หลังจากที่บช.น.ได้รุกเกมหนัก จัดการม็อบที่แยกดินแดง และประกาศว่าจะสามารถปิดเกมได้ในสิ้นเดือนต.ค.นี้ ซึ่งนับถอยหลังจากตอนนี้ จะเหลือเวลาอีกเพียง 1 สัปดาห์เท่านั้น ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าตรึงกำลัง ควบคุมพื้นที่ จนสามารถไล่กลุ่มทะลุแก๊สออกจากบริเวณดังกล่าวได้ทุกครั้ง และนับวันมวลชนฝั่งทะลุแก๊สก็เริ่มลดน้อยลง เนื่องจากถูกจับกุมดำเนินคดี และไร้เงินท่อน้ำเลี้ยงคอยหนุน
ที่ผ่านมามีข้อมูลจากหน่วยความมั่นคง เข้ามาตอกย้ำพฤติกรรมของม็อบกลุ่มนี้ ว่าเน้นสร้างแต่ความรุนแรง พกพาอาวุธเข้ามาชุมนุม และยังมีการขนเอาอาวุธ ทั้งระเบิดและปืนมาซุกในย่านแฟลตดินแดง นอกจากนี้ยังพบข้อมูลที่กลุ่มมวลชนเดินทางมาจากต่างจังหวัด เข้ามาหาที่กบดานเป็นห้องเช่า และบ้านในตรอกซอยลึก จึงอาจะเชื่อมโยงถึงกลุ่มเบื้องหลัง ที่จัดหาที่อยู่อาศัยให้กลุ่มนี้ออกป่วนเมืองด้วย
ขณะที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) นำโดยพล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รอง ผบช.น. ได้แถลงเมื่อวันที่ 21 ต.ค. ที่ผ่านมา “สรุปการดำเนินคดีตั้งแต่เดือน ก.ค. 2563 รวมทั้งสิ้น 716 คดี สอบสวนแล้ว 341 คดี อยู่ระหว่างสอบสวน 375 คดี” อีกทั้งเมื่อวันที่ 20 ต.ค. ขณะตำรวจควบคุมฝูงชน (คฝ.) ยืนรักษาความสงบเรียบร้อยที่ศาลฎีกา สามารถจับกุมผู้เตรียมก่อเหตุได้ 3 คน พร้อมของกลาง ประทัดบอล ลูกแก้ว และหนังสติ๊กหลายรายการถูกซุกซ่อนมากับรถจักรยานยนต์ โดยให้การรับสารภาพว่า จะไปร่วมก่อเหตุกับ กลุ่มทะลุแก๊ส, กลุ่มเสือหมอบแมวเซา แต่สับสนเรื่องสถานที่นัดหมายเข้าใจว่าเป็นที่ศาลฎีกา ก่อนนำตัวส่งดำเนินคดีตามกฎหมาย
ทั้งนี้จะเห็นว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจ เริ่มใช้ยาแรงจัดการกับกลุ่มม็อบทุกกลุ่มในช่วงเวลานี้ โดยมีระยะเวลาในสิ้นเดือนต.ค. เป็นเดิมพัน เพื่อพิสูจน์การทำงานของบช.น. และการขึ้นรับตำแหน่งของผบช.น. คนล่าสุด โดยตอนนี้กลุ่มทะลุแก๊สได้แยกตัวออกเป็นกลุ่มย่อยชัดเจน บางกลุ่มที่เป็นสายป่วนก็เลิกราการชุมนุมรุนแรง เนื่องจากกลัวถูกดำเนินคดีและไม่มีเงินสนับสนุน แต่ก็พบว่าบางกลุ่มยังถ่ายคลิปโชว์ผลงาน เพื่อขอแลกเงินบริจาค ซึ่งนั้นก็เป็นหลักฐานชั้นดี ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะเอาผิดได้ ทำให้น่าจับตาติดตามต่อไปว่า ในเวลาที่เหลืออีก 7 วันหลังจากนี้ บช.น.จะจบเกมได้จริงหรือไม่