ซัดหน้าพวกโหน! รบ.แจงชัดกลุ่มจะนะผิดพรก.ฉุกเฉิน-หวั่นคัสเตอร์โควิด ยันจับแล้วปล่อยหมดไม่ต้องวางหลักทรัพย์!

1304

ซัดหน้าพวกโหน! รบ.แจงชัดกลุ่มจะนะผิดพรก.ฉุกเฉิน-หวั่นคัสเตอร์โควิด ยันจับแล้วปล่อยหมดไม่ต้องวางหลักทรัพย์!

จากกรณีที่เมื่อวานนี้ (6 ธันวาคม 2564) ได้มีการชุมนุมของกลุ่มชาวบ้านเครือข่ายจะนะรักษ์ถิ่น จังหวัดสงขลา ที่บริเวณหน้าทำเนียบรัฐบาล ซึ่งเดินทางมาชุมนุมทวงสัญญา ที่รัฐบาลเคยระบุไว้เมื่อปีที่แล้วว่า จะยุติโครงการนิคมอุตสาหกรรมจะนะและแก้ไขผังเมืองเอาไว้ก่อน นอกจากนี้ ตำรวจควบคุมฝูงชนได้เข้าสลายการชุมนุม และเข้าจับกุมบริเวณเต้นท์หน้าประตู 1 ทำเนียบรัฐบาล ซึ่งมีการจับกุมตัวผู้ชุมนุมขึ้นรถผู้ต้องขังนำตัวไปควบคุมไว้

ทั้งนี้ ทำให้นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย (พท.) ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) ให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าประชุมถึงกรณีที่ตำรวจควบคุมฝูงชน (คฝ.) บุกจับชาวจะนะรักษ์ถิ่นที่ปักหลักชุมนุมประท้วงอยู่บริเวณหน้าทำเนียบรัฐบาลว่า ไม่ขอตำหนิการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจ เพราะเชื่อว่าเป็นคำสั่งจากรัฐบาล แต่ขอตำหนิรัฐบาลที่ไม่เคารพเรื่องสิทธิมนุษยชน และเกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้หลายกรณีแล้ว เช่น กรณีผู้หญิงชาวอุดรธานีที่ไประบายความรู้สึกของตัวเองต่อนายกรัฐมนตรี ซึ่งถือเป็นสิทธิที่ประชาชนจะทำได้ เนื่องจากไม่ได้ทำร้าย และรัฐบาลต้องรับฟังข้อเรียกร้องของประชาชน

ล่าสุดทางด้าน นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่นายสุทิน คลังแสง ประธานวิปฝ่ายค้าน ยืนยันว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ไม่ได้สั่งการใดๆ เจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่ตามความรับผิดชอบและตามกฎหมาย ทั้งนี้ รัฐบาลพร้อมรับฟังข้อเรียกร้องของประชาชนเสมอ แต่ต้องอยู่ในกรอบของกฎหมายด้วย ไม่ใช่มารวมตัวกันตั้งเต็นท์ กางผ้าใบ ทำเป็นหมู่บ้านลูกทะเล จะนะรักษ์ถิ่น ปักหลักค้างคืน ซึ่งไม่ถูกต้อง เพราะขณะนี้รัฐบาลยังคงต้องเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของโควิด-19 อย่างเข้มงวดอยู่ ซึ่งอาจจะกลายเป็นคลัสเตอร์ใหม่ขึ้นมาได้ อย่างไรก็ตาม กรณีที่ฝ่ายค้านจะยื่นกระทู้ถามสด หรือยื่นเป็นญัตตินั้นสามารถทำได้ โดยรัฐบาลพร้อมที่จะชี้แจง และจะได้ใช้โอกาสนี้อธิบายให้ประชาชนได้เข้าใจด้วย

นายธนกร กล่าวอีกว่า สำหรับการเข้าจับกุมนั้น ได้รับรายงานว่า กองร้อยน้ำหวานได้นำขบวนเข้าจับกุม เพราะทราบดีว่ามีผู้หญิงรวมอยู่ด้วย ซึ่งแสดงให้เห็นเจตนาว่ารัฐบาลไม่ได้ต้องการใช้ความรุนแรงใดๆ เลย แต่จำเป็นต้องปฏิบัติหน้าที่ เพราะผู้ชุมนุมฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ โดยร่วมกันจัดให้มีกิจกรรมซึ่งมีผู้เข้าร่วมเป็นจํานวนมากในลักษณะมั่วสุมกัน หรือมีโอกาสติดต่อสัมผัสกันง่าย ชุมนุมทํากิจกรรมหรือมั่วสุมกัน ณ ที่ใดๆ ในสถานที่แออัด หรือกระทําการดังกล่าวอันเป็นการยุยงให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อย หรือในลักษณะที่เสี่ยงต่อการแพร่เชื้อโรค อย่างไรก็ตาม ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวน จากนั้นจะปล่อยตัวชั่วคราวโดยไม่ต้องมีหลักทรัพย์คำ้ประกัน สำหรับผู้ถูกจับกุมนั้น เป็นชาย 6 คน และหญิง 31 คน ซึ่งเป็นการจับกุมซึ่งหน้า

ในขณะที่เมื่อเวลา 10.30 น. ที่หน้าสำนักงานก.พ.ถนนพิษณุโลก น.ส.ไครียะห์ ระหมันยะ เยาวชนนักเคลื่อนไหว เครือข่ายจะนะ รักษ์ถิ่น หรือลูกสาวแห่งทะเลจะนะ พร้อมด้วยเยาวชนประมาณ 10 คน แถลงการณ์ในนามเครือข่ายฯหลังเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวผู้ชุมนุมกลุ่มจะนะฯ ที่ชุมนุมคัดค้าน โครงการนิคมอุตสาหกรรมจะนะ เมื่อวันที่ 6 ธ.ค. โดย น.ส.ไครียะห์ แถลงว่า การเดินทางมาทำเนียบเพื่อบอกรัฐบาลให้หยุดคุกคามแผ่นดินของชาวจะนะ เพื่อให้หยุดสร้างนิคมอุตสาหกรรม แต่สิ่งที่เกิดขึ้นรัฐบาลกลับนำที่ดินไปให้นายทุนเพียงสองบริษัทเกือบ 2 หมื่นไร่ และเหตุการณ์เมื่อวันที่ 6 ธ.ค. ก็เป็นการย้ำชัดถึงการปกป้องกลุ่มทุน

“เราขอยืนยันแม้จะถูกจับกุมอีกกี่ครั้ง เมื่อออกมาแล้วก็จะกลับมายังทำเนียบเหมือนเดิม เราไม่ไปไหนแม้จะถูกทำลายจากกลุ่มอำนาจสักกี่ครั้งก็ตาม ภารกิจนี้ขอเอาชีวิตเป็นเดิมพัน ขอยืนหยัดจนถึงที่สุด” น.ส.ไครียะห์กล่าว

น.ส.ไครียะห์ กล่าวอีกว่า วันเดียวกันนี้ภาคีเครือข่าย 5 จังหวัดภาคใต้ถึงเวลาแล้วที่ต้องลุกขึ้นแสดงตนปกป้องแผ่นดิน โดยจะต่อสู่จนกว่าโครงการดังกล่าวจะยุติ โดยวันเดียวกันนี้เครือข่ายในพื้นที่จะรวมตัวกันที่ อ.จะนะ เพื่อออกแถลงการร่วมกัน ส่วนการเคลื่อนไหวในกทม.ขอประเมินสถานการก่อน นอกจากนี้จากยังทราบว่าขณะนี้ มีการแจ้งข้อหาดำเนินคดีกับผู้ถูกจับกุม แต่มีการให้ข้อเสนอไม่ดำเนินคดีแลกกับการเคลื่อนไหวซึ่งผู้ที่ถูกจับกุมไม่ยอม และยืนยันคดีแค่นี้ไม่สามารถหยุดการเคลื่อนไหวของเราได้ เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าข้อเสนอที่ว่ามาจากใคร น.ส.ไครียะห์ กล่าวว่า ไม่ทราบรายละเอียดเพียงแต่ทราบจากคำบอกเล่าของผู้ถูกจับกุม

เมื่อถามว่า กรณีที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า อดีตรมช.เกษตรและสหกรณ์ ที่เคยลงนามเอ็มโอยูให้มีการศึกษาโครงการอีกครั้ง แต่ขณะนี้พ้นจากตำแหน่ง กังวลจะมีผลกับเอ็มโอยู ที่ทำไว้หรือไม่ น.ส.ไครียะห์ กล่าวว่า ร.อ.ธรรมนัส เป็นผู้ลงนาม แต่เอ็มโอยูดังกล่าวเป็นการลงนามของรัฐบาลไม่ใช่ตัวบุคคล จึงต้องดำเนินการต่อเนื่อง แต่ตอนนี้เหมือนรัฐบาลดำเนินการแบบมั่วกันไปหมด