หลังจากในช่วงที่ผ่านมา บรรดากลุ่มกองหนุนม็อบ 3 นิ้ว รวมทั้งท่อน้ำเลี้ยงม็อบ ต่างออกมาเคลื่อนไหว ให้มีการปล่อยตัวแกนนำ 3 นิ้ว ที่อยู่ในเรือนจำ แต่ดูเหมือนว่าจะไม่เป็นผล เนื่องจากหลาย ๆ พรรคการเมืองที่เคยออกตัวสนับสนุน ต่างวุ่นกับการลงพื้นที่และหาเสียง รวมทั้งพรรคก้าวไกลที่กำลังล่ารายชื่อแก้ม.112
จนล่าสุดทางกลุ่มพลเมืองเพื่อผู้ต้องขังทางการเมือง ที่ก่อตั้งโดยนายปกรณ์ พรชีวางกูร หรือบุ๊ง (ราษฎร) และมิตรสหาย ได้ออกแถลงการณ์เรื่อง พรรคการเมืองต้องผลักดันให้ผู้ต้องขังทางการเมืองได้สิทธิประกันตัว โดยมีเนื้อหาใจความว่า ปัจจุบันมีผู้ต้องขังทางการเมืองที่เป็นนักเรียน นิสิต นักศึกษา ทนายความ ศิลปิน นักการเมือง พยาบาล แม่ค้า และราษฎรอย่างน้อย 15 คน (ข้อมูลจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน) ที่ถูกดำเนินคดีและจับกุมคุมขังจากการใช้กฎหมายอาญามาตรา 112 กฎหมายอาญามาตรา 116 พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน และกฎหมายอื่นๆ โดยกฎหมายหลักที่ใช้ดำเนินคดี คือกฎหมายอาญามาตรา 112 ที่มีการนำมาใช้อย่างกว้างขวาง ทั้งจำนวนคดีที่มีถึง 159 คดี และจำนวนคดีต่อคนคือ เพนกวิน พริษฐ์ ชิวารักษ์ ซึ่งถูกดำเนินคดีด้วยมาตรา 112 ถึง 21 คดี จำนวนโทษสูงสุดถึง 315 ปี โดยผู้ต้องขังในคดีเหล่านี้ทั้งหมด ยังไม่ได้รับการไต่สวน แต่กลับถูกคุมขังก่อนการพิจารณาคดี โดยไม่ได้รับสิทธิประกันตัว
พรรคการเมือง ในฐานะองค์กรทางการเมืองที่เสนอตัวรับใช้ประชาชนเข้ามาเป็นตัวแทนประชาชน เป็นปากเป็นเสียงแทนประชาชน ในการเรียกร้องแก้ไขปัญหา และดำรงไว้ซึ่งสิทธิเสรีภาพของประชาชน เพื่อประโยชน์ของประชาชนเป็นที่ตั้งสูงสุด ตามสัตยาบันที่ให้ไว้ยามที่ต้องการคะแนนเสียงของประชาชน
วันนี้ ประชาชน ซึ่งเป็นพลเมืองของประเทศได้มาทวงถามและเรียกร้องให้พรรคการเมือง ต้องผลักดันให้เกิดความเป็นธรรมอย่างแท้จริงในกระบวนการยุติธรรม ผู้ต้องขังทางการเมืองทุกคน ต้องได้รับสิทธิการประกันตัว ซึ่งเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของพลเมืองไทยตามที่ระบุไว้ในรัฐธรรมนูญ ผู้ต้องขังทางการเมืองทุกคนมีสิทธิที่จะได้รับการคุ้มครองตามกฎหมาย เพื่อให้ได้ออกมาต่อสู้คดีอย่างเป็นธรรม ซึ่งข้อเรียกร้องทั้งหมดนี้เป็นไปเพื่อให้กระบวนการยุติธรรม ยังคงความสง่างาม และไม่ตกเป็นเครื่องมือของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง จากนี้ประชาชนจะจับตาและเฝ้าดูผลการเรียกร้องครั้งนี้อย่างใกล้ชิด เพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจ ในการเลือกไว้วางใจตัวแทนของประชาชนในครั้งต่อไป
โดยในเฟซบุ๊กของ นายปกรณ์ พรชีวางกูร หรือบุ๊ง (ราษฎร) ได้โพสต์ภาพขณะเดินทางไปยื่นจดหมายที่พรรคเพื่อไทย และพรรคก้าวไกล ด้วย และยังมีข้อความระบุด้วยว่า ” ใครจะอะไรยังไงกูไม่สนใจ
ตอนนี้เป้าเดียวของกูคือเอาทุกคนในคุกออกมา ผู้ต้องขังคดีการเมืองจะต้องได้รับการประกันตัว ออกมาสู้คดีกันข้างนอก ไม่ใช่อย่างที่เป็นทุกวันนี้ศาลยังไม่ตัดสินแต่เอาเข้าไปขังรอไว้แล้ว แบบนี้มันไม่ถูก
สภาผู้แทนต้องเป็นทางออก เรามีคนที่โดนคดี 112 เป็นร้อยคน แล้วมากกว่า90%เป็นวัยรุ่นเป็นวัยเรียนทั้งนั้น
วันนี้บอกตรง ๆ ว่าหวังสูงไว้มากว่าการไปยื่นหนังสือให้พรรคเพื่อไทย+ก้าวไกล
หวังว่า 2 พรรคนี้จะช่วยหาทางออกที่ดีให้กับเรื่องนี้ได้”