จากกรณีนายชัยเกษม นิติสิริ ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมือง พรรคเพื่อไทย ได้ให้สัมภาษณ์ ถึงการออกจดหมายเปิดผนึก เรียกร้องให้มีการพิจารณาปล่อยนักโทษทางความคิดที่เห็นต่างทางการเมือง
เพื่อฟื้นฟูความเชื่อมั่นในระบบยุติธรรมและปัญหาการใช้กฎหมายเป็นเครื่องมือทางการเมือง เพื่อจำกัดความคิดเห็นประชาชนที่แตกต่างจากรัฐบาลว่า ประเด็นหลักของพรรค คือ การเรียกร้องให้มีการพิจารณาปล่อยนักโทษทางความคิด ซึ่งทุกคนควรมีเสรีภาพทางความคิด และควรได้รับการประกันตัวตามสิทธิอย่างเท่าเทียม และได้ประกาศยืนยันเจตนารมณ์พร้อมนำข้อเสนอแก้ไข ป.อาญามาตรา 112 และ 116 เข้าสู่วาระการประชุมรัฐสภา
ต่อมาทางด้าน ม.จ.จุลเจิม ยุคล หรือ ท่านใหม่ โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กถึงกรณีดังกล่าวว่า เป็นกบฏต่อพระราชบัลลังก์ จากทนายเก่งที่สุด ของแผ่นดิน คนหนึ่ง เมื่ออายุมาก ยอมเสียศักดิ์ศรีของตัวเอง และวงศ์ตระกูล ยอมถวายตัว เพื่อเป็นขี้ข้ารับใช้คนหนีคดีหรืออย่างไร ?
เมื่อถามว่าจะเปิดอภิปรายตามมาตรา 152 ประมาณปลายเดือน พ.ย.ใช่หรือไม่ นายสุทิน กล่าวว่า ต้องรอฟังที่ประชุมหัวหน้าพรรคในวันที่ 3 พ.ย. ก่อน ว่าหัวหน้าพรรคอื่นๆ จะมีความเห็นอย่างไรบ้าง ซึ่งพรรคก้าวไกลก็เคยนำเสนอเรื่องนี้ไปแล้ว ก็ต้องถามพรรคอื่นๆ ก่อนว่าควรจะอภิปรายประเด็นอะไร และเมื่อไหร่ พรุ่งนี้น่าจะได้ข้อสรุป ส่วนพรรคเพื่อไทยจะร่วมลงชื่อเสนอญัตติอภิปรายมาตรา 152 ด้วยหรือไม่นั้น ปกติเราก็ทำร่วมกันอยู่แล้ว ครั้งนี้ก็ต้องทำร่วมกัน เพียงแต่ว่าจะเอาประเด็นอะไรและเมื่อไหร่ เราจะต้องคุยกันก่อน
ถามถึงพรรคเพื่อไทยจะเสนอร่างแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ของตัวเอง หรือจะเข้าชื่อร่างเดียวกับพรรคก้าวไกล นายสุทิน ตอบว่า เรื่องนี้ต้องถามนายชัยเกษม นิติสิริ ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมืองพรรคเพื่อไทย
เมื่อถามต่อว่า ในฐานะที่เป็นผู้คุมเสียงฝ่ายค้านในสภาฯ มองแนวโน้มในการผลักดันแก้มาตรา 112 อย่างไรบ้าง จะมีการติดขัดหรือไม่ นายสุทิน กล่าวว่า เรายังไม่ได้คุยกันจึงยังไม่รู้ท่าทีของพรรคร่วมฝ่ายค้านว่าจะดำเนินการอย่างไร แต่เรื่องนี้ต้องใช้การอธิบายที่สูงกว่าทุกเรื่อง ต้องใช้เวลาในการอธิบายให้ทุกคนได้รู้ถึงเจตนาที่แท้จริง เชื่อว่าหากอธิบายมากๆ จนทุกคนเข้าใจ ทุกอย่างก็เป็นไปได้ แต่หากอธิบายน้อย สื่อสารน้อยอาจจะเป็นอุปสรรคหนึ่ง