์ ส่วนผู้เสียหายที่ 10 ซึ่งไม่ได้มาศาล ได้แจ้งผ่านผู้เสียหายที่ 1 ว่า หากจําเลยยอมชดใช้ค่าเสียหายให้ ก็จะมาแถลงต่อศาลว่าไม่ติดใจเอาความในส่วนความผิดฐานทําให้เสียทรัพย์แก่ตนต่อไปก่อนวันนัดฟังคําพิพากษา ก่อนศาลสอบจําเลยและทนายจําเลยอีกครั้ง ซึ่งจําเลยให้การรับสารภาพในข้อหาทำให้เสียทรัพย์ ด้านโจทก์แถลงไม่ติดใจสืบพยาน และนายตำรวจที่เป็นผู้เสียหายที่ 8 แถลงว่า ไม่ติดใจเอาความกับจําเลยในความผิดฐานทําร้ายร่างกาย หลังอ้างว่าจำเลยได้ใช้มือผลักข้ามแผงเหล็กไปถูกมือของตน

ศาลพิเคราะห์แล้ว ให้เจ้าพนักงานคุมความประพฤติสืบเสาะพฤติการณ์จําเลย โดยอาจกระทําผ่านระบบสารสนเทศได้ และให้เสนอรายงานต่อศาลเพื่อพิจารณาพิพากษาภายใน 30 วัน