หลังจากที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล นำทีมว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.จังหวัดขอนแก่น สักการะศาลหลักเมืองจังหวัดขอนแก่น พร้อมประกาศปักธงอีสานหน้าอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยขอนแก่น
โดยนายพิธา กล่าวว่า จังหวัดขอนแก่นถือเป็นประตูสู่อีสาน วันนี้พรรคก้าวไกลมี คุณวีรนันท์ ฮวดศรี ว่าที่ผู้สมัคร สส.เขตหนึ่งจังหวัดขอนแก่น ซึ่งเป็นทนายด้านสิทธิมนุษยชนที่อาสาเข้ามาเป็นตัวแทนของชาวขอนแก่น “คุณวีรนันท์ ฮวดศรี เป็นทนายความที่ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน เป็นทนายความให้กับทนายอานนท์ นำภา เป็นทนายความที่เชื่อมั่นและศรัทธาในระบอบประชาธิปไตย ยืนหยัดบนเส้นทางการต่อสู้เพื่อยืนยันว่า คนมีค่าเท่ากับคน เราสามารถมั่นใจได้ว่านี่คือนักประชาธิปไตยโดยแท้จริงที่จะแบกความหวังของพี่น้องประชาชนไว้บนบ่าแล้วเดินหน้าเข้าสู่สภาเพื่อต่อสู้กับความอยุติธรรมทั้งปวงในประเทศของพวกเรา”
“อย่างที่พวกเราพรรคก้าวไกลยืนยันมาโดยตลอ ดว่าจะเป็นนายกรัฐมนตรีของประเทศไทยได้ ต้องชนะใจคนอีสานให้ได้ ด้วยอุดมการณ์ที่แน่วแน่และความจริงใจทั้งหมดที่เรามี เราจะพยายามอย่างสุดความสามารถที่จะชนะใจคนขอนแก่นและประชาชนทั้งหมดในภาคอีสานต่อไป เมื่อคนอีสานไว้วางใจพรรคก้าวไกล ผมก็จะเป็นนายกรัฐมนตรีแห่งการเปลี่ยนแปลง ผมก็จะพาให้พรรคก้าวไกลเป็นพรรคแห่งการเปลี่ยนแปลง”
นอกจากนี้ ส.ส.พรรคก้าวไกล นำโดยวิโรจน์ ลักขณาอดิศร และนางอมรัตน์ โชติปมิตต์กุล ได้เดินทางไปรับฟังปัญหาของพี่น้องชุมชนริมทางรถไฟที่กำลังประสบปัญหาที่อยู่อาศัยและความปลอดภัยในชีวิตด้วย แต่การประกาศจุดประสงค์ของพรรคก้าวไกลในครั้งนี้ อาจจะต้องสู้ฟาดฟันกับฐานเสียงของพรรคเพื่อไทย และยังมีโพลสำรวจเสียงพี่น้องในภาคอีสานด้วยว่า “ถ้ามีการเลือกตั้งใหม่ ท่านอยากให้ใครเป็นนายกรัฐมนตรีเพื่อมาฟื้นฟูเศรษฐกิจ” พบว่า
อันดับหนึ่ง คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ร้อยละ 24.0
รองลงมา พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ร้อยละ 23.0
ตามมาด้วยหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ร้อยละ 22.1
พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา ร้อยละ 14.6
อย่างไรก็ตาม แม้ว่านายพิธาจะย้ำจุดยืน ว่าจะเอาชนะใจคนอีสานให้ได้ เพื่อที่ต้องการเป็นนายกฯ เนื่องจากเตรียมความพร้อมมาโดยตลอด แต่พบว่า เมื่อวันที่ 28 ก.ย. 2564 ที่พลเอกประยุทธ์ จะต้องลงพื้นที่ภาคอีสาน นางอมรัตน์ โชติปมิตต์กุล ส.ส.ก้าวไกล ได้ทวีตข้อความไว้ว่า “ถึงคิววัวชัยภูมิ ต้อนรับนายกควาย” ซึ่งข้อความนี้ อาจจะดูเป็นการใช้ถ้อยคำไม่เหมาะสม ถึงพี่น้องชาวอีสานด้วย
