จบจริงแน่นอน! บช.น.เปิดแผนใหม่ รุกหนัก “ล็อกพื้นที่ดินแดง” ชาวแฟลตร่วมหนุน “ไล่บี้ทะลุแก๊ส” ไม่มีที่ยืน

1629

สืบเนื่องจากช่วงเช้าวันนี้ ( 8 ต.ค.) เมื่อเวลา 08.30 น. มีรายงานว่า พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. , พล.ต.อ.รอง อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร. และพล.ต.ท.สุรพงษ์ ถนอมจิตร ผู้บัญชาการตำรวจสันติบาล ได้เดินทางมายังตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล

โดยที่ทางด้านพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เดินทางถึงทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 08.45 น. โดยการมาพบกันครั้งนี้ไม่มีกำหนดการล่วงหน้าอย่างเป็นทางการ ทั้งนี้คณะของ ผบ.ตร.เดินทางกลับออกไปเมื่อเวลา 09.35 นโดยไม่ให้สัมภาษณ์ใด ๆ คาดว่าเป็นการมารายงานเกี่ยวกับการสถานการณ์การชุมนุมทางการเมืองที่แยกดินแดง ภายหลังมีเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชนได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการเข้าควบคุมพื้นที่ ที่แยกดินแดง เมื่อวันที่ 6 ต.ค. ที่ผ่านมา

โดยผู้บาดเจ็บคือ ส.ต.ต.เดชวิทย์ เล็ทเทนสัน ผบ.หมู่ กก.อารักขา 1 หรือหมู่เดวิด ถูกยิงเข้าที่ศีรษะกระสุนทะลุหมวกเข้าไปฝังในสมอง ตอนนี้อาการพ้นขีดอันตราย แต่ยังต้องรักษาตัวในไอซียู และทางด้านพล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษก ตร. ออกมาเปิดเผยว่า ถือเป็นพระมหากรุณาธิคุณที่ในหลวงทรงรับหมู่เดวิด ไว้เป็นผู้ป่วยในพระบรมราชานุเคราะห์ รวมทั้งผบ.ตร. หน่วยงานราชการตำรวจ พร้อมให้การช่วยเหลือเต็มที่ และจะเดินหน้าหาตัวมือยิงมาดำเนินคดีให้ได้

ขณะที่การชุมนุมในพื้นที่ดินแดง กำลังเป็นช่วงขาลงของม็อบกลุ่มทะลุแก๊ส รวมทั้งกลุ่มอิสระอีกจำนวนมาก เนื่องจากถูกเจ้าหน้าที่คฝ.รุกหนัก ไล่ปิดเกมรายวัน บวกกับมีเจ้าหน้าที่คฝ.บาดเจ็บสาหัส ยิ่งทำให้ทางเจ้าหน้าที่ต้องเข้มงวดมากขึ้น เพราะล่าสุดทางด้านพ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชน “ตำรวจ คฝ.” ได้สนธิกำลังร่วมกับตำรวจกองบังคับการตำรวจนครบาล 3 รวม 2 กองร้อย ปล่อยแถวบริเวณชุมชนแฟลตดินแดง เพื่อปฏิบัติการปิดล็อกพื้นที่ตั้งแต่เวลา “4 ทุ่ม-ตี 4” ซึ่งเป็นช่วงเวลาเคอร์ฟิว และมักจะเป็นช่วงเวลาที่กลุ่มวัยรุ่นทะลุแก๊ส ก่อความวุ่นวาย โดยตำรวจมีการประกาศให้ชาวชุมนุมแฟลตดินแดง กลับเข้าเคหสถาน และไม่ออกมาตลอดช่วงเวลาเคอร์ฟิวด้วย

สำหรับมาตรการนี้ จะเน้นกวดขันไม่ให้ผู้ชุมนุม หรือบุคคลภายนอกปะปน แฝงตัวเข้าไปในชุมชนแฟลตดินแดง และก่อความวุ่นวาย ซึ่งยังได้รับความร่วมมือกับชาวชุมชนแฟลตดินแดง ร่วมเป็นสายตรวจร่วม คอยสอดส่องดูแลคนนอกพื้นที่ เพื่อป้องกันเหตุต่างๆ ด้วย ทั้งนี้การจับกุมผู้ชุมนุมกว่า 70 คนเมื่อวานนี้ (7ต.ค.) เป็นการจับกุมตามกฎหมาย ที่ออกนอกเคหสถานในช่วงเวลาเคอร์ฟิว “4ทุ่ม-ตี4” เป็นการฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ซึ่งทางตำรวจก็จะมีการคัดกรองผู้กระทำผิดตามกระบวนการ

 

รวมทั้งก่อนหน้านี้ ทางบช.น. ประเมินกลุ่มม็อบไว้ว่า แนวโน้มการชุมนุมอาจเกิด 2 จุด คือบริเวณแยกนางเลิ้ง และดินแดง แต่จำนวนผู้ชุมนุมไม่มาก คาดอีกไม่กี่วันจะมีการใช้มาตรการทางกฎหมายให้เข้มข้นมากขึ้น หลังมีการประสานหน่วยงานในกระบวนการยุติธรรมอื่น ๆ ควบคู่กับการปรับยุทธวิธีให้เข้ากับสถานการณ์ชุมนุมอย่างต่อเนื่อง

อย่างไรก็ตามผู้ชุมนุมที่ถูกจับ ได้เล่าถึงเบื้องหลัง ที่ในม็อบมีการปลอมเป็นพยาบาล และยัดอาวุธไว้ในกระเป๋า พร้อมส่งต่อให้ผู้ชุมนุมได้นำไปสกัดเจ้าหน้าที่คฝ. ซึ่งงานนี้หากประเมินท่าทีของม็อบและการรุกหนักของเจ้าหน้าที่แล้ว ม็อบดินแดงอาจจะต้องจบเกมจริง ๆ เพราะแม้แต่ผู้ชุมนุมด้วยกันเอง ยังยอมรับไม่ได้ด้วย ที่ม็อบมีแต่ความรุนแรง