เบนจา ซีดอีก! ศาลสั่งขังต่อครั้งที่ 5 ด้าน “รุ้ง” อ้างเพื่อนล้มในห้องน้ำ เพราะไม่ได้ใส่รองเท้า!?

2212

เบนจา ซีดอีก! ศาลสั่งขังต่อครั้งที่ 5 ด้าน “รุ้ง” อ้างเพื่อนล้มในห้องน้ำ เพราะไม่ได้ใส่รองเท้า!?

จากกรณีวันนี้ (15 พฤศจิกายน 2564) ที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ มีนัดพิจารณาคดีสำคัญ 2 เรื่อง ไต่สวนคัดค้านการฝากขังครั้่งที่ 5 คดีมาตรา112 ของ เบนจา อะปัญ ปราศรัยหน้าบริษัทซิโน-ไทย ในม็อบ 10 สิงหา โดยศาลจะเบิกตัวเบนจามาศาลด้วย และ มีการนัดสอบคำให้การคดีใครๆก็ใส่ครอปท็อป ไปเดินสยามพารากอนมาตรา112 ของ เพนกวิน-ไมค์-รุ้ง-เบนจา-ป๊อกกี้ ซึ่งรุ้งจะต้องยื่นประกันตัวต่อศาลในคดีนี้ โดยศาลจะเบิกตัวทั้งเพนกวิน-ไมค์-เบนจา มาขึ้นศาล

โดยทางรุ้ง ปนัสยา ได้โพสต์ข้อความถึงเบนจา ระบุว่า วันนี้เบนจาเดินตัวเปียกเข้ามาในห้องเวรชี้ บอกว่าลื่นล้มในห้องน้ำ ดีที่ไม่เจ็บอะไร และเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ยังไม่ยอมให้เบนจาใส่รองเท้าเข้ามาอยู่ดีทั้งๆ ที่ฝั่งชายก็ใส่รองเท้าได้ จนเราต้องเดินไปหยิบรองเท้ามาให้เบนจาเอง ถึงจะได้ใส่

ด้าน น.ส.ปนัสยา เปิดเผยกับสื่อมวลชนว่า วันนี้คงไม่มีอะไร แต่เป็นนัดสอบคำให้การ โดยในวันนี้มีไมค์ รุ้ง เพนกวิน เบนจา เบิกตัวมาด้วย
ล่าสุด ศาลอาญากรุงเทพใต้อนุญาตให้ฝากขังเบนจา ครั้งที่ 5 ต่อไปอีก 7 วัน เหตุต้องรอคำสั่งฟ้องจากผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ในคดีนี้ เบนจาถูกกล่าวหาจากการปราศรัยและอ่านแถลงการณ์ที่หน้าบริษัทซิโน-ไทย ในระหว่าง #ม็อบ10สิงหา คาร์ม็อบใหญ่ไล่ทรราช ในข้อหาตามม.112 และ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ

 

ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 8 พ.ย. 64 ที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ ร.ต.ท.หญิง ธิดา เดชวุฒิกุล พนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ ได้เข้ายื่นคำร้องขอฝากขัง เบนจา อะปัญ นักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และสมาชิกกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม เป็นครั้งที่ 4 ในคดีที่ถูกกล่าวหาจากการปราศรัยและอ่านแถลงการณ์ที่หน้าบริษัทซิโน-ไทย ในระหว่าง #ม็อบ10สิงหา ‘คาร์ม็อบใหญ่ไล่ทรราช’ ในข้อหาตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ขณะที่ทนายความได้ยื่นคัดค้านการฝากขังดังกล่าว

ที่ห้องพิจารณา 403 เวลา 9.30 น. ศาลขึ้นนั่งบังลังก์พิจารณาไต่สวนคำร้องขอฝากขัง พนักงานสอบสวนอ้างเหตุว่าตามคําร้องขอฝากขัง ครั้งที่ 3 จะครบกําหนด อีกทั้งคดีนี้พนักงานสอบสวนได้เร่งทําการสอบสวนโดยตลอดแล้ว แต่การสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น เนื่องด้วยอยู่ระหว่างการเสนอสํานวนให้หัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนพิจารณามีความเห็นในทางคดี โดยหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนให้ทําการสอบสวนพยานเพิ่มเติม จํานวน 1 ปาก ซึ่งเป็นพยานที่อยู่ในที่เกิดเหตุ แต่ยังไม่สามารถระบุตัวตนที่แน่นอนได้ จึงขอให้ศาลขังผู้ต้องหานี้ไว้ระหว่างสอบสวนต่อไปอีก 12 วัน

ด้านเบนจาได้แถลงคัดค้านว่า ตนไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการถูกคุมขัง อีกทั้งผู้ต้องหาไม่ได้เป็นผู้มีอิทธิพลที่จะเข้าไปเกี่ยวข้องหรือยุ่งเหยิงกับการสอบสวนพยานของพนักงานสอบสวน การฝากขังต่ออีก 12 วัน จึงถือว่าเกินความจำเป็น

ภายหลังจากการไต่สวนคำร้องฝากขัง ในช่วงบ่าย ทนายความได้ยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวเบนจาเป็นครั้งที่ 4 โดยระบุเหตุผลว่า ทั้งตามคำร้องและคำเบิกความของพนักงานสอบสวน ไม่ได้ปรากฏข้อคัดค้านการปล่อยตัวชั่วคราวผู้ต้องหาในชั้นนี้แต่อย่างใด อีกทั้งผู้ต้องหาไม่ได้มีอิทธิพลที่จะไปยุ่งเหยิงกับการสอบสวน พร้อมทั้งการที่พนักงานสอบสวนอ้างว่าจะสอบพยานเพิ่มนั้นไม่สามารถระบุไดัชัดเจนว่าเป็นใคร จึงไม่สมควรที่จะฝากขังผู้ต้องหาต่อ โดยทนายความได้ยื่นขอประกันตัวโดยใช้หลักทรัพย์จำนวน 200,000 บาท จากกองทุนราษฎรประสงค์

ต่อมา ศาลอาญากรุงเทพใต้มีคำสั่งไม่อนุญาตให้ประกันตัวเบนจา โดยระบุเหตุผลว่า “พิเคราะห์แล้วเห็นว่าคดีนี้ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ได้มีคำสั่งไม่อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวโดยให้เหตุผลโดยชัดแจ้งไว้แล้วอย่างละเอียด ไม่มีเหตุเปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิม ยกคำร้อง”