สัญญาณวันแตกหัก จังหวะ2โครงสร้างใหม่“พีระพันธุ์”! นายกฯไปพรรคบิ๊กฉิ่งสุดคึก

2381

จากที่พรรคพลังประชารัฐ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพปชร. นั่งเป็นประธานประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค โดยมีกก.บห.เข้าร่วมทั้งสองฟากฝ่าย???

มีทั้งนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และส.ส.บัญชีรายชื่อ นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง

ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรค นางนฤมล ภิญโญสิน เหรัญญิกพรรค นายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรค นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรค นายสุพล ฟองงาม ส.ส.บัญชีรายชื่อ นายสัมพันธ์ มะยูโซ๊ะ ส.ส.นราธิวาส นายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ ส.ส.ชลบุรี นายไผ่ ลิกค์ ส.ส.กำแพงเพชร ในฐานะรองเลขาธิการพรรค ฯลฯ

รวมถึง พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรค และ นายพีระพันธ์ พันธุ์สาลีรัฐวิภาค ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ในฐานะที่ปรึกษาหัวหน้าพรรค เข้าร่วมประชุมด้วยเป็นครั้งแรก

ต่อมาภายหลังการประชุม นายวิรัช  นายชัยวุฒิ นายสุชาติ ร่วมกันแถลง โดย นายวิรัชระบุว่า ทุกอย่างมันจบในที่ประชุมและเมื่อสักครู่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพปชร. ก็ได้ให้ตน นายสุชาติ และ นายชัยวุฒิ ลงมาแถลงว่าในส่วนของพรรคพปชร.ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ทุกอย่างในพรรคพปชร.ทั้งหมดจบที่พล.อ.ประวิตร โดยร.อ.ธรรมนัสยังเป็นเลขาฯพรรคต่อไป

โดยเมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ายังคงสนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกลาโหม ในการทำงานเหมือนเดิมใช่หรือไม่ นายวิรัช กล่าวว่า พรรคพปชร.ยื่นยัน สนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์ เป็นแคนดิเดตนายกฯของพรรคพปชร.

นั่นคือท่าทีของสองฝ่ายคู่ขัดแย้ง และผลประชุมพรรคที่ออกมา ซึ่งแม้เด็กไร้เดียงสาทางการเมืองก็ดูออกว่า งานนี้จบเหมือนไม่จบ!?!  พลังประชารัฐรอวันแตกหักเท่านั้น และสัญญาณที่ว่านี้ ก็คือการสั่งให้คู่กรณีมานั่งแถลงสร้างภาพความสามัคคี และเพื่อให้สอดรับกับข้อสังเกตุว่าพรรครอวันแตกหัก ก็คือ การเสนอปรับโครงสร้างพรรคของนายพีระพันธุ์ ซึ่งเปรียบเสมือนยาสามัญประจำบ้านของพลเอกประยุทธ์ นั่นเอง

หากว่าโครงสร้างใหม่ที่ว่านี้ ไม่ลงตัว สมประโยชน์กันแล้ว ย่อมต้องทางใครทางมันแน่นอน นั่นเพราะตอกย้ำว่า ความขัดแย้งภายในไม่มีวันสงบลงได้จริง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพลังประชารัฐยังมีเลขาพรรค ชื่อ ร.อ.ธรรมนัส และนั่นก็หมายความว่า ย่อมไม่มีคนชื่อ ประยุทธ์ ด้วยเช่น???

แม้พลเอกประวิตร จะสั่งให้ลูกพรรคไปดูถึงโครงสร้างใหม่ หากแต่ก็ยังติดพันร.อ.ธรรมนัส ว่าอย่างไรแล้ว ต้องอยู่เป็นเลขาพรรคพลังประชารัฐ เช่นนี้ก็ชัดเจนว่า พี่ป้อมไม่ได้เลือกน้องตู่ นั่นเอง!!!

หันมาที่พรรค  “บิ๊กฉิ่ง” ฉัตรชัย พรหมเลิศ  “อดีตปลัดกระทรวงมหาดไทย” ซึ่งก็ปรากฏข่าวมาเป็นระยะตั้งแต่ยังไม่เกษียณ ว่าจะเป็นผู้ที่บุกเบิกตั้งพรรคสำรองให้ พล.อ.ประยุทธ์  และ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และก็ว่ากันว่า พรรคใหม่ที่ว่านี้ ก็กำลังคึกคักเป็นอย่างยิ่ง พร้อมรับส.ส.ย้ายเข้ามา ซึ่งขณะนี้แว่วว่า บรรดานักการเมืองกำลังพูดถึง ชั่งน้ำหนัก รอช่วงเวลาที่จะพาเหรดเข้ามา เพราะทั้งหลายทั้งมวลต่างเชื่อว่า หากมีบิ๊กตู่ เป็นจุดขาย อย่างที่เคยเกิดขึ้นกับพรรคพลังประชารัฐ ย่อมมีโอกาสได้เป็นส.ส. ทั้งยังช่วยให้ บิ๊กตู่ นั่งนายกฯอีกสมัยได้ไม่ยากแน่นอน!!!