เมื่อวานนี้เกิดเหตุการณ์ระทึกที่ไซบีเรีย เมื่อโรงงานผลิตก๊าซของ บริษัทยักษ์น้ำมัน “ก๊าซพรอม” แห่งรัสเซีย เกิดไฟไหม้ฉับพลันยังไม้รู้สาเหตุ ทำให้บริษัทฯสั่งปิดโรงงานแปรรูปก๊าซทันที ก่อนหน้านี้ผู้นำรัสเซียเพิ่งแสดงความยินดีกับความสำเร็จของท่อส่งก๊าซนอร์ดสตรีม 2 ที่กำลังจะเดินเครื่องส่งก๊าซให้ยุโรป พร้อมเพิ่มกำลังผลิต ทำให้ราคาน้ำมันผ่อนคลายลง และกำลังจะส่งก๊าซให้จีนตามคำขอเพื่อผ่อนคลายการขาดแคลนพลังงานในจีนช่วงนี้
วันที่ 8 ต.ค.2564 สำนักข่าวอินเตอร์แฟกซ์รายงานว่า บริษัทก๊าซพรอมซึ่งเป็นบริษัทพลังงานของรัฐบาลรัสเซีย ประกาศปิดโรงงานแปรรูปก๊าซอะมูร์ (Amur) ในภูมิภาคตะวันออกไกลของรัสเซีย หลังเกิดเหตุเพลิงไหม้เมื่อวานนี้ เพราะเกิดเหตุระเบิดขนาดมหึมาถล่มโรงงานแห่งนี้ในภูมิภาคอะมูร์ ซึ่งเป็นจุดอ้างอิงสำคัญบนท่อส่งก๊าซพาวเวอร์ออฟไซบีเรีย(Power of Siberia) ซึ่งจัดหาให้ทั้งรัสเซียตะวันออกไกลและจีน
ปักกิ่งได้ร้องขอความช่วยเหลือฉุกเฉินจากมอสโกในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา เนื่องจากต้องเผชิญกับวิกฤตด้านพลังงาน โดยหลายภูมิภาคต้องเผชิญกับไฟดับและปริมาณสำรองถ่านหินที่ลดน้อยลง
รายงานระบุว่า ขณะนี้ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่ารัฐบาลรัสเซียจะบังคับใช้มาตรการในขอบข่ายที่กว้างเพียงใด แต่ข้อมูลระบุว่า โรงงานแห่งนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการส่งออกก๊าซจากรัสเซียไปยังประเทศจีน เหตุเกิดขึ้นท่ามกลางวิกฤตขาดแคลนพลังงานทั้งในจีน และยุโรป ทำให้ราคาน้ำมันพุ่งสูงต่อเนื่อง เพราะความต้องการสูงกว่ากำลังผลิต สร้างความวิตกกังวลกับปัญหาเงินเฟ้อที่จะตามมา
ขณะเดียวกัน ผู้นำยุโรปกำลังเจรจากับรัสเซียและบริษัทก๊าซพรอม (Gazprom) เพื่อเพิ่มการจัดหาก๊าซเพื่อหลีกเลี่ยงสถานการณ์ที่ภัยพิบัติด้านพลังงานที่ก่อตัวขึ้น เมื่อฤดูหนาวย่างเข้ามา หากนอร์ดสตรีม2 (Nord Stream 2) ซึ่งเป็นท่อส่งก๊าซผ่านทะเลบอลติกที่เดินทางจากรัสเซียไปยังเยอรมนี เปิดให้บริการในฤดูหนาวนี้ ก็อาจช่วยให้ยุโรปเอาชนะสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดได้
อินเตอร์แฟกซ์รายงานโดยอ้างการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่ในโรงงานว่า
“การขนส่งก๊าซถูกระงับ และงานด้านการแปรรูปก๊าซได้ถูกระงับทั้งหมดเช่นกัน ส่วนการบริการฉุกเฉินยังคงดำเนินการต่อไป แม้ขณะนี้ยังไม่มีการยืนยันว่าสามารถควบคุมเพลิงได้แล้วหรือไม่ขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบหาสาเหตุ”
โรงงานของก๊าซพรอมแห่งนี้มีกำลังในการแปรรูปก๊าซได้ในปริมาณ 4.2 หมื่นล้านลูกบาศก์เมตรต่อปี ตั้งขึ้นในเดือนมิ.ย.ปีนี้และมีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยขนส่งก๊าซธรรมชาติให้กับจีนผ่านทางท่อส่งพาวเวอร์ออฟไซบีเรีย ทั้งนี้ มีการคาดการณ์ว่าโรงงานอะเมอร์(Amur) จะมีกำลังการผลิตอย่างเต็มศักยภาพในปี 2568 ซึ่งจะทำให้โรงงานแห่งนี้เป็นโรงงานแปรรูปก๊าซที่ใหญ่ที่สุดในโลก
เมื่อพิจารณาจากปริมาณการบริโภคทั่วโลก สหรัฐอเมริกาและรัสเซียต่างเป็นคู่แข่งสำคัญ ได้กลายเป็นผู้นำในการผลิตก๊าซของโลก แข่งขันกันอย่างต่อเนื่องเพื่ออำนาจสูงสุดและมีแหล่งสะสมความมั่งคั่งหลายร้อยแห่งในดินแดนของแต่ละฝ่าย
การผลิตก๊าซจากชั้นหินต่อปีของทั้งรัสเซียและสหรัฐคือ 40% ของปริมาณทั่วโลก สหรัฐอเมริกาได้เลิกนำเข้าก๊าซธรรมชาติ และกำลังพัฒนาเพื่อการส่งออกอย่างแข็งขัน
แนวโน้มของการผลิตก๊าซที่เพิ่มขึ้นซึ่งเริ่มขึ้นในกลางศตวรรษที่ 20 ได้เพิ่มขึ้นเป็นสิบเท่า ทั้งนี้เนื่องมาจากการเพิ่มขึ้นของอุตสาหกรรมการบิน ยานยนต์ และการขนส่งทางทะเล การพัฒนาอุตสาหกรรมเคมี และความต้องการทรัพยากรไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นเป็นหลายสิบเท่า จากการเติบโตของเหมืองขุดคริบโตฯ
อนาคตอันใกล้ที่ยานพาหนะรวมถึงรถยนต์ส่วนใหญ่ ใช้เชื้อเพลิงก๊าซที่มีราคาไม่แพงนัก ได้เพิ่มการผลิตของโลกหลายครั้งในช่วง8ปีที่ผ่านมา และได้เข้าครอบงำตลาดพลังงานด้วยการค้นพบแหล่งใหม่ รูปแบบการสะสม และวิธีการผลิตก๊าซที่อาศัยเทคโนโลยีล้ำสมัย
รัสเซียเป็นผู้ส่งออกก๊าซหลักของโลกและมีข้อได้เปรียบเหนือผู้ผลิตรายอื่น เนื่องจากการจัดหาวัตถุดิบสองวิธีคือจากทางทะเล โดยก๊าซจะถูกขนส่งในรูปของเหลว และทางท่อส่งก๊าซซึ่งปัจจุบัน มีนอร์ดสตรีม1 และนอร์ดสตรีม2เสร็จสมบูรณ์แล้วเตรียมเดินเครื่องส่งก๊าซสู่ยุโรป
