Truthforyou

รุ่นใหญ่ไฝว้กันแล้ว! อดีตบิ๊กการข่าว รำคาญชาญวิทย์ ไออาจารย์ปากดี พล่ามแต่ขู่

จากที่ ชาญวิทย์ เกษตรศิริ อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊ก ถึงคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญการกระทำของกลุ่มแกนนำม็อบคณะราษฏร 63 โดยออกอาการข่มขู่ ทำให้หลายคนออกมาตอบโต้อย่างดุเดือน

ทั้งนี้นายชาญวิทย์ ได้กล่าวถึง3แกนนำ ที่ประกอบด้วย นายอานนท์ นำภา, นายภาณุพงศ์ จาดนอก นางสาวปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล ซึ่งจัดชุมนุมปราศรัยเมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2563 ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต เพื่อเสนอข้อเรียกร้อง10 ข้อเกี่ยวกับสถาบันกษัตริย์ เป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 49 วรรคหนึ่ง

โดยนายชาญวิทย์ ระบุบางช่วงว่า ‘ล้มล้างการปกครองฯ’ ว่าปฏิรูป หรือปฏิวัติ Reform or Revolution ด้วยจิตคารวะต่อนักต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย และเพื่อราษฎรไทย ผมเศร้าใจและละอายใจ ที่ทั้งตัวบุคคลและทั้งสถาบัน กับทั้งเครือข่ายของรัฐข้าราชการทหาร/ตำรวจ/ตุลาการ ที่กุมอำนาจรัฐไทยอยู่ในขณะนี้ กระทำการทั้งปราบปราม ทำร้ายและทำลายชีวิตคนรุ่นใหม่ ๆ อย่างไร้มนุษยธรรม

มีทั้งจับกุมคุมขัง (คุก) กระทำการดำเนินคดีความ โดยไม่ยึดถือตามหลักการณ์ของนิติธรรม และหรือนิติรัฐ ผมเศร้าใจและละอายใจ ที่บุคคลและหรือตัวแทนของสถาบันเหล่านี้ ส่วนใหญ่ก็เรียนจบไปจากมหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศไทยเรา

ผมทั้งละอายใจ และขายหน้า ที่บุคคลที่ได้รับการศึกษาสูงเช่นนี้ สามารถจะกระทำการที่ต่ำช้า และขัดต่อจิตวิญญาณประชาธิปไตย ขัดกับหลักการทางวิชาการนิติศาสตร์ และรัฐศาสตร์ได้ถึงเพียงนี้

ผมเชื่อว่าจากการศึกษาประวัติศาสตร์สมัยใหม่ของการดำรงอยู่ และ/หรือการล่มสลายของสถาบันกษัตริย์ทั่วโลก ไม่ว่าจะในเอเชีย หรือยุโรป เช่นในสหราชอาณาจักร (อังกฤษ)

มีข้อสรุปเพียงสั้น ๆ อยู่ที่ว่า หากมี “การปฏิรูป” ก็อยู่รอด แต่หากขัดขืนดำเนินไปแบบเดิม ๆ หรือ แบบทั้งรุนแรง ทั้งร้ายแรง ก็จะหลีกเลี่ยง “การปฏิวัติ” ที่นองเลือดไปไม่ได้ ด้วยความชื่นชม และนับถือในน้ำใจและความกล้าหาญของนักประชาธิปไตยทุกรุ่น

ล่าสุดวันนี้ 13 พฤศจิกายน 2564 นายนันทิวัฒน์ สามารถ อดีตรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ ได้ออกมาโพสต์ข้อความตอบโต้ผ่านเฟซบุ๊กอย่างดุเดือดว่า

น่ารำคาญ

ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยชัดเจนจนขนาดนี้  ยังไม่สลด ยังทำปากดี  รำคาญไอ้พวกอาจารย์ที่ส่งเสียงขู่ฟอดๆ  กลัวตัวสั่นเลย

จะปฏิวัติ จะต้องนองเลือด สงครามกลางเมือง เปลือยตัวตนหมดแล้ว ว่ากระหายเลือด ไม่สงบสันติจริงๆ ขนาดพคท.องค์กรปฏิวัติ มีการจัดตั้งเข้มแข็ง ยังไปไม่รอด

จาบจ้วงสถาบันที่คนทั้งประเทศรักและหวงแหน ใครมันจะยอม ไม่อยากท้านะ  ออกมานำเองเลย เอาไงเอากัน

ขอยืมวาทะหม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ กูไม่กลัวมึง

Exit mobile version