รัสเซียและจีนแท็กทีมผลักดันให้คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติผ่อนคลายมาตรการคว่ำบาตรเกาหลีเหนือ ด้วยการฟื้นความพยายามเมื่อ 2 ปีก่อนในการยกเลิกมาตรการแบนการส่งออกประติมากรรมรูปปั้น อาหารทะเลและสิ่งทอ และขยายผลครอบคลุมการยกเลิกการจำกัดการนำเข้าปิโตรเลียมกลั่น ในขณะที่อเมริกากดดันให้คว่ำบาตรต่อไปโดยตั้งเงื่อนไขต้องให้เกาหลีเหนือหยุดทดสอบอาวุธก่อน
เมื่อวันจันทร์ที่ 2 พ.ย.2564 สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่ารัสเซียและจีนร่างญัตติต้องการให้สมาชิก 15 ชาติในคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) ยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรการส่งออกอาหารและการนำเข้าน้ำมันของเกาหลีเหนือเพื่อปรับปรุงสภาพความเป็นอยู่ของประชาชนเกาหลีเหนือ
ทั้งนี้เกาหลีเหนืออยู่ภายใต้มาตรการคว่ำบาตรของยูเอ็น มาตั้งแต่ปี 2006 จากการพัฒนาโครงการนิวเคลียร์และขีปนาวุธ
ร่างญัตติดังกล่าว ยังครอบคลุมถึงมาตรการอื่นๆ ที่รัสเซียและจีนเสนอไว้เมื่อเกือบ 2 ปีที่แล้ว เช่น การยกเลิกการห้ามคนเกาหลีเหนือทำงานนอกประเทศ และยกเลิกการแบนโครงการความร่วมมือเกี่ยวกับทางรถไฟและถนนระหว่างสองเกาหลี
นักการทูตหลายคนในยูเอ็นเชื่อว่า ร่างญัตติดังกล่าวซึ่งมีการเผยแพร่ในหมู่สมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงตั้งแต่วันศุกร์ที่ 29 ต.ค.2564 จะได้รับการสนับสนุนน้อยมาก รัสเซียและจีนยังไม่ได้กำหนดเวลาในการหารือเกี่ยวกับร่างนี้ ซึ่งจะผ่านความเห็นชอบต่อเมื่อได้รับเสียงสนับสนุน 9 เสียง โดยที่ไม่มีชาติใดในหมู่สมาชิกถาวรคัดค้าน ได้แก่ อเมริกา ฝรั่งเศส ญี่ปุ่น รัสเซีย และจีน
เมื่อปี 2019 รัสเซียและจีนได้จัดการประชุมแบบไม่เป็นทางการสองรอบเกี่ยวกับร่างญัตตินี้ แต่ไม่เคยมีการประชุมอย่างเป็นทางการเพื่อลงมติ
ฉาง จุน เอกอัครราชทูตจีนประจำยูเอ็น(Ambassador Zhang Jun) ให้สัมภาษณ์เมื่อเดือนที่แล้วว่า จีนมีความตั้งใจมาโดยตลอดในการหารือเกี่ยวกับสถานการณ์ด้านมนุษยธรรมที่เกิดจากมาตรการคว่ำบาตรของคณะมนตรีความมั่นคง และร่างญัตติปี 2019 ยังคงอยู่ในการพิจารณา
ด้านโฆษกคณะผู้แทนของอเมริกาในยูเอ็นกล่าวว่า สมาชิกทั้งหมดของยูเอ็นควรมุ่งเน้นการดำเนินการกับประเทศที่ละเมิดมาตรการคว่ำบาตรในขณะนี้ คณะมนตรีความมั่นคงย้ำมาหลายครั้งว่า พร้อมแก้ไข ระงับ หรือยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรโดยพิจารณาจากการปฏิบัติตามของเกาหลีเหนือ ขณะที่ผู้นำเกาหลีเหนือคิา จองอึนชี้ว่า สหประชาชาติสองมาตรฐานเสมอเรื่องการทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ เวลาเกาหลีเหนือทำจะตำหนิประณาม แต่เวลาสหรัฐและเกาหลีใต้ทำซ้ำยังซ้อมรบกันทุกปี กลับเงียบงันไม่มีความเห็น เป็นเหตุผลสำคัญที่ผู้นำเกาหลีเหนือยืนยันว่า สหรัฐและพวกต้องหยุดคว่ำบาตรก่อนจึงจะยอมเจรจาด้วย
ทั้งนี้มาตรการคว่ำบาตรอุตสาหกรรมต่างๆของสหรัฐและสหประชาชาติ ที่รัสเซียและจีนเสนอให้ผ่อนคลายนั้น เคยสร้างรายได้ให้เกาหลีเหนือหลายร้อยล้านดอลลาร์ โดยมีการบังคับใช้มาตรการเหล่านี้ในปี 2016 และ 2017 เพื่อสกัดการอัดฉีดเงินทุนให้โครงการนิวเคลียร์และขีปนาวุธของเปียงยาง
อย่างไรก็ตาม รายงานของยูเอ็นที่เผยแพร่ในเดือนสิงหาคมระบุว่า เกาหลีเหนือยังคงพัฒนาโครงการดังกล่าวอย่างต่อเนื่องในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ ทั้งที่สถานการณ์เศรษฐกิจของประเทศเลวร้ายหนัก
เกาหลีเหนือประสบปัญหาความไม่มั่นคงด้านอาหารมายาวนาน และผู้สังเกตการณ์ระบุว่า ผลกระทบจากมาตรการคว่ำบาตรและวิกฤตโควิดที่ทำให้เกาหลีเหนือต้องปิดพรมแดนแบบที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน จะทำให้ประชาชนเกาหลีเหนือเสี่ยงสูงที่จะเกิดภาวะวิกฤตขาดแคลนอาหาร
▪ N. KOREA SANCTIONS
U.S. urges China, Russia to fully implement UN sanctions on N. Korea: Reports#China #Russia #State_Department pic.twitter.com/ppKUCSGF0t
— Arirang News (@arirangtvnews) November 2, 2021