ก้าวไกล ส่ง “ลูกเกด ชลธิชา” ลงส.ส.ปทุมฯ เจ้าตัวรับขาย่างคุกหลังโดนกว่า 30 คดีมีม.112ด้วย!
จากกรณีที่เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2564 ทางเพจ พรรคก้าวไกล ปทุมธานี ได้โพสต์ข้อความถึงกรณีของลูกเกด ชลธิชา ซึ่งเป็นแกนนำกลุ่มฟื้นฟูประชาธิปไตย ได้สมัครเป็นว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พรรคก้าวไกล จังหวัดปทุมธานี โดยระบุข้อความว่า
นี่จึงเป็นสิ่งที่คนไทยทุกคนต้องกังวล ไม่ใช่เพียงแค่เกดหรือแกนนำ เพราะการกระทำแบบนี้มันหมายความว่าหลักนิติรัฐบ้านเรามันพังไปแล้ว ผู้พิพากษาไม่มีอิสระในการตัดสินคดี หรือรัฐเองที่มักใช้กฎหมายกระบวนการยุติธรรมปิดปากประชาชน มันจึงแสดงให้เห็นว่าประเทศนี้ไม่มีอะไรเป็นเครื่องการันตีได้เลยว่า เมื่อเกิดเหตุจำเป็นที่ต้องเรียกร้องเรื่องความยุติธรรม ไม่จำเป็นต้องเป็นคดีทางการเมือง เช่น คดีทำร้ายร่างกาย เราไม่สามารถคาดหวังอะไรได้เลย ถ้ายังปล่อยให้มาตรฐานกระบวนการยุติธรรมมันตกต่ำขนาดนี้
ต่อมาวันที่ 6 พฤษภาคม เพจศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน รายงานว่า พนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีศาลแขวง 3 ได้มีคำสั่งฟ้องคดีของลูกเกด ชลธิชา แจ้งเร็ว ด้วยข้อหา ฝ่าฝืนประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง ตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ใน 2 คดี ได้แก่ คดีจากการชุมนุม #ม็อบ18ตุลาไปอนุสาวรีย์ชัย ที่บริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ และ คดีจากการชุมนุม #21ตุลาไปอนุสาวรีย์ชัย ซึ่งมีการเดินขบวนจากอนุสาวรีย์ชัยไปที่บริเวณหน้าทำเนียบรัฐบาล
หลังศาลรับฟ้อง ทนายจำเลยได้ยื่นประกันตัวระหว่างพิจารณา ศาลให้ประกันโดยวางหลักประกันเงินสดคดีละ 20,000 บาท รวมเป็น 40,000 บาท โดยเป็นหลักทรัพย์จากกองทุนราษฎรประสงค์ และกำหนดวันนัดพร้อมเพื่อสอบคำให้การทั้งสองคดีในวันที่ 9 ส.ค. 2564
อย่างไรก็ตาม ลักษณะต้องห้ามที่มิให้ใช้สิทธิสมัครเลือกตั้ง ส.ส. เช่น เป็นบุคคลล้มละลายหรือเคยเป็นบุคคลล้มละลายทุจริต, เป็นเจ้าของหรือผู้ถือหุ้นในกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชนใดๆ, อยู่ในระหว่างถูกเพิกถอนสิทธิ์เลือกตั้งไม่ว่าคดีนั้นจะถึงที่สุดแล้วหรือไม่ และเคยถูกสั่งให้ให้พ้นจากราชการ หน่วยงานของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจ เพราะทุจริตต่อหน้าที่หรือถือว่ากระทำการทุจริตหรือประพฤติมิชอบในวงราชการ, ต้องคำพิพากษาให้จำคุกและถูกคุมขังอยู่โยหมายของศาล, เคยต้องคำพิพากษาให้จำคุกโดยได้พ้นโทษมายังไม่ถึงห้าปีในวันเลือกตั้ง เว้นแต่ในความผิดอันได้กระทำโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ เป็นต้น