สหรัฐฯแพ้ยับ!?! เพนตากอนฟันธง จีนครองโลกAI ไปอีก 20 ปี

1306

คนเพนตากอนหัวร้อน แฉรัฐบาลสหรัฐว่าเชื่องช้า ไม่เอาจริงเอาจังในการพัฒนาปัญญาประดิษฐ์ และเทคโนโลยีล้ำสมัยที่เกี่ยวข้อง ทำให้ตามหลังจีน 15-20 ปี และด้วยการทำงานอุ้ยอ้ายแบบระบบราชการ ทำให้เกิดความท้อแท้หมดกำลังใจขอลาออกไปทำงานกับเอกชนดีกว่า ทำอึ้งกันไปทั้งโลกว่า สหรัฐอเมริกาที่เคยนำหน้าเทคโนโลยีหมดยุคลงแล้ว และแม้จะพยายามกีดกันการเติบโตของจีนในด้านความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีอย่างไรก็ไม่ทันกาลเสียแล้ว

สำนักข่าวรอยเตอร์สและสื่อตะวันตกรายงานเรื่องชวนอึ้งของสหรัฐฯว่า—อดีตหัวหน้าฝ่ายซอฟต์แวร์ของกระทรวงกลาโหมสหรัฐหรือเพนตากอน ชี้ว่า สหรัฐฯแพ้จีนแล้วในสนามรบปัญญาประดิษฐ์ หรือ เอไอ (AI) โดยขณะนี้จีนกำลังก้าวขึ้นมาครอบงำโลกในด้านนี้ด้วยขีดความสามารถด้านไซเบอร์ทะลุขีดจำกัด นอกจากนี้ยังประชดด้วยการลาออกจากหน่วยงานที่ตนสังกัดด้วย

นิโคลัส เชลแลน (Nicolas Chaillan) หัวหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายซอฟต์แวร์ (first chief software officer) ของเพนตากอนหรือกระทรวงกลาโหมแห่งสหรัฐฯ เปิดเผยถึงความเชื่องช้าของสหรัฐฯในการเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยีการทหาร และความล้มเหลวในการต่อกรกับจีนทำให้สหรัฐฯตกอยู่ในความเสี่ยงไปอีกนับสิบๆปี

อดีตหัวหน้าทีมเจ้าหน้าที่ฝ่ายซอฟต์แวร์ของกองทัพอากาศสหรัฐฯ กล่าวให้สัมภาษณ์กับสื่ออังกฤษ หนังสือพิมพ์ไฟแนลเชียลไทม์ส (Financial Times)ว่า “สหรัฐฯไม่อาจสู้จีนได้ในช่วง 15 ถึง 20 ปีข้างหน้านี้ ในความเห็นของผมตอนนี้เราแพ้แล้ว…มันจบแล้ว”

เชลแลน ได้ประกาศลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายซอฟต์แวร์ในโซเชียล มีเดีย Linkedin เมื่อต้นเดือนก.ย.ที่ผ่านมา และว่าเจ้าหน้าที่ทหารมักได้รับมอบหมายให้รับผิดชอบริเริ่มด้านไซเบอร์ครั้งแล้วครั้งเล่าในขณะที่พวกเขาขาดประสบการณ์ด้านนี้

เชลแลน กล่าวว่าเขาลาออกเพื่อประท้วงความล่าช้าในการเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยีในกองทัพสหรัฐฯ จีนที่ขณะนี้เป็นชาติอำนาจเศรษฐกิจอันดับที่สอง ได้ชนะสหรัฐฯแล้วในการต่อสู้สงคราม เอไอ และกำลังก้าวขึ้นกุมอำนาจครอบงำโลกในด้านเอไอ เนื่องจากความก้าวล้ำในการพัฒนาเอไอ ขีดความสามารถด้านการเรียนรู้ของเครื่องคอมพิวเตอร์และโลกไซเบอร์

อดีตหัวหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายซอฟต์แวร์ของทัพอากาศมะกันได้เปรียบเทียบความก้าวหน้าของจีนว่า การป้องกันทางไซเบอร์ของสหรัฐฯในบางหน่วยงานยังอยู่ในระดับอนุบาลเท่านั้นเมื่อเทียบกับจีน

 

จีน ซึ่งเป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับสองของโลก มีแนวโน้มที่จะครอบงำเทคโนโลยีสำคัญๆ ที่เกิดขึ้นใหม่มากมาย โดยเฉพาะปัญญาประดิษฐ์ ชีววิทยาสังเคราะห์ และพันธุศาสตร์ภายในหนึ่งทศวรรษหรือมากกว่านั้น ตามการประเมินของเวสเทิร์น อินเทลเลเจนซ์ (Western Intelligence)

เชลแลน ยังโทษ กูเกิล (Goggle) ในเรื่องความลังเลในการทำงานร่วมกับหน่วยงานกลาโหมด้านเทคโนโลยีเอไอ ในขณะที่บรรดาบริษัทจีน ถูกกำหนดให้เป็นภาระหน้าที่ที่จะต้องทำงานร่วมกับรัฐบาล และได้ “ลงทุนมหาศาล” ในการพัฒนาเอไอโดยไม่ต้องคำนึงถึงผลกระทบอะไร

เชลแลนกล่าวว่า ถึงแม้ว่าสหรัฐฯได้ทุ่มงบประมาณมากกว่าจีนอย่างน้อย3เท่าในการป้องกันทางไซเบอร์ แต่ก็ไม่บังเกิดประโยชน์ใด เนื่องจากวอชิงตันทุ่มเทผิดที่ผิดทาง และทำงานกันแบบ “ระบบราชการที่เต็มไปด้วยกฎระเบียบมากมายก่ายกอง” ในการเปลี่ยนแปลงด้านนี้