“หมอวรงค์”ชวนคนไทยรื้อการศึกษาชาติ ขุดตอปัญหา หยุดชักธงแดง-ชูสามนิ้วได้

1305

จากที่วันที่ 16 ตุลาคม 2564 นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม หัวหน้าพรรคไทยภักดี ได้ออกมาโพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กถึงแนวคิดในการปฏิรูปการศึกษา เพื่ออนาคตของลูกหลาน โดยจะดำเนินการภายใต้นโยบายของพรรคอย่างน่าสนใจยิ่ง!!!

ทั้งนี้เนื้อหาที่หัวหน้าพรรคไทยภักดี ได้โพสต์ไว้มีดังนี้ #รื้อการศึกษาชาติ

ผมอยากจะเล่าว่า ที่ผ่านมา ผมได้มีโอกาสแลกเปลี่ยนความเห็นกับ นักวิชาการด้านการศึกษา ที่ผมฟังแล้วผมokมาก เพราะเขาตกผลึกความคิดด้านนี้ และมีประสบการณ์จริงด้านการศึกษา

ถ้าผมเปิดเผยชื่อ ลูกหลานคนดังๆในสังคม จะรู้จักชื่อเขาดี แต่เอาไว้ก่อนครับ เราได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็น ต่อปัญหาของสังคม ที่เกิดจากเยาวชนคนรุ่นใหม่ บทสรุปก็คือ เด็กเหล่านี้มีปัญหามาจาก ทั้งพ่อแม่ก็ไม่รู้ คุณครูก็ไม่เข้าใจ

ทางออกของประเทศคงหนีไม่พ้นคือ การให้การศึกษาที่ถูกต้อง ที่มีมาตรฐาน จากคนที่มีความสามารถจริงๆ เพราะระบบการศึกษาที่ผ่านมา ได้สร้างแต่สิ่งที่อยากจะบอกว่า

ไม่อาย ที่จะโทษฯ คนอื่น

ไม่อาย ที่จะอิจฉา คนอื่น

ไม่อาย ที่จะเรียกร้องอย่างเห็นแก่ตัว

ไม่อาย ที่จะขาดสติ ใช้ความรุนแรง ฯ

ไม่อาย ที่จะใช้อารมณ์ สนองความเห็นแก่ตัว

ไม่อาย ที่เอาเปรียบ ฯ

ไม่อาย ที่จะเอาแต่ง่าย

ไม่อาย ที่จะกลัว ลำบาก

ไม่อาย ที่ตัวเอง อ่านน้อย เรียนน้อย ทำน้อย รู้น้อย

ไม่อาย ที่จะใช้ชีวิต สนุกไปวันๆ

ไม่อาย ที่จะเป็นฝ่ายรับอย่างเดียว ..

ไม่อาย ที่จะอยากรวย อยากกอบโกย เข้าตัว

ไม่อาย ที่จะผิดศีลธรรม

ไม่อาย ฯลฯ ..

สิ่งที่ผมชอบมาก ระหว่างแลกเปลี่ยนคือ ระบบการเรียนของเรา เอาแต่ตามเพื่อน พ่อแม่ หรือตามกระแส ไม่มี career test นั่นคือต้องให้เด็กรู้จักตนเองว่า เก่งอะไร ชอบอะไร รักอะไร สนุกกับอะไร และท้ายที่สุด ทำอะไรแล้วชีวิตจึงมีความสุข ควรจะเรียนสิ่งนั้น

ผลที่เกิดขึ้นคือ เด็กก็ไม่รู้ เมื่อมาเจอครูก็ไม่รู้ และนับวันยิ่งไม่ได้เรื่อง อย่างที่เราเห็น มีทั้งชักธงดำ ธงแดง ชูสามนิ้ว ทั้งๆที่ไม่รู้ว่า ทำไปแล้ว ชีวิตจะดีขึ้นจริงหรือไม่ สุดท้ายสังคมจึงเป็นแบบที่เห็น

ผมชอบคำพูดที่ว่า ถ้าเราจะแข่งกับโลก เราต้องเอามาตรฐานโลกมาตั้ง ที่เขากล้าพูดกับผม เพราะเขาประสพผลสำเร็จ ที่ส่งเด็กเข้า top universityของโลก ดังนั้นการศึกษาไทย จะรอดได้เราต้องกล้า ที่เอามาตรฐานโลกมาตั้ง และปรับเพื่อมุ่งสู่มาตรฐานโลก

เราจบด้วยพันธะต่อกันว่า จะมาช่วยกันวางแผนปรับเปลี่ยน การศึกษาของชาติ แม้จะยาก และต้องใช้เวลาไม่น้อยกว่า 12 ปี เราต้องกล้าที่จะเริ่มต้น เพราะนี่คืออนาคตที่ดีของประเทศครับ

เราจะมาช่วยกันรื้อระบบการศึกษา เพื่ออนาคตที่ดีของลูกหลานเรา ในนามพรรคไทยภักดี เร็วๆนี้