ปธน.โจ ไบเดนและฝ่ายบริหาร กำลังเผชิญกับคดีความอีกชุดหนึ่งจาก 10 มลรัฐเกี่ยวกับคำสั่งบังคับวัคซีน Covid-19 คราวนี้เพื่อท้าทายคำสั่งของประธานาธิบดีที่จะฉีดวัคซีนให้กับเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ 17 ล้านคน ก่อนหน้านี้กลางเดือนตุลาคมบรรดารัฐต่าง ๆ รวม 19 แห่งแล้วที่ได้ยื่นฟ้องคณะบริหารของปธน. ไบเดน เพื่อให้ยกเลิกคำสั่งบังคับลูกจ้างโครงการแบบรับเหมาของรัฐบาลกลางให้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 โดยโต้แย้งว่าคำสั่งดังกล่าวเป็นการละเมิดกฎหมาย ล่าสุดศาลฯตัดสินยกเลิกคำสั่งปธน.ชี้ว่าผิดกฎหมายรัฐธรรมนูญ
เมื่อวันพุธที่ 10 พ.ย.2564 ตัวแทนแพทย์-พยาบาลจาก 10 มลรัฐของสหรัฐอเมริกา ได้ยื่นฟ้องปธน.โจ ไบเดนและคณะบริหาร ที่ศาลแขวงสหรัฐในเซนต์หลุยส์ โดยระบุว่าคำสั่งดังกล่าวละเมิดกฎหมายรัฐธรรมนูญหลายมาตรา รัฐมิสซูรีเป็นโจทก์นำและเข้าร่วมในคดีนี้โดย รัฐเนแบรสกา อาร์คันซอ แคนซัส ไอโอวา ไวโอมิง อลาสก้า เซาท์ดาโคตา นอร์ทดาโคตา และนิวแฮมป์เชียร์
เอริค ชมิตต์(Eric Schmitt) อัยการรัฐมิสซูรีกล่าวว่า “น่าเสียใจ ที่คำสั่งล่าสุดจากฝ่ายบริหารของไบเดน ทำให้ฮีโร่ด้านการดูแลสุขภาพของปีที่แล้วกลายเป็นคนตกงานในปีนี้”
คำสั่งนี้สร้างปัญหาส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมการดูแลสุขภาพส่วนใหญ่ในสหรัฐอเมริกา เนื่องจากครอบคลุมผู้ให้บริการทั้งหมด 76,000 รายที่ได้รับเงินจากโครงการ Medicare และ Medicaid ขนาดใหญ่ของประเทศ ต่างจากกฎเกณฑ์ที่บังคับอย่างครอบคลุมทุกธุรกิจที่มีพนักงานตั้งแต่ 100 คนขึ้นไป ข้อกำหนดสำหรับภาคการดูแลสุขภาพ – ออกเมื่อสัปดาห์ที่แล้วโดย Centers for Medicare & Medicaid Services (CMS) – และหากไม่ฉีดวัคซีน กำหนดให้คนงานทดสอบผลทุกสัปดาห์เพื่อพิสูจน์ว่าพวกเขาไม่มีโควิด-19
CMS ขู่ว่าจะทำให้ปัญหาการขาดแคลนบุคลากรด้านสาธารณสุขรุนแรงขึ้น โดยการบังคับให้โรงพยาบาลในชนบทขนาดเล็กต้องเลิกจ้างพนักงานที่ไม่ได้รับวัคซีน”คดีดังกล่าวระบุ “ในทางกลับกัน จะบังคับให้โรงพยาบาลเหล่านั้นปิดหน่วยงานบางส่วน ยกเลิกบริการบางอย่าง หรือปิดบริการทั้งหมด”
มลรัฐและภาคธุรกิจต่างๆ ได้ฟ้องร้องรัฐบาลกลางเกี่ยวกับคำสั่งฉีดวัคซีนของประธานาธิบดีไบเดนในหลายแง่มุม เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ศาลอุทธรณ์ของรัฐบาลกลางสั่งระงับคำสั่งครอบคลุมนายจ้างเอกชนชั่วคราว โดยระบุว่ามี“ประเด็นเกี่ยวข้อง ทางกฎหมายและรัฐธรรมนูญที่ร้ายแรง”ในคำสั่งดังกล่าว อย่างไรก็ตาม เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา โฆษกหญิงของทำเนียบขาว บอกกับธุรกิจต่างๆ ให้เพิกเฉยต่อการพิจารณาคดีทางกฎหมายและให้ดำเนินการตามคำสั่งปธน.ต่อไป
รัฐที่ถูกกล่าวหาในคดีความครั้งล่าสุด บังคับเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์เป็นการละเมิดสิทธิทางศาสนาตามรัฐธรรมนูญ ตลอดจนสิทธิ์ในการแก้ไขเพิ่มเติมครั้งที่ 10 ของรัฐในการควบคุมการรักษาพยาบาลภายในเขตแดนของตน
ชมิตต์(Schmitt) จากรัฐมิสซูรี (Missouri) กล่าวว่าสำนักงานของเขาจะยังคงต่อต้าน”คำสั่งที่ผิดกฎหมาย”ของไบเดน รัฐที่นำโดยพรรครีพับลิกันได้ต่อสู้กับฝ่ายบริหารของปธน.ไบเดนในประเด็นต่างๆ ตั้งแต่ท่อส่งน้ำมันที่ถูกยกเลิกไปจนถึงการรักษาความปลอดภัยชายแดน แต่คดีความด้านการรักษาพยาบาลรวมถึงรัฐหนึ่งคือแคนซัส ซึ่งมีผู้ว่าการจารกพรรคเดโมแครต
ลอร่า เคลลี ผู้ว่าการรัฐแคนซัส(Kansas Governor Laura Kelly) ขัดแย้งกับพรรคเดโมแครตอย่างหนักเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยกล่าวว่าเธอไม่เชื่อว่าคำสั่งบังคับฉีดวัคซีนของไบเดนสำหรับนายจ้างรายใหญ่นั้น เป็นสิ่งที่“ถูกต้อง”หรือ“มีประสิทธิภาพ” เธอเสริมว่า”มันสายเกินไปที่จะกำหนดมาตรฐานของรัฐบาลกลางแล้วในขณะนี้ แต่ละมลรัฐของเราได้พัฒนาระบบและกลยุทธ์ที่ปรับให้เข้ากับความต้องการเฉพาะของตัวเองแล้ว”
เจฟฟ์ แลนดรี อัยการสูงสุดของรัฐหลุยเซียนา(Louisiana Attorney General Jeff Landry) กล่าวว่า การดำเนินการดังกล่าวจะหยุดประธานาธิบดีไบเดน “จากการก้าวไปข้างหน้าด้วยการกระทำที่ผิดกฎหมายของเขา”
