หลังจากที่กลุ่มทะลุฟ้ายังคงนัดหมายชุมนุมป่วนเมือง เพื่อเรียกร้องให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ลาออก ที่บริเวณแยกนางเลิ้ง ใกล้กับทำเนียบรัฐบาล
โดยชุมนุมต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 3 เพื่อต้องการจะเคลื่อนขบวนไปให้ถึงหน้าทำเนียบรัฐบาล พร้อมนำอุปกรณ์และป้ายข้อความมาเดินขบวนและมีการตอบโต้กับเจ้าหน้าที่ ขณะที่ฝ่ายเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชน(คฝ.) ตั้งรับเต็มที่
จนเมื่อเวลา 17.40 น. เจ้าหน้าที่คฝ.ได้นำชุดเคลื่อนที่เร็วประจำการ ทั้งบนรถกระบะ และรถจักรยานยนต์ เข้าจู่โจมเพื่อสลายการชุมนุมกลุ่มทะลุฟ้า โดยได้นำกำลังเข้าไปตามซอยย่านนางเลิ้งและเข้าจับกุมผู้ชุมนุมได้ส่วนหนึ่ง ส่วนที่เหลือแตกกระเจิงไปคนละทิศละทางเหมือน 2 วันก่อน ซึ่งการชุมนุมต้องจบลงอย่างรวดเร็ว ร่นระยะเวลาลงมาเรื่อย ๆ แต่กลุ่มทะลุฟ้ายังคงประกาศจะรวมตัวต่อไป
ทั้งนี้การเคลื่อนไหวของกลุ่มทะลุฟ้า เริ่มรุกหนักเหมือนกับกลุ่มที่แยกดินแดงก่อนหน้านี้ แต่เปลี่ยนจุดชุมนุมมาเป็นแยกนางเลิ้งแทน ซึ่งจะเห็นได้ว่า ตอนนี้ที่แยกดินแดงเริ่มมีมวลชนไปรวมตัวน้อยลง บรรดาก๊วนทะลุแก๊สก็ย้านมาปักหลักกับกลุ่มทะลุฟ้าแทน โดยการยึดรูปแบบม็อบที่ดินแดง ก็มีตัวอย่างให้แล้วว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจนั้นเอาจริงมากขึ้น ทั้งจับกุมและดำเนินคดี หากจะชุมนุมตรงจุดแยกนางเลิ้งต่อไป อาจจะมีจุดจบแบบแยกดินแดงแน่นอน
นอกจากนี้หากย้อนไปเมื่อวันที่ 27 ก.ย. 64 แฟนเพจเฟซบุ๊ก ไผ่ ดาวดิน จตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือไผ่ ดาวดิน แกนนำกลุ่มทะลุฟ้า ได้โพสต์ข้อความฝากจากการเข้าเยี่ยม โดยนายจตุภัทร์ โดยระบุว่า สบายใจที่เห็นว่าไผ่ติดคุกแล้ว ทะลุฟ้ายังสามารถเคลื่อนไหวต่อไปได้ จากที่ครั้งก่อนไผ่ติดคุกแล้วความเคลื่อนไหวมันแผ่ว ๆ ครั้งนี้ทะลุฟ้าเคลื่อนไหวต่อไปได้ก็ถือว่าประสบความสำเร็จ
อย่างไรก็ตามแม้ว่าจะยังมีแกนนำ ที่คอยหนุนและฝากฝังให้กลุ่มทะลุฟ้าเดินหน้าต่อ แต่ก็อาจจะไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง เนื่องจากยังมีคนถูกจับรายวัน และกระแสของม็อบก็แผ่วลงอย่างเห็นได้ชัด หากยังคิดจะปักหลักชุมนุมบริเวณแยกนางเลิ้ง และขัดขวางการจราจร อาจจะถูกสังคมกดดันมากขึ้น เพราะไม่ได้มาชุมนุมแบบสันติอย่างที่กล่าวอ้าง
