พรรคไทยภักดี เปิดศึก ดวลดีเบต “ทอน-ช่อ-บุด” ปะทะ “อ.อานนท์-หมอวรงค์-อ.พิมพ์ณัฐชยา” มันส์แน่นอน

1626

กล้าๆหน่อยเถอะ! พรรคไทยภักดี เปิดศึก ดวลดีเบต “ทอน-ช่อ-บุด” ปะทะ “อ.อานนท์-หมอวรงค์-อ.พิมพ์ณัฐชยา” มันส์แน่นอน!

เรียกได้ว่ากำลังเป็นประเด็นสุดร้อนแรงหลังจากที่ทางด้านของ นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า แพ้อย่างราบคาบ ให้กับทางด้านของ นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี เลขาธิการพรรคกล้า ในประเด็น ม.112

ล่าสุดทางด้านของ ผศ.พิมพ์ณัฐชยา สัจจาศิลป์ โฆษกพรรคไทยภักดี ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟสบุ๊คส่วนตัว เป็นการท้าดีเบตใน 2 ประเด็นคือ 1. ไว้ใจได้ และ 2. หาทางออกประเทศ โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

แสร้งโต้วาทีแพ้ หนึ่งในกลยุทธ์ ขุดบ่อล่อปลา
ปลาเริ่มกินเหยื่อ เข้าบ่อ ต้องล่อต่อ…เวทีต่อไป
อย่าให้เป็นสายบัวรอเก้อ นะ ขอวัน เวลาด่วน ๆ ค่ะ
ออกมาใหม่กองเชียร์รออยู่ ยึดหลักการ ป่าล้อมเมือง

….ถ้าบังเอิญเปลี่ยนใจคนได้ แม้ไม่กี่คน ก็คุ้มค่า จึงขอท้าในญัตติ
1. “ไว้ใจได้” ดีเบตระหว่าง อ.ปิยบุตร พบ อ.อานนท์
2. “หาทางออกประเทศ“ ดีเบตระหว่าง อ.ปิยบุตร คุณธนาธร คุณพรรณิการ์ พบ อ.อานนท์ หมอวรงค์ อ.พิมพ์ณัฐชยา”

เปิดพื้นที่ ไม่แปลงสภาพม็อบเป็นสงครามกลางเมืองกรุง ไม่ปิดปากฟ้องแบบนิติสงคราม 24,062,475 บาท ไม่ย่ำอยู่กับวันเดือนปีปล้นอำนาจราชวงศ์ …เดินหน้าไปด้วยกัน ค่ะ

จากความในใจปิยบุตร ทวิตว่า …
“มีคนวิจารณ์ว่า ทำไมผมไปดีเบตกับอรรถวิชช์ในรายการจอมขวัญด้วยท่าทีสุภาพเรียบร้อย ไม่สะใจกองเชียร์ เหตุผลดีกว่าแต่โต้วาทีสู้ไม่ได้? ทั้งหมดผมจงใจให้เป็นแบบนี้ ด้วยเหตุผลหลายประการ

“หนึ่ง ผมต้องการพูดให้คนที่รักไม่เชียร์ผม หรือคนที่ไม่ได้ติดตามผมได้ฟังผม แม้ผมอธิบายเรื่องพวกนี้ในพื้นที่ของผมได้บ้าง แต่พวกเขาก็ไม่เคยฟัง ต่อต้าน แต่อย่างน้อยพอรายการนี้มีฝ่ายขวาอนุรักษ์นิยมมาพูดด้วย อย่างน้อย เขาก็ต้องได้ฟังผมบ้าง

สอง การสื่อสารกับคนเหล่านี้ต้องใช้ท่าทีอีกแบบ เราไม่สามารถใช้ท่าทีดุดันได้เลย ผมจึงปล่อยให้อรรถวิชช์ทำตน “ยกตนข่มท่าน” เพื่อให้คนที่มีเหตุผลพอควรเห็นว่า คนที่พวกคุณคิดว่าล้มเจ้าแบบผม พร้อมจะพูดคุยหาทางออกด้วยการปฏิรูปสถาบันกษัตริย์

สาม ผมมาดีเบตกับคนเหล่านี้ ไม่เคยคิดว่า จะต้องเอาชนะโต้วาที ให้คนกดปุ่มเชียร์โหวตให้ ถ้าผมต้องการแบบนั้น ผมก็พอทราบอยู่ว่า เทคนิคการโต้วาทีเพื่อเอาชนะต้องทำอย่างไร แต่ผมต้องการแสดงให้เห็นว่าการคุยเรื่อง 112 และกษัตริย์สามารถทำได้ในสื่อสาธารณะ โดยไม่ต้อง “วงแตก”

ผมหวังว่า อย่างน้อย การดีเบตในรายการนี้จะช่วยเปลี่ยนใจคนที่ไม่เห็นด้วยให้ฉุกคิดหรือฟังเหตุผลของเรา ในท้ายที่สุด อาจไม่สำเร็จ แต่ถ้าบังเอิญเปลี่ยนใจคนได้ แม้ไม่กี่คน ก็คุ้มค่ากว่าการที่ผมโต้วาที่ใช้โวหารชนะอรรถวิชช์ หากผมประเมินผิดทั้งหมด ก็ต้องยอมรับและวางแผนการสื่อสารใหม่ครับ

วางแผนการสื่อสารใหม่ แล้วเราพบกันค่ะ
ผศ.พิมพ์ณัฐชยา สัจจาศิลป์
คณะกรรมการโฆษกพรรคไทยภักดี