หลังจากเมื่อวันที่ 20 ก.ย. 2564 ที่ทางด้านนายไชยอมร แก้ววิบูลพันธุ์ หรือแอมมี่ เดอะบอททอมบลูส์ ได้โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า “ผมไม่สนหรอก ก้าวไกลหรือเพื่อไทย เรื่องการเมืองมันซับซ้อน และตลกดีนะ ในขณะเค้าทะเลาะกันมีนักศึกษาคนนึง ผู้ที่เชื่อในอุดมการณ์ติดคุกเพราะกล้าพูดความจริง แทนความในใจของผู้ถูกกดขี่ทั้งหลายที่ไม่เคยแม้แต่จะกล้าส่งเสียงในที่แจ้ง หนุ่มน้อยคนนี้ ชื่อ เพนกวิ้น พริษฐ์ ชิวารักษ์
ผมไม่ได้เชียร์ก้าวไกลนะ แต่ผมเคยถามกวิ้นว่า มึงจะลงเล่นการเมืองใช่มั้ย? กวิ้น มันตอบว่า ไม่เคยคิดเลยพี่ ผมอยากเป็นอาจารย์สอนประวัติศาสตร์ล้านนา นั้นคือความฝันผม ผมถามต่อว่าแล้วนักการเมืองที่มึงชอบอะ ตอนนี้มีใคร มีไหม? มันตอบว่า พี่เจี้ยบ อมรัตน์ สำหรับผมการเรียกร้องครั้งนี้มันมีค่ามากกว่า ผลประโยชน์นานาประการ โควต้า ส.ส. ที่ใช้ในการประกันตัว ต้องยกให้ก้าวไกล แต่ก้าวไกลก็ขี้เหนียว กลับกันเป็นเพื่อไทยที่สู้ไปกราบไป ที่คอยสนับสนุนเงินทุนบ้าง
บทความนี้อาจดูดิบไปหน่อย ไม่มีแหล่งอ้างอิง และเชื่อถือไม่ได้ ให้คิดว่าเป็นนิทานเรื่องนึง แต่ผมแค่จะบอกว่า คนจริงอยู่ที่ไหนก็ได้ ไม่เกี่ยวกับนโยบายของสังกัด เพราะการใช้โควต้าประกันตัวเด็ก มันคือเรื่องของความเป็น “มนุษย์” และถึงไม่มีเงินทุนสนับสนุน หรือโควต้า ส.ส. ที่ใช้ประกันตัว ผมไม่สนใจ พวกผมสู้ด้วยใจและอยากเห็นอนาคตที่ดีกว่า เพื่อมวลชน มันบริสุทธิ์มากกว่าทุกสิ่ง”
จนต่อมา วันที่ 27 ก.ย. 64 นายสนธิญา สวัสดี ที่ปรึกษากรรมาธิการ(กมธ.) การกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร ได้ยื่นต่อกกต. เพื่อขอให้ตรวจสอบจริยธรรมพรรคเพื่อไทย ตามพ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 มาตรา 15 (1) มาตรา 21, 22, 23 และเป็นไปตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 224 (5) กรณีแถลงการณ์ของพรรคเพื่อไทย เมื่อ 24 ก.ย.64 เพื่อฟ้องกลับนายสนธิญา ในประเด็นที่เคยยื่นยุบพรรคเพื่อไทย หลังจากที่นายไชยอมร แก้ววิบูลพันธุ์ หรือแอมมี่ เดอะบอททอมบลูส์ โพสต์อ้างพรรคเพื่อไทยสนับสนุนการเงินให้กับการชุมนุมทางการเมือง
และเมื่อวันที่ 2 ต.ค. 2564 แอมมี่ ยังโพสต์ข้อความอีกว่า “ขอโทษหว่ะพี่” สายสุดท้ายก่อนเข้าเรือนจำ ไดโน๊ะ ซาโตะ #ทะลุฟ้ามันก็น่าน้อยใจนะสหาย พวกเราสู้ และถูกจับเข้าเรือนจำ ไปทีละคนสองคนราวกับว่า เป็นเรื่องธรรมดาชินตาไปเสียแล้ว ประยุทธ์ ยังอยู่ดี ทุกคนก็ดูเต็มที่กับการหาเสียง สังคมไทยเพียงขอ แค่กูอยู่รอดไปวัน ๆ และนิ่งเฉย กับความอยุติธรรมที่รายล้อม ทอดทิ้งคนที่พวกเค้าเคยเอ่ยว่า “ขอบคุณนะที่ออกมาสู้แทน” ไปแล้วจริง ๆ หรือ #อย่าลืมเพื่อนเรา
โดยจากข้อความของแอมมี่ ที่ระยะหลังเจ้าตัวยอมพลีชีพออกมาแฉกระบวนในม็อบ 3 นิ้วแบบรายวัน นับตั้งแต่ตัวเองตกเป็นผู้ต้องหาในคดีวางเพลิงเผาพระบรมฉายาลักษณ์ หน้าเรือนจำคลองเปรม และต้องแตกหักกับกลุ่มเพื่อนซี้ ที่เป็นท่อน้ำเลี้ยงของม็อบ แอมมี่ถือว่าเป็นอีกหนึ่งบุคคลที่มีบทบาทในการเคลื่อนไหวม็อบ 3 นิ้ว ไม่แพ้คนอื่น ๆ เพราะคดีที่ก่อเหตุนั้นค่อนข้างเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ แม้แต่มวลชนในม็อบเดียวกันก็ไม่ได้เห็นดีเห็นงามด้วย ระยะหลังที่แอมมี่ ตัดสินใจออกมาแฉเบื้องหลังม็อบ ที่แน่นอนว่ามีนักการเมืองหนุนหลัง จากหลาย ๆ พรรค และแอมมี่คงไม่หยุดอยู่แค่นี้ ตราบใดที่ยังมีบรรดาแกนนำ และตัวหลัก ๆ ในการขับเคลื่อนม็อบต้องเดินเข้าเรือนจำ
ทั้งนี้แนวคิดของแอมมี่ ที่มองว่า สุดท้ายแล้ว นักการเมืองก็ปล่อยให้กลุ่มม็อบสู้เพียงลำพัง แม้ว่าตอนแรกมวลชนจะยอมทำตามแรงยุ แรงหนุนทุกอย่าง แต่พอเกิดเรื่อง มีคดี นักการเมืองก็รีบเทม็อบทันที และยิ่งชัดเจนว่า สุดท้ายนักการเมืองก็มองแต่ผลประโยชน์ตัวเอง ออกมาหาเสียง ได้คะแนนนิยม และได้เป็นใหญ่เป็นโต แต่ชีวิตของแกนนำที่สู้ ก็ไม่พ้นต้องอยู่ในคุก
หากย้อนไปดูม็อบใหญ่ ๆ ในอดีต ทั้งของแนวร่วมพันธมิตรและกลุ่มกปปส. ก็เป็นเช่นเดียวกัน แกนนำล้วนโดนคดี มีโทษที่ต้องรับผิดไปตามวาระ แล้วม็อบข้างถนนแบบกลุ่ม 3 นิ้ว จะเหลืออะไร นั่นเป็นคำถามที่น่าคิดตามอย่างยิ่ง ม็อบพันธมิตร ศาลฎีกามีคำสั่งให้ 13 แกนนำพันธมิตร ชดใช้ 522 ล้าน คดีปิดสนามบิน , กลุ่มม็อบกปปส. ศาลจำคุก “สุเทพ และ 8 แกนนำกปปส.” คดีกบฏ พร้อมตัดสิทธิ์การมืองทันที ขณะที่กลุ่มม็อบเสื้อแดง ศาลฎีกาพิพากษาจำคุก 2 ปี 8 เดือน แกนนำนปช. ทั้งนายวีระกานต์ ,เต้น ณัฐวุฒิ ,นพ.เหวง และนายวิภูแถลง คดี “บุกบ้านป๋าเปรม”
ส่วนนายจตุพร ก็มีความผิดเช่นกัน เพียงแต่คดีอยู่อีกสำนวน และนายจตุพร ได้พูดไว้ตั้งแต่ วันที่ 26 มิ.ย. 63 ด้วยว่า ” บนหนทางการต่อสู้ของพวกเรา ไม่ตายก็ติดคุก เรามีสองพื้นที่เท่านั้น เพียงแต่ต่างเวลากัน คือไม่ตายก็ติดคุก นี่คือสัจธรรมของชีวิต ซึ่งเกิดกับคนเสื้อแดง และเสื้อเหลือง บางคนถูกยึดบ้าน พิทักษ์ทรัพย์ ต้องเรี่ยไรหมู่มิตรมาช่วยไถ่ถอน ความทุกข์กันคนละอย่าง ผมยังเห็นว่า ทุกฝ่ายที่ต่อสู้กันมา อยู่ในห้วงความทุกข์ทั้งสิ้น”
ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลก หาก “แอมมี่ เดอะบอททอมบลูส์” กำลังคิดว่า ในเวลานี้ม็อบ 3 นิ้วถูกนักการเมืองเทจนสิ้น เหมือนโดนหลอกให้ออกมาต่อสู้ เพื่อหวังชัยชนะ แต่สุดท้ายก็ไม่เป็นแบบที่คาดคิดไว้ วันนี้นอกจากบรรดาแกนนำจะมีคดี เดินเข้าคุกไปเรื่อย ๆ แบบรายวันแล้ว ม็อบก็ยังจุดไม่ติดด้วย มีเพียงนักการเมืองเท่านั้นที่ได้ประโยชน์ และปล่อยให้แกนนำเป็นโล่รับโทษแทน
