นักวิชาการดังแจ้งด่วน บุกโรงพักจับปิยบุตร! คนไทยเชียร์ลั่นคดีหนัก กบฏ-ม.112

2434

จากกรณีศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย10 ข้อเรียกร้อง ของกลุ่มผู้ชุมนุม คณะราษฎร เมื่อวันที่ 10 สิงหา 2563 ที่ ม.ธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ซึ่งนำโดย อานนท์ นำภา , ภาณุพงศ์ จาดนอก , ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล , มีความผิดฐานล้มล้างการปกครองนั้น

ทั้งนี้สังคมมีการตั้งข้อสังเกตที่น่าสนใจ เกี่ยวกับผู้ที่ให้การสนับสนุน ก็อาจจะเข้าข่ายมีความผิดไม่ต่างกันโดยเฉพาะ “ปิยบุตร แสงกนกกุล” เลขาธิการคณะก้าวหน้า ที่แม้เคลื่อนไหวและมีปัญหากับ สถาบันพระมหากษัตริย์มาโดยตลอด แต่กลับรอดพ้นไม่เคยโดนข้ออะไร ด้วยอาศัยความเป็นนักกฎหมาย

โดยตัวอย่างหนึ่ง หากย้อนไปต่อมาเมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 2563 นายปิยบุตร ได้ยืนยันผ่านเฟซบุ๊คของตนเอง ว่า  10 ข้อเรียกร้อง “ธรรมศาสตร์จะไม่ทน” คือข้อเท็จจริง และไม่มีส่วนเกี่ยวข้องละเมิด “สถาบัน”

ซึ่งได้เปิดเผยว่า “ข้อเสนอทั้ง 10 ข้อของพวกเขา ไม่ได้ทำให้ประเทศไทยเปลี่ยนรูปแบบของรัฐ ประเทศไทยยังคงเป็นราชอาณาจักร มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขของรัฐสืบทอดทางสายโลหิต เช่นเดิม

ต่อมาวันที่ 11 พฤศจิกายน 2564 อุ๊ หฤทัย ม่วงบุญศรี ศิลปินนักร้องชื่อดัง ได้ออกมาโพสต์ข้อความถึงกรณีดังกล่าว พร้อมทวงถามถึงความคืบหน้าคดีที่เคยร้องทุกข์เอาผิดนายปิยบุตรไว้ที่กองปราบว่า

“2 ปีแล้วที่อุ๊​ร้องทุกข์​กล่าว​โทษนายปิยบุตร​ที่สำนักงาน​กองปราบ​ฯ​ เรื่อง นาย​ปิยบุตร ​มีเจตนา​ปั่นทอนสถาบัน​พระมหา​กษัตริย์ ​(เสาหลัก​ของชาติ)​​ ให้​สั่นคลอน​ เพื่อ​เจตนา​มุ่งหวัง​ให้​เกิด​เปลี่ยนแปลง​การ​ปกครอง​ หลังจาก​คำพิพากษา​ของศาลรัฐธรรมนูญ​วันนี้ทางกองปราบ​ฯสามารถ​ดำเนิน​การตรวจสอบ​ได้​รึยัง​คะ?”

ล่าสุด นายเทพมนตรี ลิมปพยอม นักวิชาการอิสระด้านประวัติศาสตร์และนักเทววิทยา ออกมาโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Thepmontri Limpaphayorm ถึงการดำเนินคดีกับนายปิยบุตรว่า วันพุธที่ 17 พฤศจิกายน นัดเจ้าหน้าที่ตำรวจ สถานีตำรวจนครบาลดุสิต เรื่องสำคัญมาก

นอกจากนี้นายเทพมนตรี ยังโพสต์ข้อความอีกครั้งว่า “สัปดาห์หน้าปิยบุตร โดนคดีครับ สั้นๆกระชับๆ”

อย่างไรก็ตามทีมข่าวเดอะทรูธ ตรวจสอบพบว่า เมื่อวันที่ 23 กันยา 2564 นายปิยบุตร ซึ่งอยู่ระหว่างเดินทางไปหาภรรยาที่ประเทศฝรั่งเศส ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Piyabutr Saengkanokkul – ปิยบุตร แสงกนกกุล ว่า กำลังเตรียมเก็บกระเป๋าเดินทางกลับประเทศไทย เมื่อไรที่เดินทางมาอยู่ที่ปารีส กิจกรรมที่ทำอยู่เป็นประจำ คือ เข้าร้านหนังสือ ซื้อหนังสือ

“รอบนี้ อยู่ค่อนข้างนาน ก็เลยซื้อเยอะมากกว่าคราวก่อนๆ

ผมไม่เคยคิดว่าการมีหนังสือสะสมไว้มากจะกลายเป็นปัญหาในชีวิต จนกระทั่งเข้าสู่การเมือง เป็น ส.ส. แล้วต้องแสดงบัญชีทรัพย์สิน ทางเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. แนะนำว่า อะไรที่มีค่าสำหรับเรา ก็ให้แจ้งบัญชีทรัพย์สินมา แจ้งเผื่อไว้ก่อน เพื่อความปลอดภัย

ตอนนี้ ถูกตัดสิทธิ พ้นสภาพการเป็น ส.ส.แล้ว ก็สบายขึ้น ไม่ต้องมานับ มากะประมาณจำนวนหนังสือแล้ว

ครั้งต่อไป ที่ต้องนับจำนวน บันทึกรายการ ก็คงตอนชรา เพื่อบันทึกส่งมอบเป็นมรดกให้คนรุ่นหลังต่อไป”

กระนั้นเองที่ทำให้สังคมชาวไทย ต่างก็ตั้งข้อสันนิฐานไว้หากนายปิยบุตร ถูกดำเนินคดีจริงๆ และถ้าถึงขั้นที่ว่าต้องติดคุกนั้น ทางเจ้าตัวซึ่งมีภรรยาอยู่ฝรั่งเศส จะหลบหนีคดีหรือไม่ หรือจะอยู่สู้คดีอย่างถึงที่สุด เคียงข้างกับกลุ่มเด็ก เยาวชน ที่ต้องโดนคดีจำนวนมาก และหลายคนต้องไปใช้ชีวิตอยู่ในเรือนจำ แทบจะหมดอนาคต เพราะมีผู้ใหญ่บางคนปลุกระดมปั่นหัว???