จากที่ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ได้โพสต์ข้อความถึงคดีของอานนท์ จากการยื่นประกันตัว และมีการสอบถามถึงการไม่ให้ประกัน ซึ่งมีความน่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง เพื่อให้สังคมได้รับรู้ความจริง จึงขอนำมาเผยแพร่บาวงช่วงที่สำคัญ
ทั้งนี้โดยเฟซบุ๊ก ศูนย์ทนายความฯ ระบุว่า วันที่ 20 ตุลาคม 2564 ศาลอาญากรุงเทพใต้ นัดคุ้มครองสิทธิในคดีที่อานนท์ นำภา ทนายความและนักกิจกรรม ถูกพนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญากรุงเทพใต้ 4 สั่งฟ้องในข้อหา “หมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์” ตามมาตรา 112 กรณีปราศรัยในงานครบรอบ 1 ปี ม็อบแฮรี่พอตเตอร์ เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2564 โดยทนายความได้ยื่นคำร้องขอให้เบิกตัวอานนท์มาที่ศาล หลังจากตลอดการไต่สวนคัดค้านฝากขังในชั้นสอบสวนกระทำผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์รวม 7 ครั้ง
อัยการได้สั่งฟ้องคดีนี้เมื่อวันที่ 14 ตุลาคม ที่ผ่านมา รวมใช้เวลาในชั้นสอบสวน ตั้งแต่อานนท์เข้ามอบตัว ถูกแจ้งข้อหา และไม่ได้รับการประกันตัวมาตั้งแต่เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2564 เป็นระยะเวลา 2 เดือนเศษ
ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลอาญากรุงเทพใต้ นายธีร์รัฐ บุนนาค ได้อธิบายคำฟ้องและข้อหาที่ถูกฟ้อง รวมถึงแจ้งสิทธิของจำเลยให้อานนท์ทราบผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ โดยมีการสอบถามว่าจะสู้คดีอย่างไร จะรับสารภาพหรือไม่ โดยอานนท์ปฎิเสธทุกข้อกล่าวหา
ศาลได้ถามเหตุผลที่ปฎิเสธ อานนท์แถลงว่าในส่วนข้อหามาตรา 112 ตนไม่ทราบว่าอัยการฟ้องมาในเนื้อหาอย่างไร จำเป็นต้องตรวจสอบคำปราศรัยที่ถูกถอดเทปออกมาก่อน แต่ตนไม่สามารถตรวจสอบได้ในขณะนี้เพราะถูกคุมขังอยู่ ส่วนข้อหาฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ และ พ.ร.บ.โรคติดต่อฯ ตนมั่นใจว่างานดังกล่าวไม่ได้จัดในพื้นที่แออัดและมีการใส่หน้ากาก เว้นระยะห่าง ในส่วนของ พ.ร.บ.ควบคุมการโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียงฯ เนื่องจากตนไม่ได้เป็นผู้จัดการชุมนุม เปรียบเสมือนักร้องที่แค่ประกวดร้องเพลง จึงไม่น่าจะเข้าข่ายความผิดดังกล่าว
อานนท์ยังได้สอบถามผู้พิพากษาถึงเหตุที่จะเปลี่ยนแปลงคำสั่งไม่อนุญาตประกันตัว เนื่องจากตนยืนยันว่าสิ่งที่ทำเป็นการใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อวิพากษ์วิจารณ์รัฐ การให้เหตุผลว่าเกรงจะกระทำผิดซ้ำนี้ แปลว่ารัฐไม่สามารถวิพากษ์วิจารณ์ได้หรืออย่างไร ผู้พิพากษาตอบว่า สิ่งนี้เป็นคนละส่วนกัน และยินดีอย่างยิ่งที่จะชี้แจง โดยขอบคุณที่สอบถามเรื่องดังกล่าว
ผู้พิพากษาเริ่มต้นอธิบายว่า อำนาจการปล่อยตัวชั่วคราวไม่ได้อยู่ที่ตน ศาลไม่ใช่พวกของใครคนใดคนหนึ่ง หากสิ่งที่ทุกคนทำไม่เป็นความผิดตามข้อกฎหมาย ตำรวจ อัยการ ศาล ก็คงเอาผิดไม่ได้ แต่เมื่อมีตัวบทกฎหมายอยู่ก็ต้องบังคับใช้ เมื่อมีการสั่งฟ้องมา ศาลก็ต้องดำเนินการไปโดยยังไม่ได้บอกว่าผิดหรือไม่ผิดเพราะขณะนี้ยังไม่ใช่เวลาที่จะพิสูจน์ความจริง เนื่องจากยังไม่มีการสืบพยานเกิดขึ้น
ศาลอธิบายว่า การวางเงื่อนไขห้ามกระทำผิดซ้ำ ไม่ได้หมายความจำเลยกระทำความผิดแล้ว แต่กระทำในลักษณะเดียวกับที่ถูกกล่าวหาว่าผิด โดยการวางเงื่อนไข เป็นข้อตกลงที่ศาลกับจำเลยทำร่วมกัน โดยไม่ใช่และไม่ได้เป็นกฎหมาย หากข้อตกลงใดทำไม่ได้ อาจมีการเสนอขอเปลี่ยนข้อตกลง แต่การกระทำผิดข้อตกลง จนไม่ได้ประกันตัว ไม่ได้เป็นการละเมิดสิทธิในการได้รับการประกันตัว แต่ถือว่าจำเลยสละสิทธิ์ สละข้อตกลงโดยสมัครใจ ที่จะไม่ได้รับการประกันตัว หรือถูกถอนประกันเพราะกระทำผิดเงื่อนไข
อานนท์เขียนคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราว ระบุ “ในนัดคุ้มครองสิทธิ สิทธิที่มีค่าที่สุดคือการได้ประกันตัว”
ภายหลังเสร็จสิ้นนัดคุ้มครองสิทธิ อานนท์ได้ขอแบบฟอร์มคำร้องเพื่อเขียนคำร้องประกอบการขอปล่อยตัวชั่วคราวตนเอง
ในการยื่นขอประกัน หลายครั้งที่ศาลมีคำสั่งว่า “ไม่มีเหตุเปลี่ยนแปลงคำสั่ง” จำเลยประสงค์ขอศาลได้โปรดบอกเหตุที่จะเปลี่ยนแปลงคำสั่งนั้นแก่จำเลย เพื่อที่จำเลยจะได้ไปขวนขวายเหตุนั้นมาเพื่อให้ศาลพิจารณา
ทั้งนี้ เหตุที่ศาลขังจำเลยดังที่ศาลเคยสั่งไว้ก็ปราศจากข้อเท็จจริง เช่น ที่ศาลบอกว่าโทษสูง ในขณะคดีที่ฆ่าคนตาย ศาลก็ยังให้ประกัน หรือหากเกรงจะหลบหนี หรือหากเกรงจำเลยจะไปกระทำผิดซ้ำ จำเลยขอเรียนต่อศาลว่า การกระทำของจำเลยเป็นการใช้เสรีภาพในทางการเมือง หากศาลมองว่า การใช้เสรีภาพในทางการเมืองเป็นความผิดในรัฐประชาธิปไตย ก็จะเป็นเรื่องประหลาด ขอศาลได้โปรดพิจารณาในประเด็นนี้ด้วย
จำเลยประสงค์เสนอให้มีการแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ซึ่งได้ยกร่างไว้แล้ว คือ พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา พ.ศ….
ให้ยกเลิกประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112
จำเลยขอศาลได้โปรดพิจารณาปล่อยตัวชั่วคราวเพื่อให้จำเลยออกไปแสวงหาพยานหลักฐาน และให้จำเลยได้ออกไปล่ารายชื่อเสนอกฎหมายยกเลิกมาตรา 112 ตามครรลองประชาธิปไตยด้วย
เวลา 16.00 น. ทนายความได้ยื่นคำร้องประกอบการขอปล่อยตัวชั่วคราว ต่อมาเวลา 17.10 น. มนัส ภักดิ์ภูวดล รองอธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญากรุงเทพใต้ มีคำสั่งยกคำร้อง โดยพิเคราะห์แล้วไม่มีเหตุเปลี่ยนแปลงคำสั่ง
การยื่นประกันดังกล่าวของอานนท์ เป็นการยื่นเป็นครั้งที่ 9 หากนับตั้งแต่ในชั้นสอบสวนมาจนถึงชั้นพิจารณาของคดีปราศรัยครอบรอบ 1 ปี แฮร์รี่พอตเตอร์ โดยอานนท์ถูกคุมขังในเรือนจำพิเศษกรุงเทพมาแล้ว 72 วัน