ชาวออสเตรียส่วนใหญ่ไม่ต้องการเข้ารับวัคซีนโควิด-19 พร้อมย้ำไม่เชื่อมั่นในการแก้ปัญหานี้ของรัฐบาล โดยล่าสุดมีรายงานเปิดเผยจากสำนักข่าวซินหัวเรื่อง ผลสำรวจระดับชาติที่เผยแพร่เมื่อวันศุกร์ที่ 2 ต.ค. 2563 ที่ผ่านมา
ระบุว่าชาวออสเตรียจำนวน 2 ใน 3 จะไม่เข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสโคโรนา เมื่อมีวัคซีนพร้อมใช้ ซึ่งออสเตรียมีจำนวนผู้ป่วยติดเชื้อไวรัส โควิด-19 สะสม 49,819 ราย อยู่อันดับที่ 62 ของโลก แต่ไม่มีรายงานพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ภายในประเทศมากว่า 60 วัน
การสำรวจทางออนไลน์ในกลุ่มคน 1,200 คน ระหว่างวันที่ 28 ก.ย.- 1 ต.ค. ที่เผยแพร่โดยพี8 (P8) บริษัทตัวแทนการตลาดชั้นนำของออสเตรีย พบว่ามีผู้ตอบแบบสอบถามเพียงร้อยละ 16 ที่ตอบว่าจะรับการฉีดวัคซีน ในขณะที่อีกร้อยละ 16 ยังไม่ได้ตัดสินใจ
เมื่อถูกถามว่าชาวออสเตรียคิดอย่างไรกับการบังคับฉีดวัคซีน คำตอบที่ได้ยิ่งชัดเจนขึ้น โดยผู้ตอบแบบสอบถาม 9 ใน 10 คนไม่เห็นด้วยกับแนวคิดดังกล่าว
นอกจากนี้ การสำรวจยังชี้ให้เห็นความรู้สึกแง่ลบโดยทั่วไปที่มีต่อการจัดการปัญหาโควิด-19 ในออสเตรีย โดยผู้ตอบแบบสอบถาม 1 ใน 3 เชื่อมั่นว่าประเทศของตนจะรอดพ้นจากวิกฤตดังกล่าว ขณะที่อีก 1 ใน 3 รู้สึกไม่แน่ใจ ส่วนคนที่เหลือไม่เชื่อว่าการจัดการปัญหานี้จะมีบทสรุปที่ดี แม้ว่าทั่วโลกกำลังดิ้นรนต่อสู้กับการแพร่ระบาด บรรดาประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป จีน รัสเซีย สหราชอาณาจักร และสหรัฐอเมริกา ต่างกำลังเร่งหาวัคซีน
อย่างไรก็ตามข้อมูลจากเว็บไซต์ขององค์การอนามัยโลก ณ วันที่ 30 ก.ย. ระบุว่าทั่วโลกมีการพัฒนาวัคซีนป้องกันโควิด-19 จำนวน 192 ตัว โดย 41 ตัวในจำนวนนี้อยู่ระหว่างการทดลองทางคลินิก
ทั้งนี้แม้ว่าออสเตรียจะถือเป็นประเทศที่สามารถรับมือกับโรคโควิด-19ได้ดี หากเทียบกับอีกหลาย ๆ ประเทศในแถบเดียวกัน แต่การออกมาต่อต้านการรับวัคซีนของประชาชนชาวออสเตรีย อาจจะส่งผลให้ประชาชนชนในประเทศอื่นๆ คล้อยตาม และจะมั่นใจได้อย่างไรว่า จะไม่มีการระบาดในระลอกที่ 2 เกิดขึ้น
