เปิดลึก!ที่มา“สส.เพื่อไทย”โดนปปช.ชี้มูลตบทรัพย์ 5 ล้าน พบคนในพรรคเคยแฉกันเอง

1851

จากที่ นิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช.ได้แถลงกรณีข้อกล่าวหาที่ ศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล กล่าวหานักการเมืองฝ่ายค้านคนหนึ่งเรียกรับเงินนั้น

ทั้งนี้นายศักดิ์ดา กล่าวในที่ประชุมอนุกรรมาธิการแผนบูรณาการ 2 ในคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2564 ที่มีการประชุมพิจารณางบประมาณแผนบูรณาการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ ในส่วนของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม 2 กรม คือ กรมทรัพยากรน้ำบาดาล และกรมทรัพยากรน้ำ ว่ามีอนุกรรมาธิการ (อนุ กมธ.) บางคนโทรศัพท์เรียกเงิน 5 ล้านบาท แลกกับการผ่านงบประมาณ

นายนิวัติไชย กล่าวว่า ป.ป.ช.ได้มีการสั่งตั้งอนุกรรมการไต่สวน นายอนุรักษ์ ตั้งปณิธานนท์ ส.ส.มุกดาหาร พรรคเพื่อไทย และนางนันทนา สงฆ์ประชา ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาภิวัฒน์ โดยจากการไต่สวน นายนายศักดิ์ดา ให้ข้อมูลว่า นายอนุรักษ์ได้เรียกรับเงินทางโทรศัพท์ โดยมีนางนันทนา เป็นผู้โทรศัพท์ประสานงาน

“จากการไต่สวนและการเช็คข้อมูลจากโทรศัพท์ ช่วงระยะเวลาที่มีการโทร เจือสมพยานหลักฐาน จึงเชื่อได้ว่านายอนุรักษ์ ได้มีการเรียกรับเงินจากนายศักดิ์ดาจริง มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 149 ประกอบ พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต มาตรา 123/5 ฐานเรียกรับ ยอมรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดเพื่อตัวเองโดยไม่ชอบ และยังเป็นการกระทำอันเป็นการฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง ตามมาตราฐานทางจริยธรรมของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ และผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ รวมทั้งผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน และหัวหน้าหน่วยงานธุรการของศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระ”

นอกจากนี้ เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ยังกล่าวอีกว่า หลังจากนี้ในส่วนของความผิดทางจริยธรรม ป.ป.ช.จะยื่นคำร้องไปยังศาลฎีกาโดยตรง ส่วนคดีอาญาจะยื่นคำร้องไปยังอัยการสูงสุดเพื่อฟ้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองต่อไป ส่วนข้อกล่าวหานางนันทนา ไม่มีมูลว่าเกี่ยวข้องกับการเรียกรับเงินดังกล่าว แต่ไม่มีการแจ้งข้อสังเกตไปยังสภาฯ ในเรื่องที่นางนันทนา โทรประสานงานทั้งที่ไม่ใช่หน้าที่

ขณะที่มติชนออนไลน์ เผยแพร่เนื้อหาข่าวในส่วนของนายอนุรักษ์ ไว้บางช่วงว่า ตนเพิ่งแก้ต่างไปเมื่อเดือนที่แล้ว ถือว่าเร็วมาก  และพยานที่ตนอ้างไปตนโทรเช็คแล้วปรากฎว่า ไม่มีการเรียกไปสอบเลยสักคน ดังนั้น ขอถามว่า แบบนี้ตนได้รับความเป็นธรรมหรือไม่ หลังจากนี้ต้องรอให้ได้เอกสารก่อน ตนเองก็เป็นนักกฎหมายเพื่อที่จะสามารถโต้ตอบได้ และการให้ข่าวนี้ตนก็ว่าไม่ค่อยถูกต้อง ซึ่งทีมกฎหมายตนอาจจะฟ้องเลขาป.ป.ช.ที่ไปให้ข่าว เพราะเรื่องนี้เป็นเพียงการกล่าวหา เขาผิดหรือยังก็ไม่รู้ แต่การให้ข่าวไปแบบนี้ความเสียหายเกิดขึ้นกับตนแล้ว

นั่นเองที่ทำให้ทีมข่าวเดอะทรูธ ได้ตรวจสอบถึงที่มาเรื่องดังกล่าว ก็พบว่า  เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2563 มีรายงานข่าวจากรัฐสภาคณะอนุกรรมาธิการแผนบูรณาการ 2 ในคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2564 ที่มี น.ส.แนน บุณย์ธิดา สมชัย ส.ส.อุบลราชธานี พรรคประชาธิปัตย์ เป็นประธาน ซึ่งประชุมกันเมื่อวันที่ 5 ส.ค. มีวาระพิจารณางบประมาณแผนบูรณาการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ ประกอบด้วย กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในส่วนของ 2 กรมคือ กรมทรัพยากรน้ำบาดาล งบประมาณ 1,276,572,100 บาท และกรมทรัพยากรน้ำ งบประมาณ 3,772,802,200  บาท

โดยรายงานข่าวเปิดเผยว่า ระหว่างการประชุมได้เกิดปัญหาอนุกรรมาธิการฯไม่ยอมปล่อยผ่านเห็นชอบงบประมาณของกรมทรัพยากรน้ำบาดาล จนทำให้นายศักดา วิเชียรศิลป์ อธิบดีกรมน้ำบาดาล ถึงกับระเบิดกลางที่ประชุมว่ามีอนุกรรมาธิการฯ บางคนโทรศัพท์เรียกเงิน 5 ล้านบาท แลกกับการผ่านงบประมาณให้ และขู่ว่าจะนำเรื่องนี้ไปแถลงต่อสื่อมวลชน

8 สิงหาคม 2563 นายศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกตุ ส.ส.อุตรดิตถ์ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ตนอยู่ในเหตุการณ์ดังกล่าว โดยอยู่เคียงข้างอธิบดีกรมน้ำบาดาล และได้กล่าวในที่ประชุมด้วยว่า เวลาจะซักถามประเด็นอะไร ก็ต้องให้เกียรติข้าราชการ ไม่ใช่ไล่บี้ ไล่ต้อน เหมือนหมาป่าจะกินลูกแกะ คาดว่าอธิบดีคงอึดอัดมาก ถามว่าส.ส.รายดังกล่าวคือใคร ตนไม่อยากพูด แต่คนเหล่านี้คือหน้าเดิมๆ เป็นพฤติกรรมที่เกิดขึ้นมานาน เข้ามาในกรรมาธิการงบประมาณทุกปี มีการหากินเป็นล่ำเป็นสัน ซึ่งตนรับไม่ได้ เพราะทำประเทศชาติเสียหาย

ต่อมาวันที่ 9 สิงหาคม 2563 นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ทส.) กล่าวถึง กรณีอธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล ออกมาระบุว่ามีกลุ่มส.ส.เรียกเงิน5ล้าน หรือตบทรัพย์ในสภา เพื่อแลกเงินกับการผ่านงบประมาณ ว่าได้สั่งการให้อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล รวบรวมข้อมูลเอกสาร มาให้ตน เพราะการพูดกันไปมา ถกเถียงเรื่องปรับลดงบประมาณในกรรมาธิการกับข้าราชการ มักเกิดปัญหามาทุกปี ดังนั้นขณะนี้ยังไม่ทราบข้อเท็จจริง ต้องรอข้อมูลทั้งหมดก่อน