สี จิ้นผิงประกาศ!?!รวมไต้หวันสันติวิธีได้ คนนอกอย่าจุ้น พร้อมบวก

1351

ในการประชุมเฉลิมฉลองครบรอบ 110 ปีของการปฏิวัติในปี 1911 ประธานาธิบดีจีน สีจิ้นผิง กล่าวถึงภาระกิจรวมชาติเกาะไต้หวันจะต้องเป็นจริง พร้อมกับการฟื้นฟูชาติ และเตือนว่าผู้แยกดินแดนเป็นภัยคุกคามร้ายแรงต่อภารกิจนั้น ผู้ที่ทรยศต่อประเทศจะถูกตัดสินโดยประวัติศาสตร์ เขาตั้งข้อสังเกตว่า การรำลึกถึงการปฏิวัติในปี 1911 จะเป็นแรงบันดาลใจให้เกิดความพยายามในการฟื้นฟูชาติ 

วันนี้ วันที่ 9 ต.ค.2564 ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน ประกาศว่า การรวมไต้หวันเข้ากับจีนด้วยสันติวิธีจะต้องเกิดขึ้น และสามารถทำได้ หลังจากที่มีการตอกย้ำเจตนารมย์อันแน่วแน่ ส่งสัญญาณเตือนทั้งไต้หวัน และสหรัฐและพันธมิตรที่หนุนหลัง ด้วยการส่งเครื่องบินนับร้อยลำโฉบเข้าเขตแสดงตนเพื่อการป้องกันภัยทางอากาศหรือเอดีไอแซด (ADIZ) ของไต้หวันอย่างต่อเนื่อง ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ทำให้ไต้หวันผวาเรียกร้องสหรัฐและตะวันตกช่วย

ไต้หวันปกครองตนเองภายใต้ระบอบ 1 ประเทศสองระบบมาโดยตลอด  และยังไม่เคยมีรัฐบาลไต้หวันชุดไหน ประกาศเอกราชจากจีนอย่างเป็นทางการ ในขณะที่ปักกิ่งถือว่าเกาะแห่งนี้คือดินแดนอธิปไตยของตน และจำเป็นที่จะต้องถูกผนวกรวมเข้ามาอยู่ภายใต้การปกครองของจีนแผ่นดินใหญ่ในสักวันหนึ่ง แต่เมื่อไช่ อิงเหวิน เข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดี 2 สมัย ไต้หวันก็เริ่มมีท่าทีแข็งกร้าวต่อ รัฐบาลปักกิ่งมากขึ้นถี่ฃึ้น ท่าทีของจีนต่อไต้หวันจึงเปลี่ยนไป

ผู้เชี่ยวชาญจากจีนแผ่นดินใหญ่เตือนว่า การที่อำนาจของพรรค DPPของไช่ อิงเหวิน แสวงหาการแบ่งแยกดินแดนและการสนับสนุนจากสหรัฐฯ และพันธมิตรเป็นสาเหตุที่ทำให้สันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาคได้รับความเสียหาย และความพยายามของไช่กระตุ้นให้มีการตอบโต้ที่รุนแรงและหนักขึ้นจากแผ่นดินใหญ่ และทำให้กระบวนการการรวมชาติของจีนเร็วขึ้น

ปธน.สี จิ้นผิง กล่าวสุนทรพจน์เนื่องในวาระครบรอบ 110 ปี “การปฏิวัติซินไฮ่” ซึ่งโค่นล้มราชวงศ์ชิง และนำไปสู่การสถาปนาสาธารณรัฐจีนเมื่อปี 1911 ย้ำภารกิจที่มุ่งมันว่า

“การรวบรวมชาติโดยสันติวิธีจะเป็นประโยชน์อย่างสูงสุดแก่ชนชาติจีนโดยรวม รวมถึงพี่น้องในไต้หวัน” 

“การประกาศเป็นเอกราชของไต้หวันคืออุปสรรคใหญ่ที่สุดต่อการรวบรวมแผ่นดินแม่ และถือเป็นภัยร้ายแรงต่อการรวมชาติ” “การรวบรวมชาติอย่างสมบูรณ์จะต้องเกิดขึ้นแน่นอนและสามารถทำได้”

ผู้นำจีนยังเตือนต่างชาติว่าอย่าได้แทรกแซงกิจการภายในเรื่องไต้หวัน โดยปธน.สี ย้ำว่า “เรื่องไต้หวันถือเป็นกิจการภายในของจีนโดยแท้ และคนนอกไม่มีสิทธิเข้ามาก้าวก่าย” 

รัฐบาลปักกิ่งเริ่มใช้นโยบายแข็งกร้าวกับไต้หวันมากขึ้น หลังจากที่ ไช่ อิงเหวิน จากพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า (DPP) ขึ้นมาเป็นผู้นำไทเปสมัยแรกเมื่อปี 2016 โดย ไช่ นั้นแถลงในที่สาธารณะอยู่เสมอว่าไต้หวันเป็น“อิสระ”ไม่ต้องการอยู่ใต้อาณัติจีนแผ่นดินใหญ่ และประกาศจุดยืนหลายครั้งเรื่องนี้พร้อมยกระดับการทหารโชว์ศักยภาพการรบ อวดอาวุธยุทโธปกรณ์ใหม่ๆที่สั่งซื้อจากสหรัฐอย่างต่อเนื่อง

ปธน.ไช่ อิงเหวินของไต้หวันจะกล่าวสุนทรพจน์เนื่องในโอกาสครบรอบ 110 ปีการปฏิวัติจีนปี 1911 ในวันอาทิตย์ที่ 10 นี้ ซึ่งถือเป็นกิจกรรมเพียงไม่กี่อย่างที่จีนและไต้หวันทำร่วมกัน ก่อนหน้านี้ได้เรียกร้องให้สหรัฐและตะวันตกช่วยเหลือ ทั้งขู่ว่าถ้าปล่อยให้จีนรวมไต้หวันจะเกิดหายนะกับภูมิภาค

ชิว กั๋วเจิ้ง รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมไต้หวัน ได้แจ้งต่อคณะกรรมาธิการรัฐสภาเมื่อวันพุธที่ 6 ต.ค.ที่ผ่านมาว่า ความตึงเครียดระหว่างจีนกับไต้หวันในตอนนี้ถือว่าหนักหนาสาหัสที่สุดในรอบกว่า 40 ปี  หลังจากที่จีนส่งเครื่องบินทหารประมาณ 150 ลำรุกล้ำเข้าเขต ADIZ ของไต้หวันในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ซึ่งนับว่ามากเป็นประวัติการณ์

คำเตือนของ สี จิ้นผิง มีขึ้นหลังจากที่อังกฤษได้ส่งเรือรบล่องผ่านช่องแคบไต้หวันเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และยังมีคณะผู้แทนฝรั่งเศสเดินทางไปเยือนไทเปโดยไม่ใส่ใจคำทักท้วงของปักกิ่ง