คนไทยผวาหนัก! “ปิยบุตร” ประกาศลั่น วันนี้ชี้ชะตา ปากกาของผู้พิพากษา จะนำพาไปสู่ “สงครามกลางเมือง” หรือไม่?
เรียกได้ว่ากำลังเป็นที่น่าจับตามอง ในวันที่ 10 พ.ย.64 ซึ่งเป็นวันนัดอ่านคำวินิจฉัยในคดีที่ นายณฐพร โตประยูร ได้ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยสั่งให้ อานนท์ นำภา, ภาณุพงศ์ จาดนอก, ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล, พริษฐ์ ชิวารักษ์, จุฑาทิพย์ ศิริขันธ์, สิริพัชระ จึงธีรพานิช, สมยศ พฤกษาเกษมสุข และอาทิตยา พรพรม เลิกการกระทำอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ตามรัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 49
ซึ่งที่น่าสนใจเป็นอย่างมากเห็นทีจะเป็นข้อความในช่วงท้ายโพสต์ของ ปิยบุตร แสงกนกกุล ที่ได้พูดถึงการเปลี่ยนแปลง ของระบอบการปกครองในประเทศไทย จะเปลี่ยนไปขึ้นอยู่ที่การตัดสินของศาลฯในวันนี้ โดยมีรายละเอียดว่า
ไม่ว่าจะชอบหรือไม่ชอบ ไม่ว่าจะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย แต่ต้องยอมรับข้อเท็จจริงว่า ข้อเสนอเรื่องการปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ถูกวางอยู่บนโต๊ะเรียบร้อย “ช้างที่อยู่ในห้อง” ที่เราแกล้งมองไม่เห็นมันมาหลายทศวรรษถูกเปิดเผยหมดแล้ว และมีเยาวรุ่นและประชาชนจำนวนมากมองสถาบันกษัตริย์ไม่เหมือนคนรุ่นก่อน ไม่เหมือนเดิมที่เคยเป็นมา
การปฏิรูปสถาบันกษัตริย์จะเกิดขึ้นได้ในสังคมไทยหรือไม่?
การรณรงค์เข้าชื่อเสนอกฎหมายยกเลิกประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 หรือการรณรงค์เข้าชื่อเสนอร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมในหมวด 2 จะดำเนินได้ต่อไปหรือไม่?
ทั้งหมดนี้อยู่ใน “กำมือ” ของศาลรัฐธรรมนูญ
หากประตู “ปฏิรูปสถาบันกษัตริย์” ถูกปิดลง ก็เท่ากับว่า การปฏิรูปสถาบันกษัตริย์เพื่อให้สอดคล้องกับระบอบประชาธิปไตยที่ยังรักษาสถาบันกษัตริย์เอาไว้ ให้กษัตริย์เป็นประมุขของรัฐอยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญ หรือ constitutional monarchy ก็ถูกปิดลงไปด้วย
หากเป็นเช่นนี้ สังคมไทยก็จะเดินมาสู่ทางเลือกเพียงสองทางที่หลงเหลืออยู่
หนึ่ง อยู่กันไปแบบนี้ กับระบอบการปกครองแบบที่เป็นอยู่ที่มีลักษณะโน้มเอียงไปทางสมบูรณาญาสิทธิราชย์จำแลงมากขึ้นนับแต่ คสช.ก่อรัฐประหาร
หรือ สอง ระบอบอื่น
คงเป็นเรื่องยอกย้อนชวนหัวในทางประวัติศาสตร์ที่สุด ถ้าการปฏิวัติเปลี่ยนแปลงระบอบในประเทศไทย ไม่ได้เกิดจากการเรียกร้อง “ข้อ 3 ปฏิรูปสถาบันกษัตริย์” ของ “ราษฎร” แบบที่หวาดระแวงกัน
แต่มันกลับเกิดจากการตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญ !!!
อาจารย์สถิต ไพเราะ อดีตรองประธานศาลฎีกาเคยเขียนเรื่องเล่าชื่อว่า “ปากกาอยู่ที่มัน” เพื่อชี้ให้เห็นว่าผลแห่งคดีต่างๆขึ้นกับการขีดเขียนของผู้พิพากษา
Roger Brooke Taney ประธานศาลสูงสุดสหรัฐอเมริกา เขียนคำพิพากษาจนพาประเทศสหรัฐอเมริกาไปสู่สงครามกลางเมือง
บ่ายสามของวันพุธที่ 10 พฤศจิกายน 2564 ศาลรัฐธรรมนูญ คือ ผู้ชี้ชะตา !!!