โบว์ แฉเอง! สามนิ้วทำผิดม.112 จริง พบละเมิดสถาบันจนเกินเลย ลั่นไม่จำเป็นต้องให้ท้าย

1710

โบว์ แฉเอง! สามนิ้วทำผิดม.112 จริง พบละเมิดสถาบันจนเกินเลย ลั่นไม่จำเป็นต้องให้ท้าย

จากกรณีที่เมื่อวันที่ 25 ตุลาคมที่ผ่านมา โบว์ ณัฏฐา มหัทธนา นักกิจกรรมนักเคลื่อนไหวทางการเมือง โพสต์เฟซบุ๊กถึงกรณีกฎหมายหมิ่นประมาท โดยบอกว่า เห็นว่ามีแนวคิดอยากแก้กฎหมายหมิ่นประมาทบุคคลธรรมดาให้เหลือแต่โทษปรับ ส่วนตัวไม่เห็นด้วยค่ะ การหมิ่นประมาทคือการใส่ความให้ผู้เสียหายถูกดูหมิ่นเกลียดชัง เป็นการกระทำโดยจงใจที่มีการวางแผนล่วงหน้าและอาจถึงขั้นทำลายอนาคตผู้อื่นได้

องค์ประกอบความผิดฐานหมิ่นประมาทคือการ “ใส่ความบุคคลอื่นต่อบุคคลที่สาม โดยประการที่น่าจะทำให้ผู้นั้นเสื่อมเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น หรือถูกเกลียดชัง” ไม่เหมือนการด่าเพราะปากพล่อยหรือหลุดปากไปตามอารมณ์ แต่เป็นไปด้วยเจตนาร้ายที่หวังผลทำลายอีกฝ่ายถึงขนาดใส่ความเพื่อให้อีกฝ่ายเสียหาย จึงควรมีโทษปรับถึงจำคุกไว้เพื่อให้ศาลใช้ดุลพินิจลงโทษให้ได้ส่วนกับเหตุ

ไม่ควรมีใครสามารถจะรู้สึกสบายใจกับการให้ร้ายคนอื่นได้เพราะคิดว่าอย่างมากแค่มีเงินจ่ายค่าปรับก็จบ เพราะผู้ถูกกระทำอาจถูกตีตราไปชั่วชีวิตหรือต้องรับผลกระทบในหลายมิติอย่างหนักและยาวนาน
และล่าสุดเมื่อวานนี้ (3 พฤศจิกายน 2564) โบว์ ณัฏฐา ก็ได้โพสต์ข้อความต่อว่า สิ่งที่ควรพูดกันตรงๆคือ ตัวบทบัญญัติมีปัญหาในหลักกฎหมายที่ควรปรับปรุงได้จริง ส่วนการละเมิดที่เกินเลยและ “ผิด” ก็มีจริง ไม่มีความจำเป็นอะไรต้องไปให้ท้ายกัน ต้องตรงไปตรงมากับสังคม จึงจะเกิดบรรยากาศที่คุยกันรู้เรื่อง

การปรับปรุงกฎหมายที่น่าพิจารณาคือ แยกความผิดฐานดูหมิ่น หมิ่นประมาทและอาฆาตมาดร้ายออกจากกันเพื่อให้กฎหมายมีความละเอียดขึ้น แล้วกำหนดบทลงโทษของแต่ละฐานความผิดให้เหมาะสม รวมถึงกำหนดองค์กรที่จะมีอำนาจฟ้องร้องได้เพื่อไม่ให้ใครฉวยโอกาสใช้กม.เป็นเครื่องมือกลั่นแกล้งกัน จะได้คัดกรองคดีที่มีน้ำหนักจริง ซึ่งเป็นประโยชน์
ทุกฝ่ายมีสิทธิรณรงค์ค่ะ ส่วนจะแก้ไขได้หรือไม่ อยู่ที่เสียงส่วนใหญ่ในสภา ก็ต้องเคารพกันตามกลไกประชาธิปไตย
Bow Nuttaa Mahattana
#ไม่ยกเลิก112 #สนับสนุนการปรับปรุงกฎหมายทุกมาตรา
ในขณะที่ทางด้าน นายชัยธวัช ตุลาธน  เลขาธิการพรรคก้าวไกล แถลงจุดยืนต่อประเด็นการเสนอแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา112 รวมถึงกฎหมายที่เกี่ยวข้องว่า พรรคก้าวไกลเคยเสนอแก้ไข5ร่างกฎหมายที่เกี่ยวข้องไปแล้วเมื่อเดือนก.พ.ที่ผ่านมา แต่ปรากฎว่าขณะนี้มีแค่ร่างกฎหมาย4ฉบับที่เข้าสู่กระบวนการรรับฟังความคิดเห็นเพื่อรอบรรจุเข้าสู่วาระ ส่วนร่างแก้ไขมาตรา112กลับถูกโต้แย้งจากสำนักการประชุม สภาฯว่ามีบทบัญญัตติที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญมาตรา6 ที่ระบุว่า “องค์พระมหากษัตริย์ทรงดำรงอยู่ในฐานะอันเป็นที่เคารพสักการะ ผู้ใดจะละเมิดมิได้ ผู้ใดจะกล่าวหาหรือฟ้องร้องพระมหากษัตริย์ในทางใดๆ มิได้” กรณีนี้พรรคได้เคยได้ทำหนังสือโต้แย้งไปแล้ว ว่าเนื้อหาดังกล่าวไม่ได้ขัดแย้งต่อบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ
พร้อมกับบอกว่า ถึงเวลาแล้วที่ผู้มีอำนาจต้องคืนสิทธิในการประกันตัวให้แก่ผู้ต้องหาคดี ม.112 และใช้กลไกทางการเมืองในการยุติคดีการเมืองต่างๆ ไม่ควรมีใครต้องอยู่ในคุกเพราะการแสดงออกทางการเมือง ในที่สุดหากต้องนิรโทษกรรมคดีการเมืองเพื่อคลี่คลายความขัดแย้งในสังคมก็จำเป็นต้องทำ พรรคก้าวไกลหวังว่าหากร่างกฎหมายฉบับนี้ถูกเสนอเข้าสู่สภาฯจะได้รับการสนับสนุนจากพรรคการเมือง ยอมรับว่าการเสนอร่างดังกล่าวเข้าสู่สภาเป็นเพราะสถานการณ์ทางการเมืองนอกสภาฯ โดยเห็นว่าในฐานะส.ส.ไม่สามารถงดเว้นไม่สนใจในเรื่องนี้ได้ หากเรื่องนี้ไม่ได้รับการแก้ไขสุดท้ายจะนำไปสู่ความไม่พอใจเรื่อยๆสุดท้ายจะนำไปสู่การยกเลิกในอนาคต วันนี้เราหวังว่าการใช้เวทีสภาจะเป็นส่วนหนึ่งในการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น
ในขณะที่นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า ได้โพสต์ข้อความว่า “112” ไม่ใช่แค่กฎหมายธรรมดา แต่เป็นมากกว่านั้น การปล่อยให้ “112” อยู่ต่อไป แบบเบาลง หรือปล่อยให้อวตารเป็นร่างอื่น คือ กินยาพารา แต่ก็มีโอกาสฟื้นคืนชีพกลับมาได้เสมอ ปฏิวัติที่ไม่ปฏิวัติไม่ใช่ปฏิวัติ โค้กที่ไม่มีน่ำตาลไม่ใช่โค้ก กาแฟที่ไม่ขมไม่ใช่กาแฟ ปฏิวัติอยู่หน้าประตูแต่ไม่ใช้
และยังโพสต์ต่อว่า ส.ส.บางคนถามผมว่าจะเสนอร่างกฎหมาย 112 แบบใด ผมยืนยันเรื่องยกเลิก 112 พร้อมยกเลิกความผิดอาญาฐานหมิ่นประมาททั้งหมด ผมอธิบายเหตุผลยืดยาว แต่เมื่อพรรค กก เสนอแบบนั้นก็จบ ผมไม่เกี่ยวด้วย แต่ผมขอใช้เสรีภาพแสดงจุดยืนของผม เท่านี้นี้ก็พิสูจน์ได้แล้วว่าผมไม่เกี่ยวกับ กก สั่งการ กก ไม่ได้