สหรัฐแทบคลั่ง!?!จีนมีชัยสงครามไฮเทค สร้างคาร์บอนชิป-ควอนตัมคอมฯ แซงหน้าเมกาแล้ว

4092

สหรัฐฯ สร้างความร้อนแรงให้กับสงครามเทคโนโลยีกับจีน โดยพยายามควบคุมอุปทานชิปคอมพิวเตอร์ทั่วโลก ด้วยการใช้ประโยชน์จากสิทธิบัตรและใบอนุญาตสำหรับการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ สั่งประเทศต้นทางผลิตชิปห้ามส่งให้จีน ทำให้จีนตกอยู่ในสภาวะเป็นรองมาระยะหนึ่ง ล่าสุดสถานการณ์พลิกผัน ด้วยความพยายามของนักวิทยาศาสตร์และรัฐบาลจีน สหรัฐและพันธมิตรต้องตกตะลึงกับผลงานความล้ำหน้าเกินคาดของจีน 2 เรื่องที่ทำให้โลกตื่นเต้น 

 

ประการแรกคือจีนได้สร้างคาร์บอน-เบสเซมิคอนดักเตอร์สำเร็จ พึ่งต้นเองได้ไม่ต้องง้อซิลิกอน-เบสเซมิคอนดักเตอร์ ที่สหรัฐใช้บีบจีนไม่ให้โตในอุตสาหกรรมไฮเทคทั้งหลาย

อีกประการหนึ่งคือ จีนได้บรรลุความสำเร็จ สามารถผลิตมหาซุปเปอร์คอมพิวเตอร์ควอนตัม แซงหน้าสหรัฐไปไกลแล้ว 

ความพยายามกดข่มจีนไม่ให้เติบโตทางเทคโนโลยี กลายเป็นแรงผลักดันให้จีนทำลายขีดจำกัดทั้งหลายได้อย่างรวดเร็วอย่างไม่น่าเชื่อ สมรภูมิการแข่งขันผู้นำไฮเทคโนโลยี วันนี้ จีนจึงชนะขาดอย่างชัดเจน

ชัยชนะสำคัญเรื่องแรกคือจีนพลิกวิกฤต ขาดแคลนชิป เป็น ค้นพบสิ่งใหม่ผลิตใช้ได้เอง ล้ำหน้ากว่ามีประสิทธิภาพเหนือกว่าชิปแบบเก่าที่สหรัฐฯและพวกหวงไว้ใช้คนเดียว เมื่อเทียบกับเทคโนโลยีปัจจุบันที่ใช้ซิลิกอนแล้ว  เซมิคอนดักเตอร์ที่ใช้คาร์บอนมีข้อดีที่ชัดเจน เช่น ความเสถียรของโครงสร้างที่สูงขึ้น ความเร็วในการรับส่งข้อมูลที่เร็วขึ้น และการใช้พลังงานที่ลดลง นอกจากนี้ เซมิคอนดักเตอร์คาร์บอนยังมีข้อจำกัดทางกายภาพที่สูงกว่า และช่วงเวลาการผลิตก็สั้นลงด้วย

ที่ผ่านมาเซมิคอนดักเตอร์ได้กลายเป็นหนึ่งในสินค้าโภคภัณฑ์ที่มีกลยุทธ์มากที่สุดในโลก หรืออย่างน้อยนั่นคือสิ่งที่วอชิงตันเห็น ส่วนประกอบเล็กๆ เหล่านี้จำเป็นต่อการขับเคลื่อนเทคโนโลยีระดับไฮเอนด์และอุปกรณ์ทางการทหาร ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญต่อความสมดุลของพลังงาน อาวุธยุทโธปกรณ์ทั่วโลกและอุตสาหกรรมอวกาศ

สหรัฐฯ ไม่ได้ครอบครองการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ในปัจจุบัน แต่มีองค์ความรู้เครือข่ายและสิทธิบัตรมากมาย เชื่อมโยงห่วงโซ่อุปทานระดับโลกเข้าด้วยกัน ซึ่งผู้ผลิตที่มีชื่อเสียงมากที่สุด ได้แก่ เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น และไต้หวันดำเนินนโยบายอิงสหรัฐอย่างชัดเจน เมื่อสหรัฐสั่งปิดกั้น ห้ามส่งให้จีนก็สามารถบีบจีนได้ระยะหนึ่ง

วันนี้จีนผลิตชิปคาร์บอน-เบส มีวางจำหน่ายแล้ว และจีนสามารถฝ่าฟันข้อจำกัดของเครื่องผลิตชิปที่เรียกว่าโฟโตลิโธกราฟฟี (photolithography) ได้ด้วย

สรุปว่านับแต่นี้ สหรัฐและพวกกลายเป็นตามหลังจีนใช้ ซิลิกอน-เบส ชิปแบบเก่าไปแล้ว และจีนไม่ต้องง้อเครื่องผลิตชิปที่ผูกขาดโดยหุ้นส่วนสหรัฐ-แคนาดา เพราะผลิตใช้เองได้แล้วเช่นกัน 

เรื่องที่น่าตื่นเต้นของชาวโลกอีกเรื่องคือ นักวิจัยจีนพัฒนา “คอมพิวเตอร์ควอนตัม” เวอร์ชั่นใหม่ เร็วกว่าซูเปอร์คอมพิวเตอร์อันดับหนึ่งในโลก “ล้านล้านล้านล้านเท่า”สำเร็จแล้ว

สำนักข่าวซินหัว สื่อทางการจีน รายงานเมื่อวันที่ 27 ต.ค.2564 คณะนักวิทยาศาสตร์จีนพัฒนา “จิ่วจาง 2.0” (Jiuzhang 2.0) ต้นแบบคอมพิวเตอร์ควอนตัม ซึ่งสามารถตรวจจับอนุภาคของแสงโฟตอน ได้สูงสุดถึง 113 หน่วย

รายงานระบุว่า จิ่วจาง 2.0 สามารถทำการสุ่มแบบจีบีเอส (GBS) ได้เร็วกว่าซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่เร็วที่สุดในโลก ถึงหนึ่งล้านล้านล้านล้านเท่า (septillion) หรือเท่ากับว่า ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่เร็วที่สุดในโลกจะใช้เวลาราว 30 ล้านล้านปี เพื่อแก้ปัญหาที่ “จิ่วจาง 2.0” สามารถแก้ได้ในเวลาเพียงแค่ 1 มิลลิวินาที

การสุ่มตัวอย่างแบบจีบีเอสเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพสูง ที่แสดงให้เห็นถึงความเร็วของการประมวลผลแบบควอนตัมในการแก้ไขปัญหาที่กำหนดบางประการ

นายลู่ เฉาหยาง สมาชิกคณะนักวิจัยและศาสตราจารย์จากมหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศจีนกล่าวว่า “เมื่อเทียบกับจิ่วจางรุ่นแรก คณะนักวิจัยได้ปรับปรุงสมรรถภาพและประสิทธิภาพด้านการกักเก็บแหล่งกำเนิดแสงควอนตัม ทั้งยังเพิ่มจำนวนโฟตอนที่สามารถตรวจจับได้ และแสดงให้เห็นว่าระบบประมวลผลแบบจีบีเอสนี้สามารถถูกโปรแกรมได้เป็นระยะ”

ทั้งนี้ คณะนักวิจัยระบุว่าความสามารถด้านการประมวลผลระดับสูงของ “จิ่วจาง 2.0” อาจนำไปประยุกต์ใช้ในสาขาความรู้ด้านต่างๆ ได้ เช่น ทฤษฎีกราฟ การเรียนรู้ของเครื่องจักร (machine learning) และเคมีควอนตัม เป็นต้น