จากกรณีที่เมื่อวานนี้ (16 พฤศจิกายน 2564) บิลลี่ โอแกน อดีตนักร้องขาร็อกมาดเข้มรุ่นใหญ่ ได้โพสต์ข้อความถึงเยาวชนคนรุ่นใหม่ ได้อย่างน่าสนใจ โดยระบุข้อความว่า
เวลากินข้าวที่ตั้งอยู่ตรงหน้านี้ทำให้เราได้คิดเห็นว่าคนสมัยใหม่อายุสัก 20-30นี่ไม่ค่อยจะเคยลำบาก เพราะเกิดมาตอนบ้านเมืองเจริญก้าวหน้ามีไฟฟ้าสาธารณูปโภคพร้อมพรั่ง ทั้งอาหารการกินก็มีทุกอย่าง แต่เขาคงไม่รู้ว่าเมื่อก่อนเมืองไทยเราไม่ได้ร่ำรวย เราเป็นประเทศเกษตร ปลูกข้าวเป็นหลัก กินผักกินปลา ที่เจริญมาได้ขนาดนี้ เพราะในหลวง ร9 ท่านวางรากฐานไว้ให้
ท่านทำทุกอย่าง ท่านแทบไม่ได้อยู่สบายเลย ออกไปชนบท ช่วยคนให้ทำมาหาเลี้ยงตนและครอบครัวได้ ไม่มีน้ำ ท่านก็ทำฝางทำอ่างเก็บน้ำให้ ไม่มีพืชพันธุ์ท่านก็จัดหาให้ ไม่มีฝนท่านก็ทำฝนเทียมให้ ท่านทำให้ทุกอย่าง อย่างที่ลุงนั่งกินปลานิลทอดกับข้าวสวยและน้ำปลาพริกนี่ พวกเธอรู้ไหมว่าปลานิลนี้ท่านได้มาจากญี่ปุ่น สมเด็จพระจักรพรรดิท่านถวายเป็นของที่ระลึก ท่านเห็นว่าปลานี้เลี้ยงง่าย เนื้อเยอะ ถ้าเอามาขยายพันธุ์แล้วแจกให้ประชาชนไปเลี้ยงต่อ ก็จะมีอาหารไม่ขาดแคลน ท่านก็นำมาเลี้ยงในวังสวนจิตรจนขยายพันธุ์สำเร็จแล้วทรงแจกจ่ายไปทั่วประเทศให้ประชาชนได้มีกินกันไม่ต้องอดหยากในถิ่นทุรกันดาร ดูสิท่านคิดถึงประชาชนก่อนเสมอ วันนี้ได้มีโอกาสกินปลานิลทอดแล้วก็คิดถึงท่าน น้ำตาไหล
เกิดมาบนแผ่นดินไทย อยากบอกกับคนรุ่นใหม่ว่า อย่าเนรคุณแผ่นดินนะลูกๆหลานๆ สองเท้าที่เราเหยียบอยู่บนดินนี้มีแต่พระคุณกับเรา ถ้าไม่รักษา อย่าทำลาย ที่เราสบายอยู่ทุกวันนี้ ก็ด้วยพระคุณของคนรุ่นก่อนทั้งนั้น คนที่มีความกตัญญูรู้คุณคนจะมีแต่ความเจริญก้าวหน้าในชีวิต
ในขณะที่สถานการณ์การเคลื่อนไหวทางการเมืองขณะนี้ กำลังเป็นที่พูดถึง ภายหลังจากศาลรัฐธรรมนูญ ได้มีการอ่านคำวินิจฉัยว่า การกระทำของ นาย อานนท์ นำภา นาย ภาณุพงศ์ จาดนอก หรือ ไมค์ น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือ รุ้ง ที่ชุมนุมปราศรัยวันที่ 10 ส.ค.63 ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์รังสิต ซึ่งมีการเสนอข้อเรียกร้อง 10 ข้อ ในการ ปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์ รวมทั้งเครือข่าย เป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อ ล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 49 วรรคหนึ่งจึงมีคำสั่งให้เลิกการกระทำั้นเสีย
ในขณะที่ล่าสุดเมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน ศาลอาญากรุงเทพใต้มีคำสั่งไม่ให้ประกันตัว รุ้ง ปนัสยา ในคดี ม.112 พร้อมกับรายงานเพิ่มเติมว่า ศาลระบุคำสั่งว่า “จำเลยเคยกระทำในลักษณะทำนองเดียวกันกับคดีนี้มาแล้วหลายคดี หลังถูกฟ้องในคดีนี้ จำเลยซึ่งได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวในคดีของศาลอาญาก็ไปกระทำผิดซ้ำ ซึ่งเป็นการละเมิดเงื่อนไขข้อห้ามของศาลอาญา จนพนักงานอัยการร้องขอให้เพิกถอนการปล่อยตัวชั่วคราว หากจำเลยได้รับการปล่อยชั่วคราวไป จำเลยอาจไปกระทำการอันมีลักษณะเป็นความผิดเช่นเดียวกับคดีนี้อีก กรณีจึงเห็นควรไม่อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว ให้ยกคำร้อง”