หลังจากที่ บุ๊ง ปกรณ์ พรชีวางกูร พ่อยกฝั่งม็อบราษฎร ได้ออกมาเคลื่อนไหว ประเด็นที่”ไอซ์ รัชนก” แจ้งความ “ต้อม ยุทธเลิศ” กรณีที่มีตบหน้าและทำร้ายร่างกาย โดยเหตุเกิดที่เรือลำหนึ่งย่านคลองสาน แม้ต่อมาทางด้านต้อม ยุทธเลิศ จะเปิดใจชี้แจงกับสื่อว่า ไม่ได้มีการทำร้ายเกิดขึ้น เพียงแต่ไม่ได้อยากเจอหน้ากัน ต่างคนต่างเมา จนทำให้เหตุการณ์บานปลาย
แต่ทาง บุ๊ง ปกรณ์ ก็ได้แสดงความเห็นใจไอซ์ รัชนก และเล่าเบื้องหลังปมทะเลาะครั้งนี้ ว่ามาจากที่ฝ่ายชายนั้น พาดพิงเรื่องเงินม็อบ ลามไปถึง “ทราย เจริญปุระ” ทำให้ทางฝ่ายหญิงย้อนถามว่า มีหลักฐานหรือไม่ จึงเป็นจุดเริ่มต้นให้ผิดใจกันมานาน พอเจอหน้าเลยเถียงกันและคุณไอซ์เลยถูกตบถูกถีบเพื่อเอาคืน… และที่ผ่านมา ต้อม ยุทธเลิศ เคยออกมาตั้งข้อสังเกตว่า บัญชีเงินท่อน้ำเลี้ยงม็อบ ที่มีทรายกับบุ๊งดูแลนั้น ไม่โปร่งใส รวมทั้งเรียกร้องให้นายปกรณ์ พรชีวางกูร และ น.ส.อินทิรา เจริญปุระ หรือ ทราย เปิดเผยบัญชีบริจาคด้วย
ล่าสุด นายปกรณ์ พรชีวางกูร หรือ บุ๊ง นักเคลื่อนไหวทางการเมืองและผู้เปิดบัญชีรับบริจาคเงินสนับสนุนม็อบราษฎร ได้โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กกล่าวถึงนายยุทธเลิศ สิปปภาค ว่า เรื่องเงินอะนะ ถามกี่รอบกูก็ตอบเหมือนเดิมทุกรอบว่าไม่แจง ครั้งแรกที่เริ่มกันมา เราก็พูดชัดมาตลอดทุกครั้งว่า ให้เราแล้วคือต้องให้เราบริหารจัดการตามความเหมาะสมกันเอง และทุกคนก็เข้าใจ
อยู่ดีๆ “มัน” ก็โผล่มาขอรับบริจาคเงิน 100 ล้าน อ้างว่าจะสร้างหนังประชาธิปไตย แต่พอทรายและดาราอีกหลาย ๆ คนที่ “มัน” เคยโม้ไว้ว่าจะมาเล่นหนังให้ไม่ยอมมา “มัน” ก็ไม่พอใจ…”มัน” ทั้งแหกปากทั้งกล่าวหาว่าให้แจงเงิน ถึงขั้นให้ลูกน้องไปถามยัดปากแอมมี่ แล้วอัดเสียงมาโพสต์ ในคลิปเสียงก็มีแต่เสียงลูกน้อง “มัน” ไอ้มี่แทบไม่ได้พูดอะไร
“มัน” กับลูกน้องใส่ร้ายกูกับทรายทุกวันมาเป็นเดือน ๆ ทั้งโพสต์ทวิต จัดคลับเฮาส์ บางวันปลอมทวิตเป็นชื่อกูก็ทำมาแล้ว กูสองคนก็ได้แต่นั่งมองหน้ากัน แต่พูดอะไรไม่ได้เลยแม้แต่นิดเดียว ทุกวันนี้กูสองคนก็ใช้ชีวิตกันแบบอยู่ไปวัน ๆ ถ้ายิ่งต้องมาทำตามที่ “มัน” แหกปาก ชีวิตที่ใช้ลำบากอยู่แล้ว มันจะเหลืออะไรให้ใช้อีก
พวกเราอะนะอยู่กันมาปีกว่า ๆ เราก็ยอมรับว่าหลาย ๆ ครั้ง พวกเราก็เคยใช้จ่ายเงินด้วยความไม่รู้ จ่ายผิดจ่ายพลาดไปก็มีบ้าง ก็เรียนรู้กันไป เพราะสิ่งที่พวกเราทำ มันไม่ได้มีสอนในตำรานี่หว่า ใครจะรู้วะว่าทำแบบไหนถึงจะถูกที่สุด แต่พวกเราในวันนี้ มันต่างจากพวกเราในวันแรกอย่างสิ้นเชิง ทุก ๆ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในปีกว่า ๆ ที่ผ่านมา มันสอนให้พวกเราโตขึ้นและนิ่งขึ้นเยอะ
ใครที่ยังอยู่ยังมั่นใจยังสนับสนุนเรา เราก็ขอบคุณ จับมือกันแล้วไปต่อ ส่วนใครที่แยกออกไป ก็ไม่เป็นไร เพราะยังไงเราก็มีปลายทางเดียวกัน วันใดวันนึงเราจะเดินมาเจอกันตรงแยกใดสักแยกนึง แต่ระหว่างทางที่เดินขนานไปด้วยกัน มันก็มีบ้าง ที่เราต้องเอา “ตีน” เขี่ย “ขยะ” ที่ขวางทางออกไป
นอกจากนี้นายปกรณ์ ยังได้โพสต์เฟซบุ๊กก่อนหน้านี้ว่า “แอมมี่” ควรออกมาพูดบ้างนะ เพราะมึงก็เป็นอีกหนึ่งคนที่โดนมันรังแก ไม่ต้องกลัวที่จะพูดความจริง อย่ากลัวที่จะชนกับคนที่รังแกเรามานาน กูพร้อมจะยืนข้างมึง
จะว่าไปเรื่องเงินทำหนังที่แม่งเคยขอรับบริจาค แล้วหายเงียบ หนังไม่มี เงินไม่แจง มองได้ 2 อย่าง อย่างแรกคือไม่ได้เงินหรือได้น้อยจนไม่กล้าพูด คืออายคือเขิน อย่างสองได้เยอะแล้วเงียบ แต่แหกปากเห่าให้คนอื่นชี้แจง ทั้งๆที่คนที่โดนมึงกล่าวหา แม่งไม่สามารถจะพูดห่าไรได้เลยสักนิด คนมีสติจะเข้าใจว่าเพราะอะไร และผลงานมีปรากฏให้เห็นชัด ๆ เยอะแยะเต็มไปหมด เทียบกับหนังลม ๆ แล้ง ๆ 100 ล้านของมึงคือฟ้ากับนรก มีแต่ควายกับ io ขยะและมึงเท่านั้นที่ขยันตะแบงจนสีข้างแหก
